
ภาพจากเพจ National League for Democracy (2017)
สำนักข่าว RFA (Radio Free Asia) รายงานเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2566 ว่า ผู้นำระดับสูงของกองทัพพม่า 2- 3 คน ได้เข้าไปพบนางอองซาน ซูจี วัย 78 ปี ซึ่งเป็นผู้นำพรรคเอ็นแอลดีที่ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเนปีดอว์ โดยการไปพบผู้นำหญิงครั้งนี้ ทางผู้นำทหารพม่านั้นเรียกร้องให้นางซูจีถอนตัวจากการเมือง และร่วมผลักดันการสร้างสันติภาพในพม่า
RFA รายงานว่า ทางผู้นำระดับสูงของทหารพม่าได้เข้าไปพบนางซูจีเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมาครั้งหนึ่ง และเข้าพบอีกครั้งเมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยทางผู้นำทหารพม่าได้บอกกับนางซูจีให้เข้ามาช่วยผลักดันการสร้างสันติภาพในประเทศ และช่วยหยุดเยาวชนที่กำลังจับปืนสู้กับกองทัพพม่า โดยนางซูจีไม่ได้มีท่าทีใดๆตอบกลับกับผู้นำทหารพม่า
ทั้งนี้มีกระแสข่าวออกมาเช่นเดียวกันว่า เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2566 ว่าผู้นำทหารพม่าพร้อมด้วยพระชั้นผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียงได้ไปพบกับนายติ่นอู ซึ่งเป็นผู้นำระดับสูงของพรรคเอ็นแอลดี โดยเรียกร้องให้นายติ่นอูช่วยพูดเกลี้ยกล่อมให้นางซูจีถอนตัวจากการเมืองและเข้ามาช่วยสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในประเทศ
ด้านนักวิเคราะห์การเมืองมองว่า ท่าทีของผู้นำทหารพม่าครั้งนี้ น่าจะเป็นเพราะกองทัพพม่าไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ในประเทศได้แล้ว เพราะกองทัพเองกำลังเผชิญกับความสูญเสียในทุกด้าน โดยนางซูจีนั้นถูกควบคุมตัวตั้งแต่กองทัพพม่ารัฐประหารประเทศเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ขณะนี้ถูกกุมขังอยู่ในเรือนจำเมืองเนปีดอว์ และถูกตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 33 ปี
ขณะที่พรรคเอ็นแอลดีออกมาระบุว่า สมาชิกของพรรคทั่วประเทศถูกทหารพม่าสังหารจำนวน 93 คน และอีก 1,200 คน ยังคงถูกกุมขังอยู่ในคุก โดยสำนักงานของพรรคเอ็นแอลดีทั่วประเทศ รวมไปถึงสำนักงานใหญ่ในกรุงย่างกุ้งถูกทำลายเสียหาย รวมถึงทรัพย์สินมีค่าของพรรคก็ถูกยึดไป นับตั้งแต่ทหารยึดอำนาจมีบ้านเรือนราว 70,000 หลังคาเรือนทั่วประเทศถูกเผาทำลายเสียหายราบคาบด้วยน้ำมือของฝ่ายกองทัพพม่า โดยเป็นข้อมูลเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา
พรรคเอ็นแอลดีได้เรียกร้องให้อาเซียนและนานาชาติใช้มาตรการลงโทษกองทัพพม่าด้วยกฎหมายระหว่างประเทศโดยเร่งด่วนแต่ก็ยังไม่เป็นผล ขณะที่การละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยทหารพม่า และความรุนแรง สงครามในพม่านั้นยังคงดำเนินต่อไป