เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2566 นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์สั่งการชายแดน ไทย – เมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย เมียนมา ด้านตรงข้ามอำเภอแม่สะเรียง และอำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ระหว่างกองกำลังทหารเมียนมาและชนกลุ่มน้อยในรัฐคะยาเบื้องต้นยังไม่มีผลกระทบสำหรับราษฎร์ในฝั่งประเทศไทย แต่มีผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบชาวกะเหรี่ยง เข้ามาหลบภัยสงครามกว่า 1,407 คน ในพื้นที่ตะเข็บแฝชายแดนไทยใน 2 อำเภอ ซึ่งเบื้องต้นฝ่ายปกครอง อำเภอแม่สะเรียง อำเภอขุนยวม หน่วยงานด้านความมั่นคง และกำลังทหารหน่วยเฉพาะกิจสิงหนาท กองกำลังนเรศวร ได้จัดกำลังเข้าไปดูแลความปลอดภัยตามหลักมนุษยธรรมในเบื้องต้นแล้ว
สำหรับสถานการณ์บริเวณพื้นที่แนวชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอนเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยเวลา 15.00 น. เกิดการปะทะ ระหว่างทหารเมียนมา กับ กองกำลังขนกลุ่มน้อย/กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา บริเวณตามแนวชายแดนในพื้นที่ ตรงข้าม ช่องทางเสาหินบ้านเสาหิน ตำบลเสาหิน อ.แม่สะเรียง โดยผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา ที่มีความกังวลจากสถานการณ์ในพื้นที่ ได้เดินทางเข้ามายังฝั่งไทย จำนวน 1,123 คน ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่งคือบ้านห้วยปู ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จำนวน 1,034 คน
และบ้านพะเข่ ต.แม่กี๊ อ.ขุนยวม จำนวน 104 คน
ทั้งนี้ ศูนย์สั่งการฯ ติตตามสถานการณ์ในฝั่งเมียนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และกองทัพอากาศ ได้จัดอากาศยานขึ้นบินลาดตระเวนรบ ในพื้นที่แนวชายแดน จ.ตาก และแม่ฮ่องสอน เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย
“ในการนี้ ศูนย์สั่งการชายแดนฯได้ออกแถลงการณ์ ขอแจ้งให้ทุกภาคส่วน ได้รับทราบว่า สถานการณ์ความขัดแยังที่เกิดขึ้น ด้านตรงข้ามพื้นที่แม่ฮ่องสอน นั้น ประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ของทั้งสองฝ่ายและไม่สนับสนุนให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ใช้พื้นที่ประเทศไทยเป็นพื้นที่สนับสนุนผลประโยซน์ของกลุ่มตนเอง ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ งดการเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงขอความร่วมมือจากสื่อมวลชน และทุกภาคส่วน ในการตรวจสอบข่าวสาร ข้อเท็จจริงก่อนที่จะนำไปเผยแพร” ศูนย์สั่งการชายแดนฯระบุ
ศูนย์สั่งการชายแดนแม่ฮ่องสอนระบุด้วยว่าล่าสุดกองกำลังนเรศวร ได้รายงานสถานการณ์ชายแดนพื้นที่ หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 36 อ.แม่สะเรียง และ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ประจำวันที่ 14 มิ.ย.โดยมีรายละเอียดดังนี้คือผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบ ยอดเดิม จำนวน 1,123 คน เดินทางเข้า 284 คน คงยอดปัจจุบัน 1,407 คน บริเวณ พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว จำนวน 2 พื้นที่ ได้แก่บ้านเสาหิน ยอดปัจจุบัน 1,278 คน ส่วนพื้นที่บ้านพะเข่ ต.แม่กิ๊ อ.ขุนยวม เดินทางเข้า 20 คน ยอดปัจจุบัน 129 คน รวมยอดทั้งหมดจำนวนทั้งสิ้น 1,407 คน
ด้านนายเตโหม่ ผู้ประสานงานคณะกรรมการบรรเทาทุกข์คะเรนนี กล่าวว่าเมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา กองกำลังกองทัพคะเรนนี Karenni Army- KA สนธิกองกำลังประชาชนคะเรนี KNDF และ PDF หลายกลุ่ม ปฏิบัติการโจมตีฐานตำรวจของพม่า 2 แห่งในพื้นที่แม่เซ็ด เมื่อยึดฐานได้ กองทัพพม่าได้ส่งอากาศยานมาบินวนในลักษณะพร้อมทิ้งระเบิดโจมตี ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีประชาชนที่หนีภัยสงคราม หลบซ่อนเป็นผู้พลัดถิ่นภายใน (IDPs) อาศัยอยู่มากกว่า 4,000 คน เมื่อเกิดเหตุชาวบ้านจึงต้องหนีเข้ามายังพรมแดนไทย ด้านอ.ขุนยวม และยังมีอีกจำนวนหนึ่งยังติดค้างอยู่ภายใน คาดว่าหากการสู้รบรุนแรงขึ้นอาจทำให้ประชาชนจำเป็นต้องหนีมายังฝั่งไทยเพิ่มขึ้น อย่างไรประชาชนก็ไม่สามารถกลับเข้าไปยังบ้านเดิมได้ในห้วงเวลานี้
