
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 นายพัทธพงษ์ อ่างทอง วิศวกรชำนาญการประจำสำนักงานอุตสาหกรรม จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวถึงความคืบหน้าในการทำเวทีประชาคม กรณี บริษัท เชียงใหม่โรงโม่หิน จำกัด ขอประทานบัตรทำเหมืองหินในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน หลังจากสำนักงานอุตสาหกรรม จ.แม่ฮ่องสอน ติดประกาศให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ขอประทานบัตรคัดค้านภายในเวลา 30 วัน
“ล่าสุดทางบริษัทที่ขอประทานบัตรได้ทำหนังสือมายังสำนักงานอุตสาหกรรม จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อขอเลื่อนการเข้าร่วมเวทีประชาคมออกไปก่อนโดยไม่มีกำหนด เนื่องจากยังจัดทำเอกสารที่จะต้องชี้แจงกับชาวบ้านไม่เรียบร้อย ทำให้เงื่อนไขการจัดเวทีประชาคมภายใน 60 วัน หลังจากไม่มีผู้คัดค้านการขอประทานบัตรของเราต้องพับไปก่อน และหากทางบริษัทมาแจ้งกับสำนักงานอุตสาหกรรมว่าได้จัดทำเอกสารเรียบร้อยแล้ว จึงจะเริ่มนับการทำเวทีประชาคม ภายใน 60 วัน อีกครั้ง” นายพัทธพงษ์ กล่าว
วิศวกรชำนาญการประจำสำนักงานอุตสาหกรรม จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวอีกว่า จากการที่บริษัทขอเลื่อนเวลาออกไป ทำให้ทางสำนักงานฯ ต้องทำหนังสือแจ้งไปยังกลุ่มต่างๆที่เกี่ยวข้องทั้งชาวบ้าน ผู้นำชุมชน หน่วยงานรัฐ ซึ่งหากทางบริษัทพร้อมจะชี้แจงกับชาวบ้านเมื่อไหร่จึงจะเริ่มขั้นตอนการเลือกสถานที่ในการจัดประชาคมต่อไป ด้าน ดร.ทองทิพย์ แก้วใส แกนนำประชาชนคัดค้านการสร้างเหมืองใน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวถึงการขอเลื่อนเวลาชี้แจงต่อชาวบ้านของบริษัท เชียงใหม่โรงโม่หิน จำกัด ออกไปอย่างไม่กำหนดว่า ในขั้นตอนการขอชุลอเวลาออกไปนี้อยู่ในข้อกฎหมายหรือไม่
“อยากจะถามสำนักงานอุตสาหกรรม จ.แม่ฮ่องสอน ว่ามีกฎหมายที่ระบุให้ทางบริษัทชลอเวลาออกไปได้หรือไม่ แล้วทางสำนักงานอุตสาหกรรมมีอำนาจในการอนุญาตให้ชะลอเวลาออกไปหรือเปล่า เพราะผมเห็นว่าการทำเวทีประชาคมไม่มีขั้นตอนให้ชะลอ คือถ้าเดินหน้าต่อไม่ได้ก็ต้องถอดการขอประทานบัตรออกไปเลย ซึ่งหากไม่ถูกต้องตามกฎหมายผมก็จะฟ้องสำนักงานอุตสาหกรรม จ.แม่ฮ่องสอน อย่างแน่นอน เพราะการเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเลื่อนเวลาออกไปทำให้ชาวบ้านเสียเปรียบ ผมคิดว่าการชะลอเวลาออกไปเป็นเพียงแค่การหาทางที่จะเข้ามาอีกครั้ง ถ้าหากการชะลอเวลาครั้งนี้มีจดหมายแจ้งจากสำนักงานอุตสาหกรรมมาถึงเรา เราขะไปถามสำนักงานอุตสาหกรรมว่ามีอำนาจอนุมัติได้หรือ” ดร.ทองทิพย์ กล่าว