เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2566 แหล่งข่าวด้านความมั่นคงในจังหวัดแม่ฮ่องสอนเปิดเผยว่า สถานการณ์การสู้รบชายแดนด้านฝั่งรัฐคะเรนนีซึ่งอยู่ติดกับ 3 อำเภอในจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีความเข้มข้นขึ้นอีกระรอกเมื่อมีการโจมตีพื้นที่หมู่บ้านต่างๆ โดยอากาศยานของกองทัพพม่า สร้างความเสียหายให้กับชุมชนต่างๆสามารถมองเห็นกลุ่มควันได้ไม่ไกลจากชายแดนไทย การโจมตีอย่างหนักเกิดขึ้นตั้งแต่บ่ายวันที่ 22 กรกฎาคมและต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ ส่งผลให้ประชาชนในรัฐคะเรนนีที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำสาละวินจำเป็นต้องอพยพร่นลงมาใกล้ชายแดนไทย อีกส่วนหนึ่งเข้ามาอยู่ในเขตรัฐกะเหรี่ยง ในพื้นที่อิทธิพลของกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union-KNU) กองพลที่ 5
สำนักข่าวคะเรนนี กันตรวดีไทมส์ รายงานว่ารัฐบาลทหารพม่าได้โจมตีทางอากาศโดยมุ่งเป้าไปที่อาสาสมัครที่ช่วยเหลือพลเรือนที่หลบหนีการสู้รบในเมืองแม่เจ๊ะ (Mese) ทางตอนใต้ของรัฐคะเรนนี ตรงข้าม อ.ขุนยวม และ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน โดยสมาชิกของกลุ่มบรรเทาทุกข์ Karenni Free Burma Rangers (FBR) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวกันตรวดีไทมส์ว่าเครื่องบินรบของกองทัพพม่าเข้ามาทิ้งระเบิดห่างจากจุดที่กลุ่มบรรเทาทุกข์ได้ช่วยชีวิตชาวบ้านกว่า 100 คนจากพื้นที่หมู่บ้านจ๊อกสู้ ห่างไปเพียงประมาณ 1 กิโลเมตรและขณะนี้กองกำลังสนธิของกองทัพคะเรนนีได้ต่อสู้กับกองทัพเผด็จการพม่าในพื้นที่ใกล้ชายแดนไทย
“ชาวบ้านบางคนรีบออกจากรถด้วยความตกใจและพยายามซ่อนตัวในป่าใกล้เคียง” นายโกอ่องเซยาอาสาสมัครกลุ่มบรรเทาทุกข์ FBR กล่าว และว่ากลุ่มบรรเทาทุกข์ได้พยายามส่งทุกคนออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด และจำเป็นต้องวางแผนที่จะย้าย หากพบพื้นที่ที่ปลอดภัยกว่าเนื่องจากพื้นที่นี้มีความเสี่ยงจะถูกโจมตีซ้ำ
นายอูบันยา (U Banyar) ผู้ก่อตั้งกลุ่มสิทธิมนุษชนคะเรนนี Karenni Human Rights Group ให้สัมภาษณ์กับ กันตรวดีไทมส์ว่ากองทัพพม่ามักจะส่งโดรนและเครื่องบินมาสำรวจ และต่อมาก็ทำการโจมตี
“ผมไม่รู้ว่ากองทัพพม่าจงใจโจมตีพลเรือนหรือทหารฝ่ายต่อต้าน แต่บางครั้งพวกเขาก็โจมตีหมู่บ้านประชาชนด้วยปืนครก”นายอูบันยา กล่าว


สื่อคะเรนนีรายงานว่า ระหว่างเดือนมกราคมถึงเมษายน มีการโจมตีทางอากาศอย่างน้อย 179 ครั้ง และมีพลเรือนเสียชีวิตและบาดเจ็บจากเครื่องบินทิ้งระเบิดใส่หมู่บ้านและค่ายผู้อพยพ โดยการต่อสู้ดำเนินไปอย่างเข้มข้นในเมืองต่างๆ ตลอดแนวลำน้ำสาละวิน โดยเฉพาะเมืองผาซอง เมืองแม่เจ๊ะ และเมืองยวาติ๊ด ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม หลังจากกองกำลังสนธิของกลุ่มคะเรนนี KNPLF หรือกาลาลาตา (ดาวแดง) ซึ่งเดิมเป็นกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) แปรพักตร์และเข้าต่อสู้กับรัฐบาลทหารพม่า การโจมตีของกองทัพพม่าในพื้นที่รัฐคะเรนนีส่งผลให้ประชาชนหลายหมื่นต้องเผชิญความรุนแรงและกลายเป็นผู้พลัดถิ่น ต้องซ่อนตัวอยู่ในป่าด้วยความหวาดกลัว
ขณะที่รายงานสถานการณ์ผู้หนีภัยการสู้รบของทางการไทยประจำวันที่ 23 กรกฎาคม 2566 ระบุว่าฝ่ายพม่า ใช้อากาศยานโจมตีเป้าหมายทางทหารของฝ่ายกองกำลังชนกลุ่มน้อย บริเวณตรงข้าม อ.เมืองแม่ฮ่องสอน และ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน แต่ไม่มีรายงานการอพยพ โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยพำนักในฝั่งไทย 9,064 คน ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวจำนวน 5 แห่ง คือ บ้านเสาหิน บ้านอูนุ บ้านจอปร่าคี อ.แม่สะเรียง บ้านพะเข่ อ.ขุนยวม และบ้านในสอย อ.เมืองแม่ฮ่องสอน

