เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2566 สำนักข่าว Tai Freedom กระบอกเสียงของกองทัพรัฐฉานใต้ RCSS/SSA ได้เผยแพร่ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกองทัพรัฐฉานเหนือ SSPP/SSA และกองทัพรัฐฉานใต้ RCSS/SSA ซึ่งมีใจความจะร่วมกันสร้างความปรองดองระหว่างกันเพื่อให้ประชาชนในรัฐฉานได้อยู่อย่างสงบสันติภาพ
การเผยแพร่ข้อตกลงหยุดยิงในวันนี้ซึ่งตรงกับวันปีใหม่ของชาวไทใหญ่ หรือชาติพันธุ์ไตยตรงกับปี 2118 ของชาวไทใหญ่ สร้างความยินดีในหมู่ชาวไทใหญ่เป็นจำนนวนมาก แม้บรรยากาศการจัดงานปีใหม่ของพี่น้องชาวไทใหญ่ในประเทศไทยจะเป็นไปอย่างคึกคัก แต่บรรยากาศเฉลิมฉลองปีใหม่ในรัฐฉานกลับเงียบเหงา เมืองส่วนใหญ่ยกเลิกจัดงานในปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์สงครามในภาคเหนือของรัฐฉาน
ในแถลงการณ์ข้อตกลงหยุดยิงของทั้งสองกองทัพไทใหญ่ระบุว่า ทหารทั้งสองฝ่ายจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้นำสูงสุดของกองทัพรัฐฉานเหนือและใต้อย่างเคร่งครัด ในเรื่องที่ให้หยุดยิงกัน ไม่ให้มีการกระทบกระทั่งกันโดยเด็ดขาด ซึ่งมีคำสั่งออกมาตั้งแต่เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อีกทั้งให้ปล่อยตัวประชาชนและทหารของอีกฝ่ายที่ถูกจับกุมไว้ นอกจากนี้ยังมีการตกลงที่จะให้สิทธิประชาชนสามารถเดินทางเข้าออก โยกย้าย อาศัยในเขตควบคุมของทั้งสองฝ่ายได้ แต่ต้องทำตามกฎหมายของทั้งสองกองทัพ
นอกจากนี้ ในข้อตกลงยังรวมถึงการเข้าไปยังพื้นที่ควบคุมของอีกฝ่ายจะต้องมีการแจ้งและได้รับความยินยอม อีกทั้ง หากทหารของอีกฝ่ายต้องการเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านจะต้องแจ้งล่วงหน้า และไม่พกอาวุธปืน รวมทั้งจะต้องพกบัตรประจำตัวติดตัวไปด้วยเป็นต้น ในข้อตกลงของทั้งสองฝ่ายยังระบุว่า เพื่อสร้างความเชื่อใจระหว่างกัน และความปรองดองให้แน่นแฟ้นขึ้น ทั้งสองกองทัพจะพบหารือกันทุก 2 เดือน และจะไม่ยอมรับกลุ่มที่บ่อนทำลายให้ทั้งสองฝ่ายผิดใจกัน โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากทั้งสองกองทัพฝ่ายละ 3 คน ลงชื่อในข้อตกลงดังกล่าว โดยลงวันที่ 29 พ.ย.2566 ที่ผ่านมา แต่เพิ่งได้มีการนำออกมาเผยแพร่วันนี้
ขณะที่สงครามทางเหนือของรัฐฉานยังคงปะทุอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่เมืองน้ำคำ ทางเหนือของรัฐฉาน โดยสำนักข่าว SHAN รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ที่ผ่านมา กองทัพพม่าได้ใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านในเขตป้อกเหนือ ได้รับความเสียหายนับสิบหลัง นอกจากนี้ยังใช้ปืนใหญ่โจมตีโดยเฉพาะในเขตสะกานติ้ตกอง และเขตเจ้ล่าน และมีการเสริมกำลังเข้ามาในพื้นที่
ขณะที่ทหารปะหล่อง TNLA ได้ประจำอยู่ในชุมชนเช่นตามวัด โดยประชาชนกังวลจะเกิดเหตุปะทะกันหนัก จึงให้มีการระมัดระวังตัวและจับตามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เมืองน้ำคำเป็นอีกเมืองที่ได้รับผลกระทบหนักจากสงคราม จนถึงขณะนี้มีประชาชนเสียชีวิตแล้วกว่า 15 ราย บาดเจ็บมากกว่า 20 ราย บ้านเรือนเสียหายอีก 200 หลังคาเรือน ส่วนผู้ลี้ภัยจากเมืองน้ำคำแห่งเดียว พุ่งเป็น 6 พันกว่าคนแล้ว
ขอบคุณภาพจาก Tai Freedom