เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 พ.อ.ณฑี ทิมเสน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก(ผบ.ฉก.ทัพเจ้าตาก)ในฐานะประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา(TBC) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คนไทย 148 คนถูกตำรวจพม่าจับกุมหลังจากเข้าทลายบ่อนออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังโรงแรม 1G1 ในเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงข้ามกับอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่าในฐานะประธาน TBC ได้รายงานเรื่องดังกล่าวไปยังผู้บังคับบัญชาแล้ว โดยตอนนี้คนไทยทั้ง 148 คนอยู่กับทางการเมียนมาที่เมืองท่าขี้เหล็กโดยเขากำลังพิจารณาส่งไปที่เชียงตุง ทั้งนี้ได้ประสานในฐานะประธาน TBC แสดงความห่วงใยคนไทยว่ามีการลดหย่อนผ่อนโทษอย่างไรได้บ้าง ซึ่งฝ่ายทหารพม่ากำลังหารือกับผู้บังคับบัญชาว่าช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง
พ.อ.ณฑีกล่าวว่า คนไทยทั้ง 148 คน แยกเป็นชาย 75 คนหญิง 73 คน ถูกตั้งข้อหาทั้งหมด ทั้งเรื่องหลอกลวงทางคอมพิวเตอร์และการเข้าเมืองไม่ถูกกฎหมาย ตอนนี้ทางการพม่ากำลังรวบรวมหลักฐานการกระทำความผิด รวมทั้งตรวจสอบประวัติต่างๆเพื่อพิจารณาว่าใครจะมีความผิดระดับไหน อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่มีญาติพี่น้องของคนกลุ่มนี้ติดต่อเข้ามา โดยกรณีนี้แตกต่างจากการช่วยเหลือกลุ่มคนไทยที่ถูกหลอกลวงไปทำงานที่เมืองเล่าก์ก่าย เพราะกรณีเล่าก์ก่ายเป็นพื้นที่ที่เกิดการสู้รบ แต่กรณีท่าขี้เหล็กเหตุการณ์ยังปกติและมีการไปกระทำความผิดในประเทศเมียนมาจริงๆ อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่มีรายชื่อของคนไทยทั้ง 148 คนเพราะทางการเมียนมายังไม่ได้ทำบันทึกประวัติครบทั้งหมดเพราะมีผู้ที่ถูกจับไปจำนวนมากคือคนพม่ากว่า 400 คน คนไทย 148 คนและคนจีน 1 คน
“การที่เราไปทำงานต่างประเทศ ควรผ่านแรงงานจังหวัดให้ถูกต้อง แต่เพราะเขาไปแบบนี้รายได้ดี บางส่วนไปเพราะเต็มใจ บางส่วนไปเพราะถูกหลอก บางส่วนไปแล้วทำงานให้เขาไม่ได้เขาก็เลยขายต่อ เมื่อถูกจับเราก็พยายามช่วยเหลือทุกกรณี แต่ก็ต้องเข้าใจทางการเมียนมาด้วยเพราะไปทำผิดในประเทศเขา และเขาต้องดำเนินคดีให้เรียบร้อยก่อน เมื่อสิ้นสุดการดำเนินคดีค่อยส่งกลับประเทศไทย เมื่อรับกลับทางการไทยก็ต้องตรวจสอบอีกว่ามีความผิดจากฝั่งไทยด้วยหรือไม่ ข้อหาต่างๆในกฎหมายพม่ามีทั้งโทษจำคุกและโทษปรับ” ผบ.ฉก.ทัพเจ้าตาก กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าคนไทย 148 คนที่ถูกจับครั้งนี้มีที่ถูกหลอกลวงไปด้วยหรือไม่ ประธาน TBC ฝ่ายไทยกล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ แต่เอาเป็นว่าทั้ง 148 คนอยู่ในกลุ่มผู้กระทำความผิดในอาคารนั้น
เมื่อถามอีกว่า ในเมืองท่าขี้เหล็กมีการเปิดบ่อนออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์มากมาย แต่ทำไมเป้าถึงไปอยู่หลังโรงแรม 1G1 พ.อ.ณฑีกล่าวว่า อาจเป็นเรื่องการข่าวของทางเมียนมา เพราะช่วงเดือนที่ผ่านมากลุ่มคอลเซ็นเตอร์หลบเข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองท่าขี้เหล็กจำนวนมากโดยถอยร่นมาจากพื้นที่ตอนเหนือของเมียนมา ซึ่งทางการจีนดำเนินการกวาดล้าง ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ต้องถอยร่นมาเรื่อยๆ จนมาถึงเมืองท่าขี้เหล็ก ซึ่งต่อไปก็อาจจะเข้าไทยบ้าง ลาวบ้าง บางส่วนก็กลับไปกัมพูชา ดังนั้นขบวนการเหล่านี้ก็ต้องมองหาจุดหมายที่ตั้งต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมการจับกุมครั้งนี้ถึงได้แต่คนเมียนมาและคนไทย แต่คนจีนถูกจับกุมเพียง 1 คน พ.อ.ณฑีกล่าวว่า คนจีนเป็นหัวขบวนและเมื่อตั้งฐานที่มั่นไว้แล้วก็จะไปต่อ เหมือนกับการทำไร่เลื่อนลอย เมื่อถูกจับก็ไปหาที่ใหม่ โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ท่าขี้เหล็กก็เป็นในลักษณะเดียวกับที่อื่นๆ ขึ้นอยู่กับว่าต้นทุนใครมีเยอะกว่ากัน
“แก๊งเหล่านี้จะเข้ามาทำงานเหมือนการตั้งบริษัท มีการเช่าอาคาร ซื้อคอมพิวเตอร์ ทำข้อมูล ประชาสัมพันธ์ให้คนมาทำงาน มีชั้นซอฟต์แวร์ ชั้นระดับผู้บริหาร ที่อื่นๆ เช่น ชเวโก๊กโก่อาจจะมีความมั่นคงมากกว่าเพราะเขาคุยกับเจ้าหน้าที่รัฐ เขาเชื่อว่าไม่ถูกกวาดล้าง ซึ่งเมื่อก่อนเล่าก์ก่ายก็ดูมั่นคง แต่ก็ถูกกวาดล้าง ตรงไหนมั่นคงก็มีอาคารใหญ่โต แต่ตรงไหนไม่มั่นคงก็ทำเหมือนไร่เลื่อนลอย” ผบ.ฉก.ทัพเจ้าตาก กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมามีคนจีนหนีจากฝั่งท่าขี้เหล็กข้ามแม่น้ำสายมาฝั่งไทยจำนวนไม่น้อย เกี่ยวข้องกับการกวาดล้างหรือไม่ พ.อ.ณฑีกล่าวว่า เกี่ยวอยู่แล้ว สถิติการจับกุมของฝั่งไทยเพิ่มขึ้น บางคนถึงขนาดพกเงินติดตัวมาเป็นหลักแสน แม้ดูไม่มาก แต่เขามีการออนไลน์นับร้อยล้านได้ เพียงแต่ติดตัวเอามาใช้แค่หลักแสนบาท ซึ่งเราก็ต้องส่งคนจีนเหล่านี้กลับไปที่สถานทูตจีน
ด้านนายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ในขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อจากทางการของเมียนมา ทางอำเภอและฝ่ายความมั่นคงได้ติดตามสถานการณ์อยู่ แต่เนื่องจากคนไทยที่ถูกจับกุมเนื่องจากกระทำผิดในประเทศเมียนมา อยู่ในระหว่างการดำเนินคดีตามที่ติดตามน่ามีการตรวจสอบเรื่องการหลบหนีเข้าเมือง การจับกุมในพื้นที่บ่อนพนันออนไลน์ การตรวจสอบเรื่องยาเสพติด อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถตอบอะไรได้ และเป็นการดำเนินคดีตามปกติ ไม่ผิดปกติอะไร
“จนถึงวันนี้ยังไม่มีการร้องทุกข์จากญาติของผู้ถูกจับกุม ตอนนี้จึงรอให้ทางการเมียนมาติดต่อมา ต่างจากกับกรณีที่มีการล่อลวงไปที่มาร้องทุกข์ หากระบุตัวตนก็สามารถติดตามประสานกับทางเมียนมาได้” นายอำเภอแม่สาย กล่าว
นายอำเภอแม่สายกล่าวว่า ภายหลังการกวาดล้างในฝั่งท่าขี้เหล็ก จากการได้ติดตามข้อมูลสถิติจาก ตม.แม่สาย ทราบว่า คนผ่านแดนมีจำนวนลดลงจากวันละประมาณ 3,000 คน ลดลงกว่าครึ่งอยู่ประมาณ 1,500 กว่าคน อย่างไรก็ตามด้านสินค้าผ่านแดนทางศุลกากรยืนยันว่าสินค้าเข้าออกด่านยังสามารถดำเนินการได้ตามปกติ แต่จำนวนอาจลดลงเนื่องจากเมื่อมีการกวาดล้างทำให้ความต้องการสินค้าลดลงบ้างในช่วงนี้ ขณะที่สำนักข่าวท้องถิ่น Tachileik News Agency รายงานว่าช่วงเวลาประมาณ 23.00 น.วันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เมียนมาได้จับกุมนักธุรกิจชาวจีนที่เปิดกิจการบ่อนการพนันออนไลน์ในท่าขี้เหล็ก และไม่ได้ถูกจับกุมในการกวาดล้างใหญ่เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ โดยชาวจีนทั้ง 200 คน ถูกตำรวจและทหารกองทัพภาคสามเหลี่ยมของเมียนมาจับได้ในเขต Yan Aung ใกล้กับสถานที่ทางศาสนาแห่งหนึ่งใน จ.ท่าขี้เหล็ก และในวันต่อมาเจ้าหน้าที่ยังมีการตรวจสอบเอกสารประจำตัว เอกสารเกี่ยวกับธุรกิจ คอมพิวเตอร์ รถยนต์และรถจักรยานยนต์ไปตรวจสอบด้วยหลายรายการ
ทั้งนี้มาตรการปราบปรามบ่อนการพนันออนไลน์และขบวนการหลอกลวงหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใน จ.ท่าขี้เหล็ก มีขึ้นตั้งแต่เช้ามืดวันที่ 23 กุมภาพันธ์โดยทหารกองทัพภาคสามเหลี่ยมซึ่งมีกองบัญชาการอยู่ที่ จ.เชียงตุง ศูนย์กลางรัฐฉานตะวันออก ได้ร่วมกับตำรวจบุกเข้าปราบปรามสถานที่ต่างๆ อย่างน้อย 3 แห่ง ตั้งอยู่ด้านหลังโรงแรม 1G1 ตะเข็บชายแดนใน จ.ท่าขี้เหล็ก ติดกับลำน้ำสาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักข่าวได้พยายามติดต่อสอบถามไปยังฝ่ายที่เกี่ยวข้องของกระทรวงการต่างประเทศไทย รวมถึงสถานเอกอัคราชทูตไทยประจำกรุงย่างกุ้ง แต่ได้รับคำตอบในลักษณะเดียวกันคือยังไม่มีข้อมูลและไม่สามารถให้รายละเอียดได้