ภาสกร จำลองราช

แม่รายหนึ่งมีน้ำเสียงสั่นเครือ เมื่อเล่าถึงตอนที่ลูกชายถูกทุบตีและทรมานด้วยวิธีการต่างๆ จนทำให้ลูกชายของเธอบอบช้ำไปทั้งตัว ขณะที่เหยื่อบางคนต้องถูกขังในห้องมืดเพราะจับได้ว่าเขาส่งเรื่องร้องเรียนขอความช่วยเหลือไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงย่างกุ้ง
ผมมีโอกาสรับฟังเสียงของพ่อแม่ 6-7 คนที่ลูกของพวกเขาตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ถูกหลอกไปทำงานในเมืองเล่าก์ก่าย เขตปกครองพิเศษโกก้าง ผ่านกรุ๊ปไลน์ โดยมีจิตอาสาที่เกาะติดเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นร่วมประสานงานให้
ผมเกาะติดข่าวนี้มาแล้วกว่า 2 สัปดาห์ ตั้งแต่มีแหล่งข่าวกระซิบให้ฟังว่า มีคนไทยนับร้อยคนถูกมาเฟียจีนเทาหลอกลวงไปทำงานในประเทศพม่าด้านติดกับชายแดนจีน
คนไทยกลุ่มนี้โทรศัพท์ให้ข้อมูลว่า พวกเขาถูกทุบตีและทรมานด้วยวิธีการต่างๆหากไม่สามารถทำงานได้ตามเป้าหมายที่เจ้าของธุรกิจสีเทา-ดำ ต้องการ
ธุรกิจสีเทา-ดำ ที่นายจ้างนำตัวคนไทยไปทำงานคือการหลอกลวงหาคู่ การหลอกลวงลงทุนสกุลเงินดิจิตัล และต้มตุ๋นออนไลน์ด้วยวิธีการต่างๆ
แม่รายหนึ่งเล่าว่า ลูกชายของเธอลาออกจากการเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งในประเทศไทยเพราะต้องการแสวงหารายได้ที่ดีกว่า โดยเพื่อนคนหนึ่งได้ชวนไปทำงานที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่วีซ่าของลูกชายไม่ผ่าน เพื่อนเลยชักชวนไปทำงานที่ประเทศจีนก่อน โดยมีรายได้ดีกว่าทำงานในประเทศไทยมาก โดยไม่ได้ตั้งใจจะไปทำงานผิดกฎหมายแต่อย่างใด
“แม่ก็เริ่มแปลกใจเมื่อลูกต้องนั่งเครื่องบินไปพม่า เขาบอกว่าจะไปจีน แต่ทำไมถึงไปตั้งต้นในพม่า มารู้อีกทีเมื่อลูกบอกว่าอยู่ที่เขตพิเศษโกก้างแล้ว แม่เองก็ไม่รู้จักมาก่อนว่าโกก้างคืออะไรและอยู่ที่ไหน พอสอบถามเพื่อนๆ เขาบอกว่าเป็นพื้นที่อันตรายมาก แต่ถึงตอนนั้น เราก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว” แม่ของเหยื่อรายนี้มีชีวิตไม่เป็นปกติสุขนับแต่นั้นมา ลูกของนางโทรติดต่อมาเป็นระยะๆและเล่าถึงความยากลำบาก และความเลวร้ายในที่ทำงาน
แม่รายนี้พยายามแจ้งไปยังหน่วยงานราชการไทยบางแห่ง แต่เรื่องราวที่เธอร้องเรียนกลับเงียบหายไป ขณะที่สถานการณ์ในที่ทำงานลูกในเมืองเล่าก์ก่ายยิ่งรุนแรงขึ้น
เขตปกครองพิเศษโกก้างตั้งอยู่บริเวณภาคเหนือของรัฐฉาน ประเทศพม่าติดกับชายแดนจีน ประชากรส่วนใหญ่เป็นคนจีน แต่ในสมัยนักล่าอาณานิคมมีอำนาจ อังกฤษยึดครองพม่าและได้ผนวกเอาพื้นที่บริเวณนี้มาไว้เป็นของพม่า แต่โดยสายเลือดแล้วกลุ่มชาติพันธุ์โกก้างมีความสนิทกับคนจีนมากกว่า
ผู้นำโกก้างแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือกลุ่มที่สยบยอมรัฐบาลทหารพม่าทำหน้าที่เป็นกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งต่อต้านรัฐบาลทหารพม่าคือ MNDAA (Myanmar National Democratic Alliance Army) โดยก่อนหน้านี้โกก้างกลุ่มที่นิยมพม่าได้ปกครองพื้นที่ส่วนใหญ่ และอนุญาตให้กลุ่มนักธุรกิจสีเทา-ดำ เข้ามาเปิดคาสิโนและธุรกิจต้มตุ๋นออนไลน์มากมาย
ธุรกิจของเหล่ามาเฟียจีนเทาในหลายประเทศภูมิภาคนี้เชื่อมโยงกันโดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันตกของไทย ตั้งแต่พี่ใหญ่สุดคืออาณาจักรคิงส์โรมันส์ ของจ้าว เหว่ย ซึ่งอยู่ในประเทศลาวตรงข้ามกับ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยจ้าว เหว่ย ถูกขึ้นบัญชีดำจากทางการสหรัฐฯ มาหลายปีแล้ว
อาณาจักรคิงส์โรมันส์เชื่อมโยงกับธุรกิจสีเทา-ดำในเมืองท่าขี้เหล็ก ตรงข้ามกับ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกัน ขณะเดียวกันจ้าวเหว่ยยังเข้าไปลงทุนใน KK Park ซึ่งเป็นแหล่งคาสิโนและต้มตุ๋นออนไลน์แห่งใหม่ในเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ตรงข้ามกับ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยพื้นที่นี้อยู่ในความดูแลของกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ เช่นเดียวกับอาณาจักรชเวก๊กโก่ ที่อยู่ติดๆ กันซึ่งเป็นสวรรค์สำหรับกลุ่มจีนเทาที่พยายามอ้างการลงทุนด้านเศรษฐกิจ แต่เป็นที่รับรู้กันดีว่าเป็นเพียงการต่อยอดเงินที่ได้มากจากธุรกิจสีเทา-ดำ และนำไปต่อยอดธุรกิจในประเทศไทยอีกทอดหนึ่ง
ธุรกิจของกลุ่มมาเฟียจีนเทาเหล่านี้ยังเชื่อมโยงไปถึงเขตปกครองพิเศษโกก้างและว้า ทางภาคเหนือของรัฐฉาน ประเทศพม่าซึ่งอยู่ติดกับชายแดนจีน
เหยื่อค้ามนุษย์ของมาเฟียกลุ่มนี้ถูกขายต่อเป็นทอดๆ ผลัดเปลี่ยนไปยังพื้นที่ต่างๆ ที่สานกันเป็นเครือข่าย
กลุ่มจีนเทามีศักยภาพเข้าถึงคนมีสีของทางการไทย รวมถึงนักการเมืองระดับชาติจำนวนหนึ่ง เห็นได้จากการที่จ้าว เหว่ย ต้องการที่จะสร้างสะพานสามเหลี่ยมทองคำ ข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมระหว่างคิงส์โรมันส์ กับ อ.เชียงแสน ปรากฏว่าได้รับการสนองตอบจากนักการเมืองไทยระดับชาติ รวมถึงนักธุรกิจใหญ่จำนวนหนึ่งในทันที
เช่นเดียวกับกรณีที่ พ.อ.หม่องชิตตู่ ผู้บัญชาการควบคุมพื้นที่ 3 กองกำลัง BGF หรือ กองกำลังพิทักษ์ชายแดนเขตชเวโก๊กโก่ ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.เชียงราย ประกาศปิดท่าขนส่งสินค้าตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป เนื่องจากไม่พอใจตำรวจภาค 6 จำนวน 10 นาย ที่ข้ามไปฝั่งพม่า เพื่อขอเรียกเก็บผลประโยชน์รายเดือนในอัตราที่สูงขึ้น
นั่นเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างอำนาจในไทยกับเหล่ามาเฟียจีนเทา ที่สามารถเดินทางเข้า-ออกชายแดนไทยได้อย่างสะดวก
ฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่กระบวนการให้การช่วยเหลือคนไทยที่ตกเป็นเหยื่อของเหล่านักธุรกิจจีนเทาจึงเป็นไปอย่างเชื่องช้ามาก
“พวกเราแจ้งสถานทูต แจ้งตำรวจ แจ้งไปยังกระทรวงต่างๆหลายแห่ง แต่เรื่องกลับเงียบหายไป พวกเราเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว” พ่อแม่คนเหยื่อต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน
ปัจจุบันกลุ่มมาเฟียจีนได้ใช้เงินจากธุรกิจสีเทา-ดำ มาทำธุรกิจต่างๆในประเทศไทย โดยเฉพาะการเปิดร้านค้า-ร้านอาหารต่างๆ ย่านกลางเมืองกรุงเทพมหานคร
ขณะที่คนไทยไม่น้อยกว่า 200 คนยังคงติดอยู่ในดินแดนโกก้าง บางส่วนได้รับความช่วยเหลือจากทางการพม่าให้ไปอยู่ในค่ายทหาร แต่กลับเกิดสถานการณ์เสี่ยงยิ่งขึ้นเมื่อกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า The Brotherhood Alliance ประกอบด้วย กองทัพโกก้าง (MNDAA) กองทัพตะอางหรือปะหล่อง (Ta’ang National Liberation Army-TNLA) และกองทัพอาระกัน (Arakan Army-AA) ปฏิบัติการโจมตีในชื่อ Operation 1027 ถล่มกองทัพพม่าในหลายพื้นที่ของรัฐฉานโดยเฉพาะเขตปกครองพิเศษโกก้าง และสามารถบุกยึดค่ายทหารพม่าได้เป็นจำนวนมาก
ขณะที่คนไทยอย่างน้อย 62 คนยังถูกจับเป็นตัวประกันของพวกจีนเทาอยู่ในตึกที่ใช้ประกอบธุรกิจต้มตุ๋นออนไลน์
สถานการณ์การต้มตุ๋นหลอกลวงยังคงดำเนินต่อไป ไม่ใช่เฉพาะคนไทย แต่มีประชาชนหลายประเทศ หลายกลุ่มชาติพันธุ์ รวมแล้วหลายพันคนที่กลายเป็นเหยื่อของเครือข่ายมาเฟียจีนเทา
ตราบใดที่ยังมีช่องว่างทางการปกครองในพื้นที่แนวตะเข็บชายแดนยังสูงลิ่ว ความอ่อนแอของรัฐบาลในบางประเทศและการทุจริตคอรัปชั่นที่สูงลิ่ว ประชาชนที่แสวงหาชีวิตที่ดีกว่าก็จะตกเป็นเหยื่อของพวกค้ามนุษย์ต่อไป
————