เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 ที่นครย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้หารือกับ พล.ต.อ.Myo Min Htike ผู้บัญชาการตำรวจย่างกุ้ง และ พ.ต.ท.Min Khaing ผู้กำกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ย่างกุ้ง เพื่อประสานงานเตรียมการในการอพยพคนไทยจากเมืองเล้าก์ก่าย เมืองหลวงของเขตปกครองพิเศษโกก้าง ภาคเหนือรัฐฉานติดกับจีน หากต้องใช้เส้นทางมายังกรุงย่างกุ้ง รวมถึงการประสานข้อมูลในการปราบปรามการค้ามนุษย์ และอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ ที่ชักชวนคนไทยมาทำงานผิดกฎหมาย ซึ่งทางตำรวจย่างกุ้งพร้อมให้ความร่วมมือกับไทย
ส่วนการช่วยเหลือคนไทยในเมืองเล้าก์ก่าย ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติของเมียนมา ได้ร่วมกับทหารเมียนมา ดูแลความปลอดภัยให้คนไทยอย่างเต็มที่ ส่วนเส้นทางอพยพยังไม่ได้สรุปให้ชัดเจน แต่รัฐบาลเมียนมา ยืนยันว่า คนไทยทุกคนต้องปลอดภัย ซึ่งในค่ายทหารในเมือเล้าก์ก่าย ที่เป็นศูนย์อพยพ มีคนไทย เวียดนาม ลาว และ จีน โดยมีกำลังทหารในการรักษาเมืองเล้าก์ก่าย คนไทยต้องอยู่ในหน่วยทหาร ถึงจะปลอดภัย โดยทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ได้ประสานเรื่องอาหาร ยารักษาโรค ขอความร่วมมือทางเมียนมาในการช่วยเหลือดูแล
“ผมยืนยันได้ว่าคนไทยที่อยู่ในการดูแลของเมียนมา ไม่ใช่โล่มนุษย์ หรือเป็นตัวประกันของทหารเมียนมา เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน ทางเมียนมาพยายามดูแลคนไทยอย่างดี เรามากันขนาดนี้ ก็เพื่อยืนยันว่ารัฐบาลไทยห่วงใยคนไทย ทางเมียนมาก็ต้องให้ความสำคัญด้วย” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว


รองผบ.ตร.กล่าวว่า การที่คนไทยอยู่ในค่ายทหารเมียนมาอาจจะไม่สบาย เพราะเป็นทีมเฉพาะกิจในการสู้รบ แต่ทางการเมียนมายืนยันว่ากำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้คนไทยออกมาอย่างปลอดภัย เหตุที่ล่าช้าเพราะสถานการณ์การสู้รบ ซึ่งยังมีคนไทยอีกว่า 200 คน และคนจีนกว่า 600 คน เชื่อว่าคงไม่มีใครต้องการให้เกิดอันตราย เพราะถ้ามีชาวต่างชาติเสียชีวิตก็จะกระทบกับรัฐบาลเมียนมาด้วย จึงมั่นใจได้ว่าไม่มีการเอาคนไทยเป็นตัวประกัน และจะพยายามดูแล เอาตัวคนไทยออกมาโดยเร็วที่สุด
ด้านสำนักข่าว SHAN รายงานในวันเดียวกันว่า เหตุสู้รบกันระหว่างกองทัพพม่าและกลุ่มพันธมิตรทางเหนือ ซึ่งประกอบด้วย กองกำลังปะหล่อง TNLA โกก้าง MNDAA และกองทัพอาระกัน AA ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวานนี้สถานการณ์ในเมืองน้ำคำนั้นตึงเครียด เนื่องจากกองทัพพม่าและกองกำลังปะหล่อง TNLA ได้ปะทะกันอย่างหนักในตัวเมืองน้ำคำ
มีรายงานว่า ทาง TNLA ได้เข้ายึดเมืองน้ำคำไว้ทั้งหมด รวมถึงสถานีตำรวจในพื้นที่ เหตุปะทะกันที่เมืองน้ำคำ ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านในเมืองน้ำคำเสียหาย 100 หลังคาเรือนจากเหตุโจมตีทางอากาศจากกองทัพพม่า และมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อสงครามเสียชีวิตนับ 6 ราย บาดเจ็บอีก 5 ราย นอกจากนี้ ทรัพย์สินตามบ้านเรือนของชาวบ้านที่กำลังหนีสงครามไปอยู่ที่อื่น ยังถูกกลุ่มกองกำลังไม่ทราบฝ่ายขโมยไปด้วย


ส่วนผู้ลี้ภัยสงครามในเมืองน้ำคำมีจำนวนกว่า 5,000 คนแล้ว ทางด้านชาวบ้านในเมืองเรียกร้องให้กลุ่มติดอาวุธทั้งหมดอย่าสู้รบกันในตัวเมืองหรือในเขตชุมชน เนื่องจากประชาชนได้รับผลกระทบมากที่สุด ส่วนสถานการณ์ผู้ลี้ภัย ทางด้านสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติประจำพม่ารายงานว่า มีผู้ลี้ภัยจากเหตุสงครามสู้รบทางเหนือรัฐฉานมากกว่า 37,400 คน แล้ว
นอกจากนี้ยังเปิดเผยว่า เส้นทางคมนาคมที่สำคัญที่เชื่อมระหว่างรัฐฉานเหนือกับจีน ขณะนี้ถูกขัดขวางโดยจุดตรวจของกองทัพพม่าและกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์และสะพานสำคัญอย่างน้อย 1 แห่งได้ถูกทำลาย นอกจากนี้ ในหลายพื้นที่ทางตอนเหนือของรัฐฉาน ทางตะวันออกของเขตพะโค และรัฐกะเหรี่ยง ถูกตัดขาดจากการติดต่อสื่อสารทางโทรคมนาคม

รายงานข่าวแจ้งว่า แม้ในพื้นที่ทางเหนือของรัฐฉานจะมีหลากหลายองค์กรได้เสนอความช่วยเหลือปัจจัยขั้นพื้นฐานให้กับผู้ลี้ภัย เช่น ที่พักพิง อาหาร และน้ำ อย่างไรก็ตาม ความช่วยเหลือยังไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ลี้ภัยที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่บางพื้นที่ความช่วยเหลือไม่สามารถเข้าไปถึงได้ เนื่องจากสถานการณ์ไม่ปลอดภัย
สำนักข่าว SHAN ยังรายงานว่า กองทัพพันธมิตรทั้ง 3 กลุ่มได้เข้าปล้นเงินจากธนาคาร CB Bank ซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมืองแสนหวี ได้เงินไปเป็นจำนวนมาก เรื่องนี้กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ใช้สังคมออนไลน์ว่าพฤติกรรมของทั้ง 3 กลุ่ม ไม่ต่างจากโจร และสถานการณ์ของชาวบ้านในเมืองแสนหวีนั้นไม่มีความปลอดภัย