Search

เสียงบินรบพม่ายังดังต่อเนื่องชายแดนไทย อบต.เสาหินเร่งดูแลผู้หนีภัยกว่า 3 พันคน ชาวปกาเกอะญอเชียงใหม่ระดมบริจาคสู่ชาวกะเหรี่ยงแดง “อีลอน มัสก์” ตั้งอุปกรณ์รับสัญญาณดาวเทียมให้กลุ่มชาติพันธุ์หลังถูกกองทัพพม่าตัดคลื่น

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2566 นายจรัส พรมมา นายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีชาวคะเรนนีกว่า 3 พันคนหนีภัยการสู้รบระหว่างกองทัพพม่ากับกองทัพคะเรนนี (Karenni Army) ซึ่งเป็นฝ่ายทหารของพรรคก้าวหน้าแห่งชาติคะเรนนี (Karenni Progressive Party -KNPP) ที่จับมือกับฝ่ายต่อต้านทหารพม่า เข้ามาหลบภัยที่บ้านเสาหิน อ.แม่สะเรียง ว่าขณะนี้การจัดพื้นที่เพื่อรองรับเริ่มลงตัว ทั้งในเรื่องข้าวของอุปโภคและบริโภค อย่างไรก็ตามหากยังมีชาวบ้านอพยพข้ามแดนมาเพิ่มอีกก็ยังไม่แน่ใจว่าจะรับไหวหรือไม่ขึ้นอยู่กับฝ่ายความมั่นคง แต่สำหรับเรื่องพื้นที่รองรับไม่มีปัญหาและในส่วนของ อบต.เพียงแต่เข้าไปมีส่วนร่วมซึ่งยอมรับว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ต่างเหนื่อยกันมาก

นายจรัส กล่าวว่าขณะนี้ชาวบ้านในชุมชนเสาหินยังคงได้ยินเสียงเครื่องบินรบของพม่าแทบทุกวัน แม้จะบินอยู่ในฝั่งรัฐคะเรนนีแต่เราก็ได้ยินกันทุกวัน เชื่อว่าคงไม่มีการบินข้ามมายังน่านฟ้าไทยเพราะอยู่ห่างกันพอสมควร แต่กองทัพอากาศไทยก็บินลาดตระเวนอยู่เสมอ

“ประชาชนทั้งสองฝั่งเป็นเพื่อนบ้านกัน บางส่วนก็เป็นญาติพี่น้องกัน ยามปกติเราก็ข้ามกันไปมา ค้าขายกัน ดังนั้นเมื่อเขามาหลบภัยเราก็ต้องช่วยเหลือ แต่เมื่อเข้ามาก็ต้องอยู่ในความดูแลของฝ่ายทหารเพื่อควบคุมบริเวณไม่ให้กระจายกันออกไป นอกจากนี้ยังเป็นการควบคุมเรื่องโรคติดต่อด้วย” นายก อบต.เสาหิน กล่าว

ด้านนายพฤ โอ่โดเชา ชาวกะเหรี่ยงจาก อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังระดมรับบริจาคความช่วยเหลือเพื่อส่งไปให้ผู้ที่หนีภัยการสู้รบชาวคะเรนนีหรือกะเหรี่ยงแดงที่มาอยู่ที่บ้านเสาหิน โดยพวกตนซึ่งเป็นชาวปกาเกอะญอและพระสงฆ์ จะนำข้าวสารพร้อมข้าวของที่จำเป็นไปบริจาคเท่าที่จะระดมจากชาวบ้านตามป่าเขาได้ จึงบอกกล่าวไปถึงคนที่มีใจอยากร่วมบริจาค

ทั้งนี้เพื่อป้องกันเหล่ามิจฉาชีพที่มักแอบอ้าง จึงอยากหาวิธีที่ง่ายต่อการนำไปบริจาค จึงอยากขอรับ 2 อย่าง คือ 1 ข้าวของเครื่องใช้ โดยเฉพาะข้าวสารอาหารแห้ง หรือเต็นท์ขนาด 4×4 และ 2 บริจาคด้วยเงิน  

“ใครมียาต่างๆ นมกล่องสำหรับเด็ก ผ้าใบกันฝน ผ้าอนามัยผู้หญิง ก็สามารถนำมาบริจาคได้ เราพร้อมเป็นตัวกลาง เราทราบว่าพวกเขากำลังลำบากมากเพราะหนีมาโดยแทบจะไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาเลย เราพร้อมจะนำไปส่งให้ถึงมือชาวบ้านที่กำลังเดือดร้อน หรือใครต้องการบริจาคเป็นเงินสามารถโอนมาได้

กองทุนศาสนาสงเคราะห์บนพื้นที่สูง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ หรือธกส. เลขบัญชี 020171759569 หรือแจ้งความประสงค์ผ่านศูนย์ปกาเกอะญอศึกษา

วัดห้วยบงได้ เบอร์ 0624583168 พระครูพิศิษฏ์พัฒนสาร ปลัดสุชาติ” นายพฤ กล่าว

ขณะที่ David Eubank ผู้ก่อตั้งกลุ่มบรรเทาทุกข์ Free Burma Rangers (FBR) ได้ทวีตวิดีโอมีเนื้อหาขอบคุณอีลอน มัสก์ ว่า “ขอบคุณอีลอนมัสก์ บริษัทสตาร์ลิงค์ และครอบครัว ที่ได้มีอุปกรณ์รับสัญญาณดาวเทียมใช้ในเขตสู้รบในพม่า ซึ่ง 73 ปีอยู่ในความขัดแย้ง-สงครามกลางเมือง และสามปีหลังมานี้ เมื่อเกิดรัฐประหาร สถานการณ์ยิ่งเลวร้าย ประชาชนชาวพม่าต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นกว่า 3 ล้านคน และที่นี่ที่รัฐคะเรนนี ประชาชนต้องหนีการโจมตีกลายเป็นผู้พลัดถิ่นกว่า 3 แสนคน และตอนนี้เราก็ได้รับอุปกรณ์นี้ และเราก็จะจ่ายตามราคาที่ต้องจ่าย”

ในทวีตดังกล่าว มีอีกคลิปโดยเจ้าหน้าที่ FBR ยืนอยู่ท่ามกลางเด็กๆ ผู้พลัดถิ่น ยืนเบียดเสียดกันในเพิงผ้าใบ ในขณะที่มีฝนโปรย โดยกล่าวว่าขอบคุณที่ทำให้สามารถส่งข่าวสารจากพื้นที่ออกมาภายนอกได้ เด็กๆ ที่ยืนอยู่นี้ ต่างต้องหนีออกจากบ้านเพราะการรุกราน จากนั้นก็ได้เปิดเพลงพาเด็กๆ เต้นเพื่อเป็นการขอบคุณ

สำนักข่าว RFA ภาคภาษาพม่ารายงานว่า อินเทอร์เน็ตมีปัญหาในพื้นที่ส่วนใหญ่ของพม่า ทั้งในรัฐยะไข่ คะฉิ่น ภาคสะกาย ตะนาวศรี โดยพบว่าสัญญาณอินเทอร์เน็ตถูกปิด ลดความเร็ว หรือสายโทรศัพท์ถูกตัดทำลาย  ซึ่ง Banyar ผู้อำนวยการองค์กรสิทธิมนุษยชนคะเรนนีให้สัมภาษณ์สำนักข่าง RFA ว่า ประชาชนบางส่วนในรัฐคะเรนนีเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของบริษัท Starlink Internet ได้อย่างจำกัด เนื่องจากค่าบริการมีราคาแพงเกินไป ทุกคนจึงยังไม่สามารถเข้าถึงได้ และกล่าวว่าได้เห็นบุคคลสำคัญบางคนในรัฐคะเรนนีใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตของสตาร์ลิงค์

หลังเหตุการณ์รัฐประหารในพม่าเมื่อปี 2564 มีรายงานว่ารัฐบาลทหารพม่าพยายามดำเนินการเพื่อตัดช่องทางสื่อสารของประชาชนโดยเฉพาะอินเทอร์เน็ต ซึ่งสื่อโซเชียลมีเดียได้เป็นช่องทางหลักของประชาชนและฝ่ายประชาธิปไตยในการสื่อสาร

On Key

Related Posts