
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 สำนักข่าว Tai TV Online รายงานว่า กองทัพพม่าออกกฎใหม่บังคับให้ชายทั่วไปที่มีอายุระหว่าง 18 – 35 ปี ต้องเป็นทหารในกองทัพตั้ดมะด่อว์ แต่หากชายใดที่มีอาชีพเป็นหมอ หรือเป็นวิศวกรหรือมีความรู้ในช่างฝีมืออาชีพใดอาชีพหนึ่ง อายุ 18 – 45 ปีจะต้องรายงานตัวเป็นทหาร ในขณะที่กฎหมายใหม่นี้ กำหนดให้ผู้หญิงต้องเป็นทหารเช่นเดียวกัน โดยบุคคลธรรมดาทั่วไปอายุระหว่าง 18 – 27 ปี แต่หากเป็นหมอ วิศวกรและช่างฝีมืออายุขยายระหว่าง 18 – 35 ปี
ในกฎหมายใหม่นี้ยังระบุด้วยอีกว่า หากอยู่ในสถานการณ์ปกติไม่มีสงคราม จะต้องรับใช้ชาติเป็นเวลา 2 ปี แต่หากมีอาชีพเป็นผู้เชี่ยวชาญที่กล่าวมาข้างต้นจะต้องเป็นทหารระยะเวลา 3 ปี นอกจากนี้ หากประเทศอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติและมีศึกสงคราม ทหารที่อยู่ในกองทัพจะต้องเป็นทหารในระยะเวลา 5 ปี โดยประชาชนที่อยู่ในเกณฑ์ต้องรับใช้ชาติแต่ฝ่าฝืนหรือหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้เป็นทหารจะต้องถูกจำคุกเป็นเวลา 3 – 5 ปี นอกจากนี้ หากพบมีบุคคลใดช่วยเหลือหลบเลี่ยงเพื่อไม่ให้เป็นทหาร บุคคลนั้นๆก็จะถูกดำเนินคดีจำคุกเป็นเวลา 1 ปี
ขณะที่บุคคลที่จะได้รับการละเว้นไม่ต้องเป็นทหารคือพระสงฆ์และแม่ชี รวมไปถึงหญิงที่แต่งงานมีครอบครัวและหย่าร้างที่ต้องรับผิดชอบดูแลครอบครัว ยังรวมถึงบุคคลที่พิการทางร่างกายและผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ
ด้านผู้ใช้โซเชียลมีเดียแสดงความคิดเห็นว่า หากมีการบังคับใช้กฎหมายนี้อย่างจริงจัง เชื่อว่าจะยิ่งทำให้ประชาชนทะลักไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีนและไทยมากขึ้น และบางส่วนมองว่า กองทัพพม่าน่าจะสูญเสียกำลังพลไปเป็นจำนวนมาก จึงมีการออกกฎหมายใหม่บังคับทุกคนเป็นทหาร
ด้านสำนักข่าวพม่า Khit Thit Media รายงานว่า หากมีการบังคับใช้อย่างจริงจัง เชื่อว่าทางกองทัพจะมีการเข้มงวดและตรวจเข้มเยาวชนในประเทศที่จะเดินทางไปยังประเทศอื่นๆ มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะขั้นตอนการขอหนังสือเดินทาง ซึ่งเยาวชนที่ต้องการเดินทางไปยังต่างประเทศจะต้องมีหนังสือรับรองว่าตนจะกลับมารับใช้กองทัพ