โดย ปิยนันท์ จิตต์แจ้ง
“ถ้ามีทุนผมจะหาเครื่องตัดถ่างให้กับทีมกู้ภัยฝั่งโน้น เพราะคนที่ประสบอุบัติส่วนใหญ่เป็นคนไทยทั้งนั้น” สุขสันต์ มะตะโก หัวหน้าทีมกู้ภัยบุญช่วยอุปถัมภ์กล่าวระหว่างการรอพิสูจน์หลักฐานทำงานเก็บวัตถุพยานผู้เสียชีวิตรายหนึ่ง ส่วนฝั่งโน้นที่เขาพูดถึงคือประเทศลาว
กู้ภัยบุญช่วยอุปถัมภ์ตั้งอยู่ บ้านซ้อใต้ ต.ห้วยซ้อ อ.เชียงของ จ.เชียงราย นับเป็นกู้ภัยน้องใหม่ในวงการกู้ภัยในพื้นที่
สุขสันต์ เล่าว่า ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีญาติผู้ประสบเหตุโทรให้ช่วยไปรับร่างผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในลาว ที่ด่านพรมแดนเชียงของซึ่งประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต 5 คน โดยมีรถกู้ภัยของแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาวมาส่ง “ตอนนี้เราข้ามไปรับเองไม่ได้”
หลังการระบาดโควิด-19 รถกู้ภัยฝั่งไทยไม่สามารถข้ามไปลาวเหมือนก่อนหน้านั้นแล้ว เมื่อก่อนอาสากู้ภัยฝั่งไทยสามารถออกหนังสือผ่านแดนแบบฉุกเฉินเพื่อไปกู้ภัยช่วยเหลือคนไทยที่ประสบอุบัติเหตุฝั่งลาวได้เลยทันทีที่เกิดเหตุและได้รับการร้องขอให้ไปกู้ภัย
ก่อนหน้าการปิดด่านเพราะโรคระบาด รถบรรทุกไทยยังสามารถขับไปในลาวเพื่อไปส่งของและเลยไปยังชายแดนจีนได้ เนื่องจากเส้นทางสาย R3A ในลาว เป็นเส้นทางข้ามเขาและไหล่เขา บางช่วงถนนเสียหายเพราะผ่านการใช้งานหนักมานานเพราะเป็นเส้นทางของรถบรรทุกพ่วงขนสินค้าระหว่างชายแดนไทย-ลาวเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ไปยังเมืองบ่อเตน แขวงหลวงน้ำทา ชายแดนลาว-จีน ตั้งแต่ปี 2551 ก่อนที่จะเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4(เชียงของ-ห้วยทราย) ในปลายปี 2556
ขณะที่เส้นทางเส้นนี้เป็นความคาดหวังให้เป็นเส้นทางการค้าและการท่องเที่ยวจึงเป็นที่นิยมทั้งการขนส่งสินค้าระหว่างไทย-จีน ที่หันมาใช้เส้นทางบางช่วงจัดว่าคับคั่ง แต่นั่นก็ทำให้ความถี่ของอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นเช่นกัน
งานกู้ภัยในเส้นทางสายนี้จึงมีการแจ้งอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และอาสากู้ภัยหลายมูลนิธิและชมรมมักถูกเรียกเข้าไปช่วยกู้ภัย หากเป็นคนไทยที่ประสบอุบัติเหตุเส้นทางในลาว หลายครั้งจะมีอุบัติเหตุเกิดกับรถบรรทุกระหว่างการวิ่งอยู่บน บางครั้งตกเขาซึ่งที่ต้องมีเครื่องมือและกำลังพร้อมที่จะเข้าไปกู้ภัยในพื้นที่ยากลำบาก
“กู้ภัยเดี๋ยวนี้อยู่ยากขึ้น อาสากู้ภัยเป็นชมรมที่ตั้งขึ้นมาเองเพราะผมเคยทำกู้ภัยที่เชียงใหม่มาก่อน เมื่อมาอยู่ที่นี่เห็นว่าพื้นที่นี้ห่างไกล ไม่มีกู้ภัยในพื้นที่ ตอนนั้นภรรยาจะคลอดลูกต้องหารถค่ารถค่อนข้างแพง จึงคิดว่าถ้าคนที่ลำบากจะจ่ายไหวไหม จึงถามภรรยาว่าจะตั้งชมรมอาสากู้ภัยดีไหม ภรรยาบอกทำเลย เลยเริ่มตั้งแต่ตอนนั้น” สุขสันต์กล่าว
ในตอนนี้เขามีทั้งน้อง ๆ ในทีมหลายคน ทั้งคนที่ทำงานแล้ว คนที่เรียนมหาวิทยาลัย เรียนในโรงเรียน ที่มาช่วยในเวลาว่างจากการทำงานและจากการเรียน
สุขสันต์ กล่าวว่า ขณะนี้การทำงานกู้ภัยลำบาก เพราะรถเสียไป 2 คัน จากที่มี 3 คัน รถตู้เครื่องน็อคไปคันหนึ่ง รถกระบะตอนนี้ก็ใช้งานไม่ได้จอดทิ้งไว้ที่สำนักงาน มีรถตู้ใช้งานอยู่เพียง 1 คัน ตอนนี้งบสนับสนุนจากสาธารณสุขตกค้างกว่า 3 แสน ทางกู้ภัยบุญช่วยได้วิ่งรับผู้ป่วยในช่วงโควิด ก็จะสามารถนำมาซ่อมรถได้ เท่าที่ทราบหลายมูลนิธิหรือชมรมก็ไม่ได้เช่นกัน ปกติเป็นชมรมจะได้รับการสนับสนุนทุก 3 เดือน ส่วนมูลนิธิจะสามารถเบิกจ่ายได้ทุกเดือน และส่วนหนึ่งมาจากการบริจาค แต่ขณะนี้ตนเองต้องนำเงินจากการเปิดอู่ซ่อมรถมาประคองให้การทำงานกู้ภัยไปก่อนในช่วงนี้
ในการทำงานของชมรมบุญช่วย คนในทีมจะผ่านการฝึกอบรมในการเผชิญเหตุ ทั้งการกู้ชีพ และจะดูแลไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทุกชนิด ทำงานร่วมกับ ปภ. และเจ้าพนักงาน
เมื่อถามถึงเหตุที่เผชิญในช่วงนี้ หัวหน้าทีมของอาสากู้ภัยบุญช่วยเล่าว่า นอกจากการกู้ภัยกู้ชีพคนที่ประสบอุบัติเหตุ รับคนป่วย อีกเหตุหนึ่งที่เกิดขึ้นบ่อยมากในชุมชนคือการระงับเหตุคนคลุ้มคลั่ง คนในชุมชนมีการใช้ยาเสพติดและของมึนเมามากขึ้น มีเคสมากที่ต้องคอยรับแจ้งให้ไประงับเหตุ ทั้งการก่อความรำคาญ และการทำร้ายกัน ที่ต้องทำงานด้วยความระมัดระวังโดยจะมีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน เป็นการป้องกันเหตุตามขั้นตอนกฎหมาย และการป้องกันทีมไม่ให้ได้รับอันตราย
ไม่เพียงกู้ภัยเท่านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ยังกล่าวไปในทางเดียวกัน ว่าขณะนี้มีเยอะมาก การบำบัดมีน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับผู้เสพ การบำบัดอย่างล่าสุด 90 คน จากที่คนมีใช้จำนวนมาก เอาไปบำบัด 4เดือน กลับมาเกือบทั้งหมดยังกลับไปเสพยาอีก มีเพียง 5-10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่จะพ้นจากวงจรนี้ได้ ยังเป็นปัญหาที่เผชิญกันอยู่ ยาบ้าราคาถูกกว่าซื้อน้ำกินแก้วหนึ่งอีก
แม้วันนี้จะขาดแคลนงบสนับสนุน ขาดแคลนรถยนต์ที่ใช้ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ แต่ทีมกู้ภัยบุญช่วยก็ยังมุ่งมั่นทำงานต่อไป แม้การกู้ภัยข้ามแดนจำเป็นต้องใช้พลังมหาศาล แต่พวกเขาก็ไม่เคยย่อท้อ
———