เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2566 ที่ลานอินฟินิซิตี้ ฮอลล์ พารากอนซีนีเพล็กซ์ สยามพารากอน กทม. ได้มีการเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง “A Time To Fly บินล่าฝัน”ซึ่งสร้างโดยอ้างอิงชีวิตจริงของเด็กชายหม่อง ทองดี อดีตเด็กไร้รัฐไร้สัญชาติชาวไทใหญ่ ที่เรียนหนังสือในจังหวัดเชียงใหม่ โดยเมื่อตอนที่หม่อง อายุ 11 ขวบในปลายปี 2552 เขาถูกปฏิเสธสิทธิเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นเพื่อเข้าร่วมแข่งขันร่อนเครื่องบินกระดาษ และมีปัญหาด้านกฎหมายอีกหลายประการ จนกระทั่งได้รับความช่วยเหลือจาก “บางกอกคลินิกนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสื่อมวลชนได้ร่วมกันถ่ายทอดสู่สาธารณชนจนกลายเป็นกระแสความสนใจของสังคม ซึ่งรัฐบาลยุคนั้นมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงกัลยา โสภณพณิช เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ร่วมกันทำหนังสือรับรองการทำคุณประโยชน์ ทำให้หม่องได้เดินทางไปแข่งขันจนได้รับรางวัลชนะเลิศสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย
ทั้งนี้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ซึ่งกำกับการแสดงโดยนายศักดิ์ศิริ คชพัชรินทร์ นำแสดงโดย ด.ช.ศุภัช ท้าวสกุล ซึ่งแสดงเป็นหม่อง ร่วมด้วยนายธฤษณุ สรนันท์และ น.ส.มารินดา แฮปลิน ถ่ายทอดเรื่องราวของคนเล็กคนน้อย นอกจากนี้ทางผู้จัดงานยังได้เชิญ น.ส.กานต์ธีรา เตชะภัทรธนากุล มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์เชียงใหม่ 2566 และ น.ส.ยลฤดี ปิยะทัต รองประธานสหพันธ์สมาคมนิสิตนักศึกษาแพทย์ นานาชาติ ซึ่งเป็นอดีตเด็กไร้สัญชาติ มาร่วมสะท้อนปัญหาของเด็กไร้สัญชาติด้วย
นายศักดิ์ศิริกล่าวว่า เด็กไร้สัญชาติมีสถานภาพที่ไม่เหมือนกัน แต่เขามีความฝันเหมือนกัน การจะได้เป็นคนไทยนั้นยากมาก จึงอยากถ่ายทอดเรื่องราวของพวกเขา หม่องสู้เพื่อเป็นให้ได้เป็นคนไทย ที่ประทับใจคือการที่หม่องได้เดินทางไปแข่งขันที่ญี่ปุ่นไม่ใช่แค่ตัวหม่อง แต่ยังมีนักกฎหมาย สื่อมวลชน ครูอาจารย์ ที่ช่วยเหลือ
นายแมนกล่าวว่า โอกาสและความฝันจำเป็นมากสำหรับเด็ก เพราะเป็นแรงผลักดัน ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เห็นว่ามีเด็กด้อยโอกาสอยู่เยอะที่ยังไม่ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐาน
นายหม่อง กล่าวว่าตอนนั้นยังเล็ก ใครพาไปไหนก็ไปตามที่ครูพาไป ตอนรู้ว่าไม่ได้ไปแข่งขันที่ญี่ปุ่นถึงกับร้องไห้ เมื่อเดินทางไปที่ไหนก็มีคนคอยให้กำลังใจ และให้พับเครื่องร่อนกระดาษ ทั้งนี้เมื่อรู้ว่าจะมีการนำเรื่องราวของตนมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ทำให้ดีใจมาก โดยระหว่างการสร้างได้คุยกับผู้กำกับโดยตลอด
น.ส.กานต์ธีรา หรือน้ำผึ้ง กล่าวว่าตนเรียนที่โรงเรียนบำรุงราษฎร์สงเคราะห์ จ.เชียงราย ได้ร่วมโครงการแข่งขันวิทยาศาสตร์ที่สหรัฐฯ แต่เกือบไม่ได้ไปเพราะถูกปฏิเสธวีซ่า แต่พอหลายหน่วยงานร่วมกันช่วยเหลือ ทำให้ได้สัญชาติและได้วีซ่าเดินทางไปร่วมการแข่งขันที่สหรัฐฯ