เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2566 สำนักข่าวแม่โขงนิวส์และสำนักข่าวไทใหญ่ Tai TV Online เผยแพร่ข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนได้เดินทางเข้าปราบปรามและจับกุมขบวนการแก๊งอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในเมืองท่าขี้เหล็ก ทางภาคตะวันออกของรัฐฉาน ตรงข้ามกับ อ.แม่สาย จ.เชียงรายของไทย นับตั้งแต่เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยสำนักงานของขบวนการหลอกลวงทางออนไลน์เหล่านี้ตั้งอยู่ด้านหลังของสำนักงานของกองทัพว้า UWSA
สื่อไทใหญ่รายงานว่า หัวหน้าและขบวนการแก๊งอาชญากรรมออนไลน์ต่างพากันหลบหนีและจ้างรถบรรทุกสิบล้อขนย้ายทรัพย์สินออกไปเป็นจำนวนมาก หลังทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนจะเข้ามากวาดล้างจับกุม โดย มีแก๊งอาชญากรรมทางออนไลน์นับ 10 กลุ่ม ได้ขนย้ายทรัพย์สินและหลบหนีออกจากเมืองท่าขี้เหล็ก ซึ่งสำนักงานของกลุ่มเหล่านี้ตั้งอยู่ในเขตหยั่นอ่องเหม่ และเขตสันทราย ตัวสำนักงานนั้นเป็นตึก 5 – 6 ชั้น มีห้องพักมากถึง 300 – 400 ห้อง อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์การเมืองมองว่า การเข้ามาจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนและฝ่ายสืบสวนของจีนในครั้งนี้ ได้รับไฟเขียวจากกองทัพพม่า
แต่อย่างไรก็ตาม ทางการพม่าเองมีส่วนรู้เห็นโดยการปล่อยให้แก๊งมิจฉาชีพออนไลน์เหล่านี้ตั้งสำนักงานอยู่ในพม่า โดยการเรียกรับสินบนรวมไปถึงให้การคุ้มครองขบวนการเหล่านี้ที่อยู่ในพม่า ส่วนทางการจีนนั้นพยายามที่จะกวาดล้างขบวนการแก๊งมิจฉาชีพออนไลน์เพราะสร้างความเสียหายให้กับประเทศจีน ก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนก็เคยเข้าไปจับกุมขบวนการมิจฉาชีพออนไลน์ถึงเมืองเล่าก์ก่าย ทางเหนือของรัฐฉาน รวมถึงได้จับกุมผู้นำระดับสูงของกองทัพว้าและกล่าวหาว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการมิจฉาชีพ
ด้านสำนักข่าว SHAN รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 -2 ธันวาคมที่ผ่านมา ทางการจีนได้ลงพื้นที่โดยบอกให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองเจ้เก้า ฝั่งจีน ตรงข้ามกับเมืองหมู่เจ้ ทางเหนือของรัฐฉาน ให้ย้ายไปอยู่ยังเมืองมาว (เมืองรุ่ยลี่)ทั้งหมดชั่วคราว หลังหวั่นสถานการณ์สู้รบระหว่างกองทัพพม่าและฝ่ายต่อต้านในรัฐฉานจะรุนแรงขึ้นและหากประชาชนในเมืองเจ้เก่าย้ายออกไปหมด ทางการจีนมีแผนที่จะปิดสะพานเชื่อมแม่น้ำมาวด้วย
ในเดียวกันกองทัพพม่าได้ใช้เครื่องบินรบโจมตีในตำบลเจ้ล่าน เมืองหมู่เจ้ รวมไปถึงโจมตีในเมืองน้ำคำ เป็นเหตุให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก และบ้านเรือนของชาบ้านได้รับความเสียหายหลายหลัง อีกพื้นที่หนึ่งในเมืองล่าเสี้ยว
มีรายงานว่า กองทัพพม่าได้ตรวจเข้มประชาชนที่หนีภัยสงครามมาจากเมืองเล่าก์ก่าย หากผู้ลี้ภัยจากเมืองเล่าก์ก่ายที่ไม่มีคนรู้จักหรือญาติในเมืองล่าเสี้ยวก็จะไม่สามารถเข้ามายังเมืองล่าเสี้ยวได้ ผู้ลี้ภัยบางส่วนต้องติดค้างตามด่านเป็นเวลาหลายวัน ทางกองทัพพม่าได้ใช้มาตรการเข้มงวดตามด่านทางเข้าออกในเมืองล่าเสี้ยว เนื่องจากหวั่นว่าจะมีทหารของฝ่ายต่อต้านแฝงตัวเข้ามาพร้อมกับผู้ลี้ภัย