นายอนุสรณ์ แจ นักสื่อสารชุมชน อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี รายงาน
เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2566 เวลา 10.00 น. หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเขื่อนพุระกำได้ลงพื้นที่หมู่บ้านพุระกำ หมู่ 6 ตำบลตะนาวศรี อำสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เพื่อรับฟังเสียงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบในการสร้างเขื่อน ซึ่งมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องหลายส่วนประกอบไปด้วย น.ส.วริษฐา สงวนเสริมศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส.จังหวัดราชบุรี ผู้แทนกรมชลประทาน นายอำเภอสวนผึ้ง ยุติธรรมจังหวัด นายกอบต.ตะนาวศรี ฉก.ทัพพระยาเสือ กองร้อยทหารพราน 1407 หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มแม่น้ำภาชี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีชาวบ้านจากบ้านพุระกำและบ้านหนองตาดั้ง ประมาณ 150 คน เข้าร่วม
น.ส.วริษฐา สงวนเสริมศรี รองผู้ว่าฯ ราชบุรี ได้กล่าวว่า ไม่เคยรู้เลยว่าสภาพพื้นที่ที่ชาวบ้านอยู่เป็นอย่างไร เนื่องจากไม่เคยลงพื้นที่ แต่วันนี้ได้ลงพื้นที่เป็นครั้งแรก แต่วันนี้ทำให้ทราบแล้วว่าพี่น้องประชาชนในพื้นที่อยู่กันอย่างไร และทำไมไม่ต้องการให้เกิดการสร้างเขื่อน เนื่องจากจะส่งผลกระทบในหลายๆ ด้าน ตนพร้อมจะรับฟังและจะช่วยชี้แจงให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบต่อไป
“ถ้าหากว่าพี่น้องประชาชนในพื้นที่ไม่อยากให้เขื่อนเกิดขึ้น พร้อมที่จะช่วยชาวบ้าน ถ้าหากการไม่สร้างเขื่อนเป็นความประสงค์ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่” รองผู้ว่ากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อตัวแทนของกรมชลประทานได้กล่าวกับชาวบ้านว่า ขอเสนอให้เกิดการท่องเที่ยวโดยการสร้างโฮมสเตย์ในพื้นที่เพื่อที่ชาวบ้านจะได้มีงานทำมีชีวิตที่มั่นคง และสร้างเขื่อนเก็บน้ำเพื่อจะได้มีน้ำใช้ และการเดินจะได้ทางสะดวก แต่ชาวบ้านพุระกำทุกคนได้ตะโกนขึ้นมาพร้อมกันว่า “เราจะไม่ย้าย จะไม่ยอมให้เขื่อนเกิดขึ้น ต่อให้เอาเงินมาให้สองล้านสามล้านเราก็ไม่เอา เราจะอยู่ที่นี่ เราจะดูและรักษาป่า ต้นน้ำ และสัตว์ป่าตามที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับพระเจ้าอยู่หัว ร.9 พระราชินี ร.9 และสมเด็จพระเทพฯ แม้เราจะต้องตายเราก็ยอมเพื่อรักษาป่า สัตว์ป่า ตามที่สัญญาไว้ แต่ทั้งนี้ในส่วนเจ้าหน้าที่ที่ลงมารับฟังเสียงชาวบ้านก็ยังไม่ชัดเจนในการให้คำตอบกับชาวบ้าน ขณะที่ชาวบ้านยังมีความกังวลอยู่ว่า ขณะทำงานขับเคลื่อนโครงการเขื่อนพุระกำอาจจะมีการประชุมลับแบบที่ผ่านมาหรือไม่ก็ต้องติดตามกันต่อไป ซึ่งชาวบ้านต้องเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวต่อไป