ภัยแล้งฉุดกำลังการผลิตไฟฟ้าเขื่อนลาวหด เป็นเหตุต้องนำเข้าจาก กฟผ.พุ่ง    

การไฟฟ้าลาว สปป.ลาว ได้แถลงผลงานการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2566 เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2566 โดยระบุว่า นายจันทะบูน สุกอาลูน ผู้อำนวยการใหญ่ของการไฟฟ้าลาว ได้รายงานในการประชุมวาระ 6 เดือนของ การไฟฟ้าลาว(EDL) โดยสรุปรายงานด้านการซื้อ-ขายพลังงานไฟฟ้าของลาวในระยะ 6 เดือนแรกของปี 2566 มีการซื้อพลังงานภายในและนำเข้าจากต่างประเทศจำนวน 7.852.40 กิกะวัตต์ หรือเท่ากับ 90.91 เปอร์เซ็นต์ของแผนงาน เป็นเงิน 9,007,49 ล้านกีบ หรือเท่ากับ 106.60 เปอร์เซ็นต์ของแผนงาน

แถลงข่าวระบุว่า หากเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2022 พลังงานเท่ากับ 97.86 เปอร์เซ็นต์ เป็นเงิน 151.27 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากการผลิตไฟฟ้าภายในประเทศลดลงไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ทำให้ต้องนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศมาทดแทน โดยมีการซื้อพลังงานภายในประเทศที่ผลิตได้ 6.607.49 กิกะวัตต์ หรือคิดเป็นเงิน 7,584,21 ล้านกีบ

ทั้งนี้การผลิตพลังงานภายในประเทศลดลงอย่างมากเนื่องจากภาวะภัยแล้ง แต่หากพิจารณาเป็นเงินนั้นไม่ได้ลดลงเนื่องจากสัญญา Take or Pay ส่วนการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ มีจำนวน 1.223.06 กิกะวัตต์ หรือเท่ากับ 146.96 % ของแผนงาน คิดเป็นเงิน 1,423,28 ล้านกีบ หรือคิดเป็น 169.57 เปอร์เซ็นต์ โดยซื้อจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(EGAT) จำนวน 1.129.77 กิกะวัตต์ หรือเท่ากับ 187.52 % ของแผนงาน เป็นเงินกว่า 1,312.46 ล้านกีบ เก่ากับ 217.33 % ของแผนงาน หากเปรียบเทียบกับปี 2022 ถือว่า การนำเข้าพลังงานในปี 2023 เกินแผนที่วางไว้กว่า 208.86 %

ขณะที่สำนักข่าวบางกอกโพสต์รายงานว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยกังวลภาวะภัยแล้งในลาว เพราะต้องนำเข้าไฟฟ้าที่ผลิตจากเขื่อนในลาว ถ้าหากภาวะความแห้งแล้งยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง เขื่อนไฟฟ้าในลาวก็ผลิตไฟฟ้าได้น้อยลงและส่งผลกระทบต่อการนำเข้า

นายบุญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) กล่าว กฟผ.ได้เซ็นสัญญาความร่วมมือในการซื้อไฟฟ้าจากลาวจำนวน 10,500 เมกะวัตต์ ภายใต้แผนการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน โดยมีเขื่อนไฟฟ้าจำนวน 9 แห่ง ทั่วประเทศลาว ส่งไฟขายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งมี 2 เขื่อนขนาดใหญ่คือ เขื่อนน้ำงึม 2 และเขื่อนไซยะบุรี ซึ่งมีบริษัทไซยะบุรีพาวเวอร์ ภายใต้บริษัทช.การช่าง ซึ่งล่าสุดได้ออกรายงานถึงผลกระทบภาวะเอลนิโญ่แห้งแล้งในลาว ซึ่งส่งผลกระทบให้ปริมาณน้ำในเขื่อนน้ำงึม 2 และเขื่อนไซยะบุรีลดต่ำและทำให้ผลผลิตด้านไฟฟ้าลดลงไปด้วย เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา