Search

เครือข่ายทรัพย์ฯอีสานจัดใหญ่เปิดเวทีรับ ครม.สัญจร เรียกร้องยุติโครงการผันน้ำโขงเลยชีมูน -เหมืองแร่โปแตซ  

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2566 เมื่อเวลา เครือข่ายประชาชนปกป้องลุ่มน้ำโขงอีสาน ได้จัดกิจกรรม “มหกรรมประชาชนปกป้องลุ่มน้ำโขงอีสาน” ณ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมีเครือข่ายชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายการจัดการน้ำของรัฐ เข้าร่วมกว่า 100 คน ซึ่งในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ไว้มีเวทีเสวนา “บทบาทของประชาชนในการจัดการทรัพยากรน้ำ” โดยวิทยากรได้วิพากษ์นโยบายการจัดการน้ำของทุกรัฐบาลที่ละเมิดสิทธิของชาวบ้าน และส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตชุมชน ต่อทรัพยากร และข้อเสนอในการแก้ไขนโยบายการจัดการทรัพยากรน้ำ

ขณะที่ตัวแทนชาวบ้านได้อ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้หยุดรัฐและทุนเขมือบทรัพยากรประเทศ โดยมีข้อเสนอต่อ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่จะเดินทางลงพื้นที่ กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 (จังหวัดบึงกาฬ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู และอุดรธานี) ระหว่างวันที่ 3-5 ธันวาคม 2566  ดังนี้ 1. ให้ยุติการเดินหน้าโครงการผันน้ำโขง เลย ชี มูล 2. ให้ยุติการเดินหน้าโครงการเหมืองแร่โพแตชอุดรธานี และเหมืองแร่ในภาคอีสาน 3. ให้เร่งแก้ไขปัญหาเขื่อนร้อยเอ็ด เขื่อนยโสธร-พนมไพร แม่น้ำชี จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดยโสธร, แก้ไขปัญหาเขื่อน ราษีไศล เขื่อนหัวนา แม่น้ำมูน, แก้ไขปัญหาป่าไม้ที่ดิน, แก้ไขปัญหากรณีโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล ภาคอีสาน เป็นต้น 4. ให้รัฐสนับสนุนรูปแบบการจัดการน้ำระดับครัวเรือนที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ เช่น รูปแบบแผงโซลาร์เซลในการดึงน้ำมาใช้ในการเกษตร เป็นต้น

นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ อดีตกรรมสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า สิทธิชุมชน เป็นสิ่งที่ทำให้คนหนุ่มสาวมีชีวิตต่อไปได้ การฮั้วกันของอำนาจเก่ากับรัฐบาลใหม่ครอบงำและทำลายอำนาจประชาชน จะต้องมีการกระจายอำนาจและโอกาสในการดูแลจัดการให้กับประชาชนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ในส่วนของการจัดการน้ำที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำอย่างชัดเจนจะต้องมีการแก้ไข กฎหมาย นโยบาย รวมไปถึงโครงสร้าง สิทธิชุมชนในการจัดการจัดการน้ำจะเกิดขึ้นได้ด้วย 1.การกระจายโอกาส และอำนาจสู่ชุมชนในทุกมิติ 2.ขยายความร่วมมือของชาวบ้านเครือข่ายแต่ละชุมชน 3.การกระจายความรู้จากชุมชนเพื่อสื่อสารกับสาธารณะเพื่อยกระดับชุมชน ยกระดับการมีส่วนร่วมของประชาชน

นายจำนงค์ จิตนิรัตน์ ที่ปรึกษาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟกล่าวว่า ภัยพิบัติซ้ำซาก ความจนซ้ำซ้อน ชาวบ้านที่จังหวัดอุบลราชนีที่ได้รับผลกระทบทับซ้อนกันจากประเด็นปัญหาอุทกภัยในทุกปีส่งผลให้เกิดปัญหาความยากจนซ้ำร้ายที่ดินทำกินยังถูกประกาศให้เป็นที่สาธารณะ ชาวบ้านในชุมชนต้องลุกขึ้นมาช่วยเหลือกันเอง แม้ขอความช่วยเหลือจากรัฐไปก็ไม่ได้รับการตอบรับใด ๆ สะท้อนให้เห็นว่าที่ผ่านมารัฐล้มเหลวในการจัดการน้ำและดูแลประชาชนอย่างมาก

นายหาญณรงค์ เยาวเลิศ ประธานมูลนิธิเพื่อการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ กล่าวว่า บทเรียนในการจัดการน้ำที่ผ่านมาของโครงการโขง ชี มูน ภาคอีสาน พื้นที่ชาวบ้านลุ่มน้ำชีและลุ่มน้ำมูน ต่างได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำ ทำให้เกิดการเรียกร้องสิทธิเพื่อให้รัฐแก้ไขปัญหาถึงปัจจุบันยังไม่เสร็จ  

ด้านนายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของ กล่าวว่า บทเรียนของการจัดการน้ำที่ผ่านมาเป็นเพราะแนวคิดการพัฒนาแบบเดิม ๆ ของรัฐจะต้องรื้อความคิดแบบเก่าและหนุนเสริมรูปแบบการจัดการน้ำขนาดเล็กที่ชุมชนสามารถเข้าถึงและไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม  ตลอดจนจะต้องเชื่อมร้อยเครือข่ายประชาชนเพื่อยกระดับสู่การแก้ปัญหาในเชิงนโยบายต่อไป

ดร.มาลี สิทธิเกรียงไกร อาจารย์ประจำศูนย์ศึกษาชาติพันธุ์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ที่ผ่านมาภาคประชาชนขาดกระบวนการมีส่วนร่วมในการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) ถือว่าเป็นบทเรียนที่เราได้มาร่วมสรุปด้วยกันเพื่อออกแบบในการศึกษาและจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมของภาคประชาชนแบบคู่ขนาน โดยจะต้องผสานความรู้ระหว่างนักวิชาการกับชาวบ้านในการยกระดับความรู้เพื่อสู้กับอำนาจที่ครอบงำสังคม ตลอดจนการสร้างความน่าเชื่อถือของข้อมูลและส่งเสริมให้ชาวบ้านตระหนักถึงการหวงแหนทรัพยากร การปกป้องชุมชนและการตรวจสอบนโยบายของรัฐ

ด้านผู้ใหญ่ ชุมพร เรืองศิริ เครือข่ายอนุรักษ์และฟื้นฟูลุ่มน้ำห้วยเสนง จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ได้สรุปบทเรียนถึงกลไกการจัดการน้ำของภาครัฐ ภายใต้ พ.ร.บ.น้ำ ปี 2561 ที่ไม่เอื้อให้ชาวบ้านเข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการน้ำ ที่มีข้อจำกัดในเรื่องของสัดส่วนคณะกรรมการลุ่มน้ำที่ให้อำนาจหน้าที่กับหน่วยงานภาครัฐเข้าไปมีบทบาทมากกว่าภาคประชาชน   โดยมีข้อเสนอต่อการแก้ปัญหาการจัดการน้ำ ให้ยึดรูปแบบการจัดการน้ำตั้งแต่ระดับชุมชน ตำบล ขึ้นไปถึงระดับนโยบาย เพื่อก่อให้เกิดการจัดการทรัพยากรน้ำแบบยั่งยืน

หลังจากนั้นเครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภาคอีสาน ได้เดินทางไปยังสะพานข้ามลำน้ำพอง เพื่อร่วมกันปล่อยป้ายที่มีข้อความว่า “หยุดทุนแย่งชิงทรัพยากรชุมชน” “หยุดรัฐรวมศูนย์อำนาจเขมือบประเทศ” และ “ไม่เอาผันน้ำโขง เลย ชี มูน”

วันเดียวกันชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ประมาณกว่า 100 คน ได้รวมตัวกันบริเวณหน้าสำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ที่ตำบลโนนสูง อำเภอประจักศิลปาคม จังหวัดอุดรธานี  เพื่อแสดงออกถึงจุดยืนในการคัดค้านเหมืองแร่โปแตชที่ จังหวัดอุดรธานี   ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมที่ได้เดินทางมาลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการเหมืองแร่โปแตช ทั้งนี้ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมองว่าเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนให้ผู้ได้ประทานบัตรเร่งขุดแร่ขึ้นมาขาย จึงประกาศว่า เรายึดมั่นในสิทธิชุมชนที่ปกป้องวิถีเกษตรกรรม ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจชุมชนที่ไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดังนั้น เราจะคัดค้านการทำเหมืองจนถึงที่สุด โดยไม่ยอมให้นายทุนหน้าไหนเข้ามาขุดเอาแร่ใต้ถุนบ้านเราไปขาย แล้วทิ้งไว้เพียงกากเกลือซึ่งจะเป็นผลกระทบไปจนชั่วลูกหลาน

On Key

Related Posts

รมว.กระทรวงน้ำของจีนเยือนไทย-ลงพื้นที่แม่น้ำโขง สทนช.ของบทำโครงการแก้ปัญหาอุทกภัยน้ำสาย-น้ำรวก นักอนุรักษ์แม่น้ำจี้รัฐบอกความจริง-ผลกระทบของคนท้ายน้ำจากเขื่อนจีน

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2568 เพจของสำนักงานทรัพยากรนRead More →

ผู้เชี่ยวชาญเตือนฤดูฝนหน้าลุ่มน้ำกก-ลุ่มน้ำสายเสี่ยงสึนามิโคลนอีก เหตุทำเหมืองต้นน้ำ แนะเร่งทำจุดตรวจวัดชายแดน เผยยังไม่มีหน่วยราชการตรวจสอบระบบนิเวศ ชาวบ้านท่าตอนยังกังวลน้ำกกขุ่น

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2568 ดร.ธนพล พิมาน หัวหน้าฝ่Read More →

ชุมชนในป่าเครียดหนักเหตุรัฐแก้ปัญหาเหมารวม-ห้ามเผาแบบไม่แยกแยะ ไฟป่า-ไฟเกษตร หวั่นวิกฤตอาหารบนดอย สส.ปชน.ชี้รัฐผูกขาดจัดการทรัพยากรนำสังคมสู่วิกฤต

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 ที่ห้องประชุมคณะสังคมศาRead More →