เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 นายเซีย จำปาทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สำนักงานประกันสังคม(สปส.)ยังไม่มีการรับรองรายชื่อผู้ที่ได้รับเลือกตั้งเป็นคณะกรรมการประกันสังคม(บอร์ดประกันสังคม) ทำให้เกิดเสียงวิพากษณ์วิจารณ์ต่างๆโดยเฉพาะในเรื่องความโปร่งใส ว่าเมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมาตนได้หารือเรื่องนี้ในที่ประชุมสภาเพราะไม่เข้าใจว่าทำไมถึงยังไม่มีการรับรอบรายชื่อ ที่สำคัญคือได้มีการเปลี่ยนแปลงคะแนนในลำดับ 7 จากเดิมที่นายปรารถนา โพธิ์ดี ประธานเครือข่ายพนักงานราชการ ได้คะแนนสูงสุด กลายเป็นคนอื่น โดยคะแนนของนายปรารถนาหายไปกว่า 1 พันคะแนน ซึ่งรองเลขาธิการ สปส.ชี้แจงว่าเป็นการแจ้งคะแนนผิดพลาด

“เพื่อความโปร่งใสผมคิดว่าควรเปิดเผยคะแนนทุกๆหน่วย เพื่อพิสูจน์ความจริงอย่างตรงไปตรงมา เรื่องนี้ สปส.จำเป็นต้องชี้แจงให้เกิดความชัดเจน เพราะไม่มีใครชี้แจงแทนท่านได้ เพราะตอนนี้เกิดคำถามขึ้นมากมาย สิ่งที่สำคัญที่คือต้องเร่งให้มีการรับรอบบอร์ดชุดใหม่ เพราะมิฉะนั้นจะมีข้อสังเกตต่างๆ นานามากมาย เพราะการเลือกตั้งผ่านมาแล้วกว่า 1 เดือน”นายเซีย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กรณี สปส.ใช้งบประมาณให้คณะกรรมการหลายชุดไปดูงานต่างประเทศ นายเซียกล่าวว่า เรื่องนี้ตนก็เคยได้รับคำถามบ่อยๆจากผู้ประกันตน เพราะไม่เข้าใจว่าเมื่อไปดูงานต่างประเทศแล้วได้กลับมาปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานหรือไม่ อย่างไร โดยเมื่อปี 2564 สปส.ได้ใช้งบที่กฏหมายอนุญาตให้ใช้ไม่เกินร้อยละ 10 ในการบริหารสำนักงานราว 5 พันล้าน ซึ่งสูงมาก ดังนั้นจำเป็นต้องมีการตรวจสอบ โดยได้เคยขอดูงบก้อนนี้ แต่ได้รับเฉพาะหัวข้อใหญ่ๆแต่ไม่มีรายละเอียด ดังนั้นเรื่องนี้คงต้องมีการตรวจสอบต่อไป เพื่อที่จะได้อธิบายกับผู้ประกันตนได้

เมื่อถามอีกว่า คิดอย่างไรที่กระทรวงแรงงานเตรียมผลักดันให้มีการแก้ไข พรบ.ประกันสังคมอีกครั้ง เพื่อปรับเปลี่ยนวิธีการเลือกตั้งบอร์ด สส.พรรคก้าวไกลกล่าวว่าไม่เห็นด้วย เพราะตัวแทนผู้ประกันตนในบอร์ด ควรมาจากการเลือกตั้ง และการเลือกตั้งที่ผ่านมาเพิ่งเป็นครั้งแรก ซึ่งมีการประชาสัมพันธ์น้อยมาก ทำให้ผู้ประกันตนมาใช้สิทธิน้อย ขณะที่การจัดตั้งหน่วยเลือกตั้งก็ไม่เอื้อประโยชน์ให้ไปใช้สิทธิ ซึ่งปัญหาและอุปสรรคต่างๆเหล่านี้ควรสรุปไว้เป็นบทเรียนเพราะใช้ในการปรับปรุงข้อบกพร่อง แต่ไม่ใช่เปลี่ยนระบบ เพราะเชื่อว่าถึงอย่างไรระบบเลือกตั้ง 1 สิทธิ 1 เสียงน่าจะดีที่สุด

ด้านนายปรารถนา โพธิ์ดี ผู้สมัครรับเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม กล่าวว่าผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการตนได้ลำดับที่ 7 แต่ปรากฏว่าเมื่อประกาศผลอย่างเป็นทางการมีคะแนนหายไป 1,330 คะแนน ทำให้ตกลงมาอยู่ลำดับ 9 ซึ่งได้ไปยื่นหนังสืออุทธรณ์ต่อ สปส.ไปแล้วเมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา โดยมี นายมนตรี ขุนทอง ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สปส.เป็นผู้รับหนังสือ

“ที่ผมไปยื่นอุทธรณ์เพื่อให้ สปส.ชี้แจงว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ทำไมคะแนนเลือกตั้งจึงหายไป แล้วใครเป็นผู้ดูแลการนับคะแนน นอกจากนี้ยังขอทราบคะแนนทั้งประเทศของผมว่ามีเท่าไร แต่ละหน่วยมีคะแนนเท่าไร เพื่อนำมาตรวจสอบกับข้อมูลคะแนนที่ผมมี” นายปรารถนา กล่าว

นายปรารถนา กล่าวอีกว่า คะแนนเลือกตั้งที่หายไปนั้น ไม่ได้มีตนเพียงคนเดียว เนื่องจากผู้สมัครที่ได้คะแนนลำดับที่ 1-7 หายทุกคน โดยผู้สมัครที่ได้คะแนนเป็นอันดับที่ 6 หายไป 1,329 คะแนน แต่คะแนนของเขาสูง 6 หมื่นกว่าคะแนนเลยไม่หลุด แต่ของตนตกลำดับ ถ้าทาง สปส.สามารถชี้แจงตามที่ยื่นอุทธรณ์ได้ก็ไม่มีปัญหาอะไร ขอแค่ให้ตรงกับข้อมูลที่ตนมี

เมื่อถามว่าคิดอย่างไรกับการประกาศคะแนนผู้ได้รับการเลือกตั้งเป็นบอร์ดประกันสังคมที่ล่าช้า นายปรารถนา กล่าวว่าช้าเกินไป

“ผมมองว่า สปส.รับทราบข้อมูลแล้ว ทำไมเขาถึงไม่เอาลงเว็บไซต์ก่อนเพื่อให้เราทราบก่อน คือการเลือกตั้งครั้งนี้ในการที่เขาจะลงข้อมูลวันที่นับคะแนนออนไลน์ เขานับคะแนนให้เห็นเป็น Live สด  แต่เราจะเห็นได้เพียง 9 คนแรก ที่เหลือตั้งแต่ 10 ลงไปถึง 200 กว่า เราจะไม่เห็นคะแนนเลย ซึ่งวันนั้นเขาก็ไม่ประกาศอย่างไม่เป็นทางการตั้งแต่แรก ทีนี้เราก็จะเอามาเปรียบเทียบว่าที่คะแนนเราหายมันหายไปอยู่ที่ไหนหรือเปล่า มันทำให้เราคิดตรงนี้” นายปรารถนา กล่าว

ด้านนางนิยดา เสนีย์มโนมัย ผู้ตรวจและโฆษก สปส.กล่าวว่า ได้มีการประกาศผลคะแนนผู้ที่ได้รับเลือกเป็นเบอร์ดไปแล้ว ช่วงนี้อยู่ในช่วง 7 วันว่าจะมีใครคัดค้านหรือไม่ และสรุปผลเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งของประกันสังคม หากเป็นไปตามขั้นตอนก็เสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานลงนามเป็นขั้นตอนสุดท้าย

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีข่าวว่าจะมีการแก้ไขกฎหมายประกันสังคมเพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการเลือกตั้งใหม่ นางนิยดากล่าวว่า ตนไม่มั่นใจในเรื่องนี้ ต้องไปถามฝ่ายกฎหมายหมายหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง เพราะช่วงนี้ต้องเดินสายทำหน้าที่ผู้ตรวจ

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.