เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2566 แหล่งข่าวด้านความมั่นคงชายแดนไทยด้าน จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่านับตั้งแต่ช่วงเช้ามืดวันเดียวกันนี้ ที่บ้านป่าตึง บ้านห้วยทราย รัฐคะเรนนี ซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านเสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน กองทัพพม่าได้ส่งอากาศยานมาทิ้งระเบิดลงหมู่บ้าน เป็นเหตุให้มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บกว่า 50 คนและเสียชีวิตจำนวนหนึ่ง หลังเกิดเหตุชาวบ้านได้พาผู้บาดเจ็บข้ามมารักษาที่ฝั่งไทย โดยส่งไปยังโรงพยาบาลแม่สะเรียง จำนวน 9 คน และตลอดทั้งวันเครื่องบินรบของทหารพม่าบินได้มาทิ้งระเบิดอย่างต่อเนื่อง ทำให้การติดต่อสื่อสารในรัฐคะเรนนีเป็นไปอย่างยากลำบากและไม่มีรายงานความเสียหาย
สำนักข่าวพม่า Than Lwin Khet News ได้รายงานว่าประชาชนชาวคะเรนนียังคงไม่มีที่พึ่งเนื่องจากภัยคุกคามทางอากาศจากการโจมตีของกองทัพพม่าซึ่งมีเป้าหมายเป็นพลเรือนและเป้าหมายทางทหาร ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ปฏิบัติการทางอากาศดังกล่าวของกองทัพพม่าได้ทวีความรุนแรงขึ้น มีการโจมตีทางอากาศเกือบทุกวัน ประชาชนแทบไม่มีเวลาและโอกาสในการหลีกเลี่ยงการโจมตี
“หลุมหลบภัยที่เราขุด ก็ลงไปอยู่ไม่ได้เมื่อได้ยินเสียงเครื่องบิน แต่บางครั้งผมได้ยินเสียงทิ้งระเบิดก็วิ่งไปที่หลุมไม่ได้แล้ว เพราะไม่รู้ว่าระเบิดครั้งต่อไปจะมาเมื่อไหร่ ผมไม่กล้าวิ่งไป” ชาวเมืองดีโมโส่ กล่าว
สำนักข่าวพม่ารายงานอีกว่าเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม เวลาประมาณ 02.00 น. มีอากาศยานมาทิ้งระเบิด ส่งผลให้ 3 ครอบครัว มีเด็กเล็กวัย 2 ขวบและวัย 10 เดือน ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีด้วยระเบิดน้ำหนัก 500 ปอนด์ 2 ลูก และระเบิด 100 ปอนด์ 2 ลูก
นายอู บันยา ผู้อำนวยการองค์กรสิทธิมนุษยชนคะเรนนี ให้สัมภาษณ์ว่า สำหรับประชาชนที่อยู่ในรัฐคะเรนนีในเวลานี้ จำเป็นต้องสร้างที่หลบภัยมาตรฐานสำหรับผู้ที่หนีสงคราม แต่มีความยุ่งยากมากมายในแง่ของเงินและการขนส่งเพื่อซื้อวัสดุที่จำเป็น รวมถึงปูนซีเมนต์ นอกจากนี้ ผู้พลัดถิ่นกระจายอยู่ทั่วรัฐ และสายโทรศัพท์ เนื่องจากอินเทอร์เน็ตถูกตัดขาด จึงเป็นเรื่องยากที่จะให้ข้อมูลตามเวลาจริงเกี่ยวกับมาตรการป้องกันความปลอดภัยทางอากาศ
“เราได้ร้องให้ยุติการโจมตีทางอากาศ เรียกร้องประชาคมระหว่างประเทศกำหนดเขตห้ามบิน ในสถานการณ์ที่ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศเป็นไปอย่างยากลำบากในขณะนี้ จำเป็นต้องกำหนดเขตห้ามบิน” อุบันยากล่าว และว่ามีการโจมตีทางอากาศ 527 ครั้งโดยกองทัพพม่าในห้วงเวลาที่ผ่านมาในรัฐคะเรนนี

ด้านศูนย์สั่งการชายแดนไทย-พม่าจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ออกแถลงการณ์ประจำวันที่ 6 โดยระบุว่ายังคงปรากฏข่าวสารการปะทะกัน ระหว่างทหารเมียนมากับ กองกาลังชนกลุ่มน้อย/ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา บริเวณตามแนวชายแดน เป็นการปฏิบัติการทางทหารทั้งการใช้กำลังทางอากาศ และกำลังทางภาคพื้นดิน ในพื้นที่ด้านตรงข้าม อ.เมือง อ.ขุนยวม และอ.แม่สะเรียง โดย ปัจจุบัน ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาเดินทาง เข้ามายังฝั่งไทย จำนวน 5,156 คน ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 4 แห่ง โดยที่บ้านเสาหิน มียอดผู้พักพิงเพิ่ม 261 คน รวมเป็น 3,531 คน ที่บ้านพะเเข่ มีผู้หนีภัยเพิ่มขึ้น 3 คน รวมเป็น 808 คน ส่วนพื้นที่พักพิงอีก 2 แห่งไม่มียอดเพิ่ม
////////////////