สำนักข่าว Tai TV Online รายงานเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า จากข้อมูลของกลุ่ม International Crisis Group (ICG) ซึ่งระบุว่า นับตั้งแต่รัฐประหาร กองทัพตะอางหรือกองทัพปะหล่อง (Ta’ang National Liberation Army – TNLA) ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ทางภาคเหนือของรัฐฉานมีความเติบโตและมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยเชื่อว่า อาจมีกำลังพลมากถึง 10,000 – 15,000 นาย สาเหตุมาจากกองทัพพม่าถอนกำลังออกจากทางเหนือของรัฐฉานไปเป็นจำนวนมาก เพื่อไปปราบปราบกองทัพเพื่อประชาชน หรือ PDF ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธก่อตั้งขึ้นมาใหม่ จึงทำให้กองทัพปะหล่อง TNLA ขยายพื้นที่ปกครอง จนสามารถเข้ามาควบคุมถึงในพื้นที่ชุมชนเมืองชั้นในตอนเหนือรัฐฉาน
ในรายงานของกลุ่ม ICG ระบุด้วยว่า ในขณะที่กองทัพพม่ากำลังยุ่งอยู่กับการปราบปรามกลุ่ม PDF ที่ลุกขึ้นมาต่อต้านกองทัพพม่าทั่วประเทศอยู่นั้น กองทัพปะหล่อง TNLA ได้สร้างกองทัพที่แข็งแกร่งมากขึ้นในภาคเหนือของรัฐฉาน ไม่เฉพาะในด้านการทหาร แต่รวมไปถึงด้านด้านการศึกษา ด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ โดยใช้หลักการเดียวกับกองทัพว้า
มีรายงานด้วยว่า กองทัพปะหล่อง TNLA นั้น ให้การสนับสนุนกลุ่ม PDF ที่ออกมาต่อต้านกองทัพพม่า แต่กองทัพปะหล่อง TNLA มักหลีกเลี่ยงปะทะต่อสู้กับกองทัพพม่าโดยตรง นอกจากนี้ ในระหว่างที่ขยายเขตควบคุมพื้นที่ ทำให้ TNLA ปะทะกับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์อื่นๆ อย่างกองทัพรัฐฉานใต้ RCSS/SSA และได้พยายามขับไล่กองทัพไทใหญ่ออกจากทางเหนือของรัฐฉานอีกด้วย
กลุ่ม ICG ระบุว่า การเติบโตของกองทัพปะหล่อง TNLA นั้น กำลังเป็นภัยคุกคามต่อประชาชนในพื้นที่ควบคุมของ TNLA เอง และการขยายเขตพื้นที่ควบคุมจะยิ่งทำให้เกิดวิกฤติความขัดแย้งมากยิ่งขึ้นกับกลุ่มอื่นๆ ที่เคลื่อนไหวอยู่ในรัฐฉานเช่นเดียวกัน และหากวันหนึ่งทางกองทัพพม่ากลับมายึดฐานที่มั่นเดิมที่เคยปกครอง เชื่อว่าจะทำให้ปะหล่อง TNLA ต้องพบเจอศึกหลายด้าน
กลุ่ม ICG ยังวิเคราะห์ว่า การเติบโตของทหารปะหล่อง TNLA มาพร้อมกับความต้องการด้านการเงินมากขึ้นเช่นเดียวกัน ยิ่งจะทำให้การเก็บภาษีในพื้นที่ดุเดือดแข่งขันกับกลุ่มอื่นๆ อย่างกองทัพรักษาชายแดน เป็นต้น และยิ่งเป็นการเติมเชื้อไฟความขัดแย้งในพื้นที่รัฐฉานมากยิ่งขึ้น
ในรายงานของ กลุ่ม ICG เรียกร้องให้กองทัพ TNLA อย่าขยายพื้นที่ควบคุมไปยังกลุ่มอื่นๆ อย่าละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาติพันธุ์อื่น นอกจากนี้ไม่ควรบังคับเกณฑ์ทหาร รวมทั้งการเกณฑ์เด็กไปเป็นทหารในกองทัพของตัวเอง และแนะนำให้กองทัพปะหล่อง TNLA พัฒนาศักยภาพและช่วยเหลือชุมชนแทนการขยายกองทัพจะเป็นผลดีมากกว่า