
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2566 นายพงษ์พิพัฒน์ มีเบญจมาศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำป่าที่ ต.แม่สามแลบ ว่าเวลานี้ถนนไปยังบ้านแม่สามแลบยังพอจะสามารถเดินทางเข้าถึงได้แม้จะมีโคลนเป็นบางช่วง แต่ถนนจากบ้านแม่สามแลบไปบ้านสบเมย กลอเซโล ไปไม่ได้แล้ว ต้องใช้เส้นทางเรือล่องแม่น้ำสาละวินเท่านั้น เช่นเดียวกกับถนนไปบ้านท่าตาฝั่ง ก็ถูกปิดตายแล้ว เพราะฝนตกตลอดอย่างต่อเนื่องทำให้ถนนลูกรังเสียหาย แต่ยังดีที่ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (6 สิงหาคม) จังหวัดแม่ฮ่องสอนสามารถเข้าไปให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำป่าไหลหลากที่บ้านแม่ตอละได้แล้ว
นายกอบต.แม่สามแลบกล่าวว่าสำหรับชาวบ้านแม่ตอละ ผู้ประสบภัยน้ำป่า เวลานี้การช่วยเหลือเบื้องต้นมีน้ำดื่ม อาหาร แต่ชาวบ้านยังมีความหวาดกลัว ฝนลงก็ผวา กลัวน้ำป่าไหลหลากอีก หลายครอบครัวเมื่อได้ยินเสียงฝนตกก็พากันหนีไปที่สูง ยังมีความกังวลว่าน้ำป่าจะมาอีกหรือไม่
“น้ำป่าไหลหลากกวาดบ้านเรือนเสียหายแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ยังดีที่ตอนน้ำป่าหลากมาเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมเป็นเวลาเย็น หากเกิดขึ้นตอนกลางคืนที่ชาวบ้านหลับก็คงตายเยอะ จากการสำรวจพบว่าหมู่บ้านที่เสียหาย ได้แก่ บ้านสามแลบ จำนวน 3 หลังคาเรือน บ้านโตแฮ อยู่ขุนห้วย โรงเรียนตชด. บ้านบุญเลอ ซึ่งอยู่บนดอยสูงมาก มีเหตุดินถล่มทับบ้าน ถนนที่ไปจาก อ.สบเมย ไม่สามารถเดินทางได้” นายพงษ์พิพัฒน์ กล่าว


“ถนนไปบ้านสบเมย-กลอเซโล ภูเขา ดอย ทรุดทับถนนไม่รู้ว่าตรงไหนคือถนน เส้นทางไปไม่รู้ว่าตรงไหน ทางหลวงก็เข้ามาช่วย พร้อมทั้งหน่วยงานต่างๆ มาเยียวยาชาวบ้าน ที่บ้านสบเมย ถนนไม่มีสภาพแล้ว ทรุดเป็นดอยไปทั้งหมด หมู่บ้านที่อยู่บนดอยสูง ต่างตกอยู่ในสถานการณ์นี้ทั้งหมด ตอนนี้เดินจากสบเมยมาถึงบ้านบุญเลอต้องใช้เวลา 6-7 ชม. ต้องเดินเท่าเท่านั้นเพราะถนนไม่มีทางไป”นายกฯแม่สาบแลบ กล่าว
นายกอบต.กล่าวอีกว่า หมู่บ้านที่ถูกตัดขาดอยู่บนยอดเขา ระยะยาวยังต้องช่วยกันหาทางออก เวลานี้ขอให้ผ่านช่วงพายุไปก่อน แต่ทราบมาจากอุตุนิยมวิทยาว่าฝนยังจะมีมาอีก ทำให้ชาวบ้านต่างวิตกกังวล ส่วนบ้านหลัก คือบ้านแม่สามแลบไม่มีไฟฟ้าและสัญญาณโทรศัพท์ กำลังพยายามแก้ปัญหา




