เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2567 นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงานในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม(บอร์ดประกันสังคม) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการประกาศรายชื่อบอร์ดประกันสังคมชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2566 ว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับการเลือกตั้ง และพิจารณาว่ามีใครคัดค้านหรือไม่ คาดว่าใช้เวลา 1 เดือนและน่าจะประกาศได้ภายในวันที่ 24 มกราคมนี้
นายไพโรจน์กล่าวว่า ได้มอบหมายให้เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม(สปส.)จัดเตรียมข้อมูลของการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไร ซึ่งการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าการให้ผู้ประกันตนเดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้งด้วยตัวเองเป็นวิธีการที่ใช้ไม่ได้แล้วเพราะผู้ประกันตนในต่างจังหวัดยังไม่เห็นความสำคัญ อยากเสนอว่าต่อไปอาจให้ตัวแทนในต่างจังหวัดมาเลือกตั้งที่ส่วนกลาง
“หรืออาจใช้วิธีเลือกตั้งทางออนไลน์ก็น่าจะเหมาะสมกว่า แต่ต้องมีการสแกนใบหน้าผู้ประกันตน ต้องมีการพัฒนาระบบแอพพลิเคชั่น อาจต้องใช้เงินหลักร้อยล้านในการพัฒนา แต่ผมคิดว่าคุ้ม เพราะแอพพลิเคชั่นนี้ต่อไปเราสามารถใช้ในระบบจ่ายเงินหรือเรื่องอื่นๆได้อีกมาก แต่ขอศึกษาให้รอบคอบก่อน ความเห็นนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผมที่จะนำไปเสนอในที่ประชุมบอร์ด เราต้องดูในเรื่องระเบียบและข้อกฎหมายต่างๆด้วย เราเห็นการเลือกตั้งครั้งนี้คือบางคนอยู่ไกล จะให้เขาขับรถมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เขาก็ไม่เห็นความสำคัญเท่าที่ควร จึงไม่ไปใช้สิทธิ”นายไพโรจน์ กล่าว
นายปรารถนา โพธิ์ดี ประธานเครือข่ายพนักงานราชการไทย และว่าที่บอร์ดประกันสังคม กล่าวว่า ยังไม่มีการรับรองผลการเลือกตั้งซึ่งเท่าที่ทราบจะมีการประกาศภายในเดือนนี้ อย่างไรก็ตามหากเข้าไปทำหน้าที่บอร์ด สิ่งที่อยากเข้าไปแก้ไขคือเรื่องทันตกรรมซึ่งทุกวันนี้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิปีละ 900 บาท อยากให้ปรับขึ้นเป็นปีละ 2,000 บาท แต่มีผู้ประกันตนจำนวนมากไม่ได้ไปใช้สิทธิจึงอยากแก้ไขให้สามารถสะสมสิทธินี้ไว้ได้ถึง 5,000 บาทในปีต่อๆ มาเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกันตนได้ใช้สิทธิยาวขึ้นและมากขึ้น แต่ถ้าสะสมมากกว่า 5 พันบาทอาจทำให้กลายเป็นเงินคงค้างมากไป และอยากแก้ไขกรณีชราภาพ ถ้ารับเป็นบำนาญในแต่ละเดือน แสดงว่าเงินสะสมของผู้ประกันยังอยู่ที่ สปส.ดังนั้นเขาควรมีสิทธิรักษาพยาบาลต่อไป ไม่ใช่ถูกตัดสิทธิ นอกจากนี้คนที่เปลี่ยนสถานะ เช่น จากผู้ประกันตนไปรับสวัสดิการราชการ เขาควรได้รับเงินสมทบของเขาคืนแทนที่ต้องรอจนอายุ 55 ปี
นายปรารถนากล่าวว่า การเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมที่มาจากผู้ประกันตนเป็นระบบที่ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องพัฒนา แต่ได้ยินว่าจากมีการปรับเปลี่ยนกลับไปใช้ระบบเดิมคือสรรหาซึ่งไม่เห็นด้วย เพราะโดยหลักการแล้วเงินกองทุนประกันสังคม ประกันตนถือหุ้นใหญ่ก็ควรให้ผู้ประกันตนเป็นคนกำหนด อาจเปลี่ยนรูปแบบเป็นการเลือกตั้งในระบบออนไลน์ก็ได้ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของวันแมนวันโหวต ที่สำคัญคือต้องตรวจสอบได้
“การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาประชาสัมพันธ์น้อยมาก และไม่ทั่วถึงทำให้ผู้ประกันตนโดยเฉพาะภาครัฐแทบไม่รู้เลยแถมยังมีการลงทะเบียนทำให้ยุ่งยาก ทั้งๆที่ทุกคนต่างมีบัตรประชาชนอยู่แล้ว ควรเปลี่ยนวิธีเลือกตั้งคือเลือกออนไลน์แต่ไปที่หน่วยซึ่งจัดให้มีทุกๆอำเภอ เพราะมีฐานทะเบียนราษฎร์อยู่แล้ว สามารถถือบัตรไปเสียบที่ระบบได้เลย เพราะถ้าเลือกออนไลน์ทางโทรศัพท์อาจมีการนำบัตรประชาชนไปใช้สิทธิแทนกันได้”นายปรารถนา กล่าว
ด้าน ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี อาจารย์ประจำวิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และว่าที่บอร์ดประกันสังคม กล่าวว่า ได้สอบไปยัง สปส.เกี่ยวกับการประกาศรับรองบอร์ดซึ่งได้รับคำตอบว่าน่าจะมีการประกาศในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคมนี้ แม้ว่าพวกตนจะยังไม่ได้เข้าไปรับหน้าที่แต่ก็ได้จับตามองเพราะบอร์ดชุดปัจจุบันยังมีอำนาจหน้าที่ตามปกติ ทำให้รู้สึกกังวลในหลายประเด็นว่าจะมีมติที่ผูกมัดไปถึงอนาคต
“ข้อกังวลหนึ่งคือเรื่องเลือกตั้งกลัวว่าจะกลับไปใช้ระบบตัวแทนแบบเดิม การเลือกตั้งครั้งนี้ ข้อด้วยคือเรื่องการประชาสัมพันธ์ที่อ่อนมาก แม้การเลือกตั้งใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ ทำให้ผู้ประกันตนมาใช้สิทธิแค่ 4-5 %ของผู้มีสิทธิ แต่ข้อดีคือเปิดโอกาสให้ผู้ประกันตนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น จากที่เคยใช้ระบบตัวแทน เราได้เห็นการเริ่มตื่นตัวถือว่าเป็นบันไดก้าวแรกที่ดี โจทย์คือเราจะออกแบบต่อยอดไปอย่างไร ที่สำคัญคือเรื่องความโปร่งใสและมีส่วนร่วม”ว่าที่บอร์ดประกันสังคม กล่าว
แหล่งข่าวจากกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ภายหลังการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2566 ปรากฏว่ามีผู้ประกันตนมาใช้สิทธิเพียง 156,870 คน ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ประกันตนทั้งหมดที่มีสิทธิกว่า 12 ล้านคน ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางโดยเฉพาะระบบการประชาสัมพันธ์ของ สปส.ที่แทบเข้าไม่ถึงตัวผู้ประกันตน หลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นความตั้งใจของผู้บริหาร สปส.เพราะต้องการใช้เป็นข้ออ้างในการปรับเปลี่ยนกลับไปใช้รูปแบบคัดสรรบอร์ดในลักษณะเดิม
แหล่งข่าวกล่าวว่า โดยล่าสุดผู้บริหารกระทรวงแรงงานและ สปส.ได้หารือกันเพื่อเตรียมแก้ไข พรบ.ประกันสังคม เพื่อปรับเปลี่ยนระบบการเลือกตั้งอีกครั้ง นอกจากนี้เมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมพิจารณากรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.)ซึ่งได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกันตนที่เป็นแรงงานข้ามชาติว่าถูกละเมิดสิทธิเนื่องจากถูกตัดสิทธิในการเลือกตั้ง โดย กสม.ได้ส่งเรื่องเสนอแนะไปยังนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีได้ส่งเรื่องให้กระทรวงแรงงานและ สปส.
“ในที่ประชุมเมื่อวานซึ่งมีเลขา สปส.เป็นประธาน เสียงส่วนใหญ่เห็นว่าไม่ควรให้ผู้ประกันตนที่เป็นแรงงานต่างด้าวได้ใช้สิทธิลงคะแนน เพราะอาจส่งผลกระทบด้านความมั่นคงได้” แหล่งข่าว กล่าว