Search

“มินอ่องหลาย”รับสูญเสียหนัก กองกำลังพันธมิตรภาคเหนือยึดพื้นที่ได้อีก

ภาพจาก The Kokang

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า พล.อ.มินอ่องหลายได้ออกมาโจมตีว่า มีผู้เชี่ยวชาญต่างชาติอยู่เบื้องหลังในการช่วยเหลือกลุ่มติดอาวุธฝ่ายต่อต้านรบกับกองทัพพม่า โดยเฉพาะการนำโดรนบังคับมาโจมตีโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงใช้ในสงครามทางเหนือของรัฐฉาน จนทำให้ฝ่ายกองทัพพม่าต้องสูญเสียทั้งกำลังพลและฐานที่มั่นสำคัญให้กับฝ่ายต่อต้าน

ขณะที่ทางกลุ่มพันธมิตรทางเหนือ ซึ่งประกอบด้วยกองกำลังโกก้าง MNDAA กองทัพปะหล่อง TNLA และกองทัพอาระกัน AA สามารถยึดฐานที่มั่นสำคัญของกองทัพพม่า และหลายเมืองทางเหนือของรัฐฉาน รวมไปถึงเส้นทางการค้าสำคัญที่เชื่อมกับจีน โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่า เรื่องนี้กำลังเป็นสิ่งที่ท้าทายที่สุดสำหรับกองทัพพม่านับตั้งแต่ยึดอำนาจ

ในแถลงการณ์ของพล.อ.อ่องหลายระบุว่า กลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธนั้น ได้ใช้โดรนซึ่งมีเทคโนโลยีขั้นสูงโจมตีฐานทัพพม่าต่างๆ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติที่กล่าวหานั้นมาจากประเทศไหน

แหล่งข่าวรายงานว่า การปะทะกันทางเหนือรัฐฉานที่ผ่านมา มีทหารยศพลจัตวาของกองทัพพม่ารายหนึ่งต้องเสียชีวิต หลังถูกโจมตีด้วยโดรนทิ้งระเบิด

ทั้งนี้ รัฐบาลปักกิ่งเป็นผู้จัดหาอาวุธรายใหญ่และเป็นพันธมิตรสำคัญของรัฐบาลเผด็จการทหารพม่า แต่ความสัมพันธ์เริ่มตึงเครียดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จากความล้มเหลวของรัฐบาลทหารพม่าในการปราบปรามกลุ่มหลอกลวงทางออนไลน์ที่ถูกรัฐบาลปักกิ่งกล่าวหาว่ามุ่งเป้าไปยังชาวจีน

ทางด้านสหประชาชาติรายงานว่า มีประชาชนราว 200 คน รวมทั้งเด็กถูกสังหาร และทำให้มีผู้ลี้ภัยราว 335,000 คน นับตั้งแต่สงครามเริ่มมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา

ขณะที่สำนักข่าว Mizzima รายงานว่า รัฐบาล NUG วิจารณ์เจ้าหน้าที่ชายแดนจีน หลังใช้แก๊สน้ำตายิงใส่ผู้ลี้ภัยจากเมืองเล้าก์ก่าย ที่พยายามหลบหนีสงครามในฝั่งรัฐฉานมาใกล้กับรั้วที่กั้นระหว่างจีนและรัฐฉาน โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล NUG กล่าวว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่ตรงชายแดนของจีนครั้งนี้เป็นการกระทำที่ไร้ความเป็นมนุษย์

ในวันเดียวกันนี้สำนักข่าวในพม่าหลายแห่ง รายงานว่า กองกำลังโกก้างสามารถยึดเมืองกงจัม ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของเขตปกครองโกก้างได้เพิ่มอีกพื้นที่หนึ่ง โดยทหารพม่าและเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่จำนวน 186 คน และสมาชิกครอบอีก 86 คน ได้ยอมวางอาวุธ โดยผู้บัญชากองพันของกองทัพพม่าในพื้นที่ได้ร้องขอให้ทางกองกำลังโกก้างรักษาพยาบาลให้กับทหารพม่าที่ได้รับบาดเจ็บและให้สมาชิกครอบครัวของพวกเขาย้ายถิ่นฐานหลังจากที่ยอมวางอาวุธ

ด้านโฆษกของกองกำลังโกก้างเปิดเผยกับสำนักข่าว Irrawaddy ว่า ชัยชนะครั้งนี้ ใหญ่กว่าที่พวกเขาคาดคิดเอาไว้ โดยเชื่อว่า เผด็จการทหารนำโดย พล.อ.มินอ่องหลายนั้นจะสิ้นสุดลง และกองทัพโกก้างจะต่อสู้ทุกวิถีทางเพื่อสิ่งนั้น

ส่วนความเคลื่อนไหวอีกด้านหนึ่งในรัฐฉาน เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กองทัพรัฐฉานใต้ RCSS/SSA และกองทัพรัฐฉานเหนือ SSPP/SSA ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันที่จะหยุดยิง