เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2566 ที่บริเวณหน้าอาคารองค์การสหประชาชาติ (United Nations) ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพมหานคร กลุ่ม Bright future เครือข่ายแรงงานชาวพม่าในประเทศไทย จัดกิจกรรมเรียกร้องสิทธิแรงงาน เนื่องในวันแรงงานข้ามชาติสากล โดยในงานมีการร่วมกันร้องเพลง ปราศรัย และอ่านแถลงการณ์
แถลงการณ์ระบุว่า เผด็จการเมียนมาถังแตกใช้สถานทูตปล้นแรงงานไปซื้ออาวุธ โดยสื่อมวลชนรายงานว่ารัฐบาลเมียนมาได้สั่งการให้แรงงานข้ามชาติ ชาวเมียนมาส่งเงินภาษี 2 % จากเงินเดือน โดยสถานทูตเมียนมาจะตรวจสอบทุกครั้งก่อนให้ต่ออายุเอกสารสำคัญ นั่นหมายความว่าแรงงานข้ามชาติในไทยกว่า 2 ล้านคน จะต้องส่งเงินกลับประเทศราว 300 ล้านบาททุกเดือน ซึ่งเงินนี้จะถูกใช้ไปกับการสั่งซื้ออาวุธและเสบียงสงคราม เพื่อการสู้รบและการฆ่าล้างประชาชนฝ่ายประชาธิปไตยในประเทศเมียนมาอย่างแน่นอน
แถลงการณ์ระบุว่าตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา คนธรรมดาได้ร่วมกันต่อต้านรัฐประหารทั้งด้วยสันติวิธีและการ ประท้วงนัดหยุดงานทั่วประเทศ Civil Disobedience Movement หรือ CDM จนต่อมาเกิดรัฐบาลพลัดถิ่น National Unity Government of Myanmar หรือ NUG และกองกำลังพิทักษ์ ประชาชน People’s Defense Force หรือ PDF ขึ้นมาเพื่อยกระดับการต่อต้าน พล.อ.มิน อ่อง หลาย ที่คุมขังนักโทษการเมืองกว่า 25,500 คน ใช้อาวุธปืนไปจนถึงการทิ้งระเบิดจากเครื่องบินรบ เข่นฆ่าประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 4,256 คน และก่อให้ต้องมีผู้ลี้ภัยอีกนับไม่ถ้วน เนื่องในวันแรงงานข้ามชาติสากล พวกเราแรงงานเมียนมาในไทยจึงขอแสดงเจตนารมณ์ต่อ ประชาคมโลกดังนี้
1. ให้แรงงานทั่วโลกร่วมประณามการปล้นเงินเดือน 2% จากแรงงานข้ามชาติชาวเมียนมา 2. ให้ประเทศอาเซียนเร่งให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมตามชายแดนเมียนมาทั้งหมด โดยให้กำหนดเป็นพื้นที่ปลอดภัยและปราศจากปฏิบัติการทางทหาร (Humanitarian Corridor) รวมถึงจัดหาสถานที่พักพิงสำหรับผู้พลัดถิ่นภายในประเทศเมียนมา 3. ให้ประเทศอาเซียนเร่งปฏิบัติตามฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน (Five-point Consensus) โดย เฉพาะการยุติความรุนแรงทั้งหมดในประเทศเมียนมา และเดินหน้าภารกิจด้าน มนุษยธรรมในประเทศเมียนมา
4. ให้รัฐบาลไทยระงับการร่วมมือกับรัฐบาลทหารเมียนมาในทุกระดับและขอให้แต่งตั้งตัวแทน ในการร่วมมือกับรัฐบาลพลัดถิ่น National Unity Government of Myanmar (NUG) ในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในระยะยาวต่อไป 5. ให้บริษัท ExxonMobil ในสหรัฐอเมริการะงับการขายเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่นให้กับรัฐบาลทหารเมียนมาตามข้อเรียกร้องโดย “US Campaign 4 Burma” และองค์กรเครือข่าย ด้วยสมานฉันท์กับแรงงานและนักต่อต้านเผด็จการทั่วโลก

นายชลิต รัษฐปานะ สมาชิกสหภาพคนทำงานกล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่า ช่วงรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีส่วนช่วยเหลือ รัฐบาลมิน อ่อง หลาย ส่งเสบียงต่างๆ ให้ทหารพม่าค่อนข้างชัดเจน ซึ่งในฐานะคนไทยคนหนึ่งไม่ต้องการให้เงินภาษีของเราไปเพิ่มไฟสงครามให้กับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเห็นถึงความโหดร้ายป่าเถื่อนของรัฐบาลเผด็จการทหาร
นายสุรัช กีรี แกนนนำเครือข่ายแรงงานชาวพม่าในไทย กลุ่ม Bright future กล่าวว่า ที่เรารวมตัวกันออกมาเรียกร้องในวันนี้เพราะไม่ต้องการที่จะส่งเงินจากการทำงานอย่างยากลำบากของเราเพื่อเสียภาษี 2 % ให้กับรัฐบาลมิง อ่อง ล่าย เพราะเงินเหล่านี้จะถูกนำไปซื้ออาวุธสงครามและนำมาสู้รบ เข่นฆ่าประชาชนที่ต่อต้านรัฐบาลเผด็จการพม่า
“พวกเราอยากฝากไปถึงนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ไม่ควรจะปิดหูปิดตานิ่งเฉยเช่นนี้ เพราะพี่น้องชาวพม่าต้องเผชิญกับความโหดร้าย ต้องบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากจากสู้รบที่ล่วงเลยกินเวลามายาวนาน อย่างไรก็ตามรัฐบาลเศรษฐาควรจะ Take Action และให้การช่วยเหลือประชาชนชาวพม่ารวมไปถึงแรงงานข้ามชาติในไทยอย่างเต็มที่” นายสุรัชกล่าว.
————-