
สำนักข่าว SHAN รายงานเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2566 ว่า จากกรณีที่นายอูมิ้นหน่อง รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานของพม่าและคณะได้เดินทางเยือนประเทศไทย และได้พบปะกับหลายกลุ่มที่ให้ความคุ้มครองแรงงานข้ามชาติจากพม่าในไทย รวมถึงเยี่ยมแรงงานจากพม่าเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมา ในระหว่างพบหารือกัน ทางนายอูมิ้นหน่องได้กล่าวเรียกร้องให้แรงงานข้ามชาติจากพม่าส่งเงินกลับประเทศ 25 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน ขณะที่เรื่องนี้กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของกลุ่มแรงงานข้ามชาติในไทย โดยแรงงานมองว่า รัฐบาลพม่าภายใต้ทหารไม่เพียงแต่บริหารเศรษฐกิจได้ย่ำแย่หลังจากยึดอำนาจจนทำให้คนในประเทศลำบากเดือดร้อนแล้ว ยังกำลังรีดไถทำให้แรงงานนอกประเทศได้รับความเดือดร้อนอีกด้วย
นักเคลื่อนไหวรายหนึ่งที่ทำงานให้กับกลุ่มคุ้มครองแรงงานข้ามชาติกล่าวว่า นโยบายให้แรงงานข้ามชาติส่งเงินกลับประเทศ 25% นั้น เป็นนโยบายที่ทำร้ายแรง เนื่องจากแรงงานข้ามชาติมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก
“ไม่ว่าจะเป็นรายจ่ายค่าบัตรเอกสาร ค่ากินค่าอยู่ แม้แต่น้ำดื่มยังต้องซื้อกิน นอกจากทางการพม่าจะไม่ดูแลคนในประเทศให้ดีแล้ว ยังมาเรียกเก็บเงินแรงงานที่อยู่ในต่างประเทศ พวกเขาไม่เห็นใจว่าแรงงานเหน็ดเหนื่อยหรือลำบากแค่ไหนในประเทศอื่นโดยไม่ให้ความช่วยเหลือใดๆ เราจึงไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว ” เขากล่าว
นายอูโมโจ นักเคลื่อนไหวจากกลุ่มคุ้มครองแรงงานอีกรายหนึ่งยังเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ทางการพม่าเผยแพร่คำประกาศข่มขู่ให้แรงงานต้องส่งเงินกลับประเทศ ซึ่งเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ และตอนนี้ใช้ข้ออ้างว่า มาเยี่ยมเยียนแรงงานข้ามชาติ แต่ก็มีวัตถุประสงค์เพื่อมาเกลี้ยกล่อมให้แรงงานส่งเงินกลับบ้าน เพราะพบว่าระหว่างลงพื้นที่เยี่ยมแรงงาน ยังสอนวิธีการโอนเงินให้กับแรงงานด้วย
ขณะที่แรงงานข้ามชาติรายหนึ่งเปิดเผยว่า หากต้องส่งเงิน 25 % กลับบ้านทุกเดือนตามที่ทางการพม่าประกาศไว้ เป็นเรื่องที่หนักใจสำหรับตน เนื่องจากแรงงานข้ามชาติเป็นแรงงานที่หาเช้ากินค่ำเท่านั้น ขณะที่แรงงานอีกรายหนึ่งกล่าวว่า หากต้องส่งเงินตามที่ทางการพม่าออกมาประกาศ เชื่อว่าจะส่งผลกระทบทำให้ค่าใช้จ่ายในบ้านไม่พอใช้ และที่ผ่านมาส่งเงินไปให้ทางบ้านใช้ แต่ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในพม่านั้นแพงขึ้น ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก
ขณะที่มีรายงานว่า ก๊าซหุงต้มในเมืองตองจี เมืองหลวงของรัฐฉาน มีราคาแพงขึ้นเป็นสองเท่าและขาดแคลนอย่างหนัก ในขณะเดียวกัน น้ำมันเชื้อเพลิงในหลายเมืองใหญ่เริ่มขาดแคลนอย่างหนักเช่นเดียวกัน สืบเนื่องมาจากค่าเงินจั้ตลดลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์นับตั้งแต่กองทัพพม่ายึดอำนาจ ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระค่าขนส่งเชื้อเพลิงของผู้นำเข้า
สำนักข่าว Irrawaddy รายงานว่า ประชาชนในเมืองเนปีดอว์ต้องต่อคิวซื้อน้ำมันนานถึง 6 ชั่วโมง และผู้ใช้รถจักรยานยนต์ถูกจำกัดให้ซื้อน้ำมันได้ไม่เกิน 2 ลิตร และรถยนต์ถูกจำกัดไม่ให้ซื้อน้ำมันไม่เกิน 20 ลิตร นอกจากนี้ ทางการพม่ายังประกาศจะเอาผิดประชาชนที่กักตุนน้ำมันเกิน 180 ลิตร โดยไม่มีใบอนุญาต เช่นเดียวกันราคาเชื้อเพลิงก็พุ่งสูงขึ้นเท่าตัวเช่นเดียวกัน