จากกรณีมีรายงานข่าวว่า เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2567 นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ในฐานะหัวหน้าหน่วยพญาเสือ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานตรวจพบคนต่างชาติหลบหนีเข้าเมือง จำนวน 5 คน ที่บ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยพบขณะล่องแพมาตามแม่น้ำเพชรบุรี โดยระบุว่าทั้งหมดเป็นชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามข้อเท็จจริงกับ นายปลุ จีบ้ง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านโป่งลึก-บางกลอย ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี กล่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานประสานมาที่ฝ่ายปกครองของหมู่บ้าน ให้นำชาวบ้านทั้ง 5 คน ไปส่งที่ สภ.แก่งกระจาน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเดินทาง สำหรับข้อท็จจริงนั้นชาวบ้านทั้ง 5 คน คือชาวบ้านดั้งเดิมที่อาศัยอยู่บริเวณบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน และไม่ได้อพยพลงมาอยู่ที่บ้านโป่งลึก-บางกลอย ทำให้ตกสำรวจประชากร จึงยังไม่มีบัตรประชาชนเหมือนชาวบ้านที่อพยพลงมาก่อน โดยเมื่อส่งตัวไปที่ สภ.แก่งกระจาน ยังไม่ทราบว่าตำรวจจะดำเนินคดีกับชาวบ้านทั้ง 5 คนหรือไม่ โดยตนจะพยายามชี้แจงข้อเท็จจริงนี้ให้กับตำรวจต่อไป
“จริง ๆ ไม่มีคนพม่า มีแต่ชาวบ้านกะเหรี่ยง เพราะชาวบ้าน 5 คนนี้ก็คือชาวบ้านบางกลอยที่ยังอาศัยอยู่ที่ใจแผ่นดิน พอดีมีลูกหลานขึ้นไปทำพิธีกรรมไหว้บรรพบุรุษและเจ้าที่ที่บางกลอยบน แล้วจึงพาทั้ง 5 คนลงมาเยี่ยมเยียนลูกหลานญาติพี่น้องที่บ้านโป่งลึก-บางกลอย แต่มาเจอเจ้าหน้าที่ตรวจแล้วไม่มีบัตรประชาชน จึงถูกกล่าวหาว่าหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งตนเองก็รู้จักกับชาวบ้านกลุ่มนี้ว่าเป็นคนบางกลอยดั้งเดิม ” ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน กล่าว
ทั้งนี้ชาวบ้านกะเหรี่ยงทั้ง 5 คนเป็นชาวบ้านบางกลอยดั้งเดิมที่อาศัยอยู่บริเวณผืนป่าใหญ่ใจแผ่นดิน และเป็นเครือญาติกับปู่คออี้ กระทั่งช่วงยุทธการตะนาวศรี ปี 2553-2554 มีการผลักดันชาวบ้านให้ออกจากป่า จนเกิดการเผาชุมชนบางกลอย-ใจแผ่นดิน บางส่วนตัดสินใจอพยพลงมาอยู่ที่บ้านโป่งลึก-บางกลอย แต่ยังมีชาวบ้านตัดสินใจไม่อพยพลงมา โดยอาศัยหลบซ่อนอยู่ในป่า ทำให้ไม่ถูกสำรวจประชากรและไม่ได้ทำบัตรประชาชนไทย เมื่อสถานการณ์สงบก็จะกลับไปทำกินในชุมชนเดิม โดยในแต่ละปีพวกเขาจะล่องแพมาหาญาติพี่น้องที่บางกลอยล่าง และซื้อข้าวของที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบในครั้งนี้
