Search

ส่งจีนร่วมพันจากเมืองเมียวดีกลับประเทศ เผยปฎิบัติการร่วมไทย-จีน-BGF ช่วยเหยื่อค้ามนุษย์แก๊งคอลเซ็นเตอร์-จับจีนเทา ขณะที่กลุ่ม Cyber Scam Monitor ทวิตผลงานใหญ่ไล่ล่าในลาว

เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 แหล่งข่าวความมั่นคงรายงานว่า ตำรวจไทยและตำรวจจีนจะมีปฏิบัติการส่งคนจีนจำนวน 999 คน จากฝั่งเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ซึ่งในจำนวนนั้นมีทั้งเหยื่อและกลุ่มจีนเทา หลบหนีการจับกุมจากเมืองเล่าก์ก่าย เขตปกครองโกก้าง ภาคเหนือรัฐฉาน เมียนมา ภายหลังจากที่พื้นที่ดังกล่าวถูกกวาดล้างโดยกองกำลังชาติพันธุ์ 3 พันธมิตรภาคเหนือ ซึ่งคนจีนเหล่านี้ถูกจับกุมโดยกองกำลัง BGF ที่ควบคุมพื้นที่ต่างๆที่เป็นแหล่งอาชญากรรมฝั่งเมียวดี   

แหล่งข่าวกล่าวว่า ปฎิบัติการครั้งนี้ทางการจีนได้ประสานมายังรัฐบาลไทย โดยก่อนหน้านี้ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนมาตั้งศูนย์บัญชาการอยู่ในอำเภอแม่สอด อย่างไรก็ตามทางการจีนได้ขอให้ปกปิดปฎิบัติการครั้งนี้ไว้เป็นความลับเนื่องจากหวั่นเกรงในเรื่องของความปลอดภัยของกลุ่มคนจีนที่ถูกจับกุม เนื่องจากเป็นการปฎิบัติการในพื้นที่ของกองกำลังกลุ่มชาติพันธ์ซึ่งมีอยู่หลายกลุ่ม

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า กลุ่มคนจีนที่จะเดินทางมาฝั่งไทยเพื่อเดินทางไปประเทศจีน เป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ที่ถูกหลอกลวงไปทำงานในแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ จำนวนกว่า 900 คน ซึ่งถือเป็นปฏิบัติการมนุษยธรรม เหมือนกรณีที่จีนช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์คนไทยจากเมืองเล่าก์ก่าย ซึ่งออกเดินทางไปขึ้นเครื่องบินที่เมืองคุณหมิง กลับมาประเทศไทย โดยไทยดำเนินการถูกต้องในการรับส่งตัวคนจีนจากเมืองเมียวดีผ่านทางสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 และผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองโดยมีรถบัส นำส่งที่สนามบินแม่สอด ขึ้นเครื่องบินกล้บจีน

“เหมือนการ transit เดินทางไปต่างประเทศ กรณีนี้ทางไทย ทั้งตำรวจและกระทรวงการต่างประเทศ ได้ดำเนินการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมกับจีน เหมือนช่วยคนไทยจากเมืองเล่าก์ก่าย ที่นำตัวจากฝั่งเมียนมา ออกชายแดนจีน เช่นเดียวกับชายแดนไทย-เมียนมา ที่อ.แม่สอด ส่วนในจำนวนน้้นจะมีผู้ต้องหาหรือไม่ ทางการจีนจะมีการคัดกรอง ทางไทยได้ดำเนินการทางมนุษยธรรม นำส่งกลับประเทศเท่านั้น เมื่อผ่านขั้นตอน ตม.แล้วทุกคนจะต้องอยู่ในรถแล้วส่งขึ้นเครื่องบินทันที” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าวว่า ได้ร่วมมือกับทางการจีน กวาดล้างกลุ่มจีนเทาจากกัมพูชา จนถึงเลาก์ก่าย และมาถึงเมืองเมียวดี ได้กว่า 1,700 คนแล้ว จนมาถึงที่เมืองเมียวดีมีคนไทยที่ตกเป็นเหยื่อกว่า 800 คนด้วย ที่ได้รับการช่วยเหลือด้วย   

ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บัญชีทวิตเตอร์ของกลุ่มติดตามอาชญกรรมออนไลน์ (Cyber Scam Monitor) ทวีตข้อความมีเนื้อหาสำคัญว่าปฏิบัติการร่วมของตำรวจลาวและจีน สามารถทลายแหล่งอาชญากรรมออนไลน์ 7 แห่งในลาว จับกุมผู้ต้องหา 268 คน นายทุนเบื้องหลัง 8 ราย พร้อมทั้งแกนนำอีก 54 ราย โดยผู้ต้องหา 268 รายดังกล่าวถูกส่งข้ามแดนไปยังจีน  

 ทวิตเตอร์ดังกล่าวระบุอีกว่าการดำเนินการดังกล่าวเชื่อมโยงกับคดีกว่า 1,570 คดีที่บันทึกไว้ทั่วประเทศจีน เจ้าหน้าที่ตำรวจจีนเดินทางไปยังลาว เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีผู้ต้องสงสัยถูกจับกุม 154 คนเมื่อวันที่ 21 มกราคม สามารถยึดอุปกรณ์กว่า 2,000 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 400 เครื่อง จากนั้นดำเนินการการจู่โจมในนครหลวงเวียงจันทน์ เมืองหลวงพระบาง และเมืองอื่น ๆ ในลาว โดยสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้อีก 114 คน ทั้งนี้ตั้งแต่ปี 2566 กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนได้ส่งคณะทำงานไปยังฟิลิปปินส์ กัมพูชา ลาว สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และประเทศอื่นๆ เพื่อความร่วมมือด้านกฎหมาย โดยกล่าวว่าจะยังคงกระชับความร่วมมือให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเพื่อกำจัดแหล่งฉ้อโกง จับกุมอาชญากร และลดอาชญากรรมออนไลน์   

กลุ่ม Cyber Scam Monitor อ้างอิงเว็บไซต์จีน https://mp.weixin.qq.com/ ซึ่งมีเนื้อหาสำคัญว่าขณะนี้ได้มีการส่งตัวผู้ต้องหาคดีอาญาทั้งหมด 268 รายมาให้ทางการจีนแล้ว นับเป็นผลลัพธ์สำคัญอีกประการหนึ่งที่คณะทำงานกระทรวงความมั่นคงสาธารณะได้เดินทางไปลาว เพื่อดำเนินการความร่วมมือระหว่างตำรวจและการบังคับใช้กฎหมาย และปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ข้ามพรมแดนอย่างเข้มงวดตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา เนื่องจากมีคดีฉ้อโกงออนไลน์จำนวนมาก ส่งผลให้เกิดความสูญเสียในเขตเจ้อเจียง เจียงซู ฝูเจี้ยน และอื่นๆ ในจีน โดยกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนให้ความสำคัญอย่างยิ่ง มีการลงรายการและกำกับดูแลการจัดการคดีที่เกี่ยวข้องในทันที มีการจัดตั้งหน่วยงานความมั่นคงสาธารณะในท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องเพื่อทำการวิเคราะห์และตัดสินใจในเชิงลึก โดยพบว่ามีแหล่งอาชญากรรมหลายแห่งตั้งอยู่ในลาว เป็นเครือข่ายฉ้อโกงออนไลน์ข้ามพรมแดน เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์มากกว่า 1,000 คดี   

เว็บไซต์จีนดังกล่าวระบุอีกว่าในเดือนมกราคม กระทรวงความมั่นคงสาธารณะได้ส่งบุคลากรและตำรวจในมณฑลเจียงซู เจ้อเจียง ฝูเจี้ยน หูหนาน กวางตุ้ง ฉงชิ่ง และอื่นๆ เพื่อจัดตั้งคณะทำงาน และเดินทางไปยังลาวเพื่อดำเนินความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายของตำรวจ ด้วยการสนับสนุนและการประสานงานของสถานทูตจีนในลาว ทำให้การสืบสวนคดีมีความคืบหน้าอย่างมาก เมื่อวันที่ 21 มกราคม หลังจากทราบข้อเท็จจริงและหลักฐานทางอาญาที่เกี่ยวข้องแล้ว คณะทำงานได้ปฏิบัติการร่วมกับตำรวจลาวเพื่อดำเนินการปราบปรามแบบรวมศูนย์ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยฉ้อโกงได้ 154 ราย และยึดโทรศัพท์มือถือที่เกี่ยวข้องได้สำเร็จ ทั้งนี้ผู้ต้องสงสัย 268 คนถูกส่งมอบให้กับรัฐบาลจีนผ่านทางท่าเรือชายแดนสิบสองปันนา ในมณฑลยูนนาน เป็นที่เรียบร้อย ขณะนี้คดีที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม   

เจ้าหน้าที่กล่าวว่าตั้งแต่ปี 2566 หน่วยงานความมั่นคงสาธารณะยังคงเพิ่มความพยายามในการปราบปรามอาชญากรรมการฉ้อโกงออนไลน์ข้ามพรมแดนอย่างต่อเนื่อง โดยประสบความสำเร็จอย่างเป็นประวัติการณ์ในกรณีพื้นที่ทางตอนเหนือของพม่า นอกจากนี้ทางการจีนยังได้ส่งคณะทำงานไปยังฟิลิปปินส์ กัมพูชา ลาว สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และประเทศอื่น ๆ เพื่อดำเนินความร่วมมือกับตำรวจสากลอย่างต่อเนื่อง มีการ ขยายผลการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง และจับผู้ต้องสงสัยได้จำนวนมากได้สำเร็จ ในขั้นตอนถัดไป หน่วยงานด้านความมั่นคงสาธารณะจะยังคงกระชับความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมายของตำรวจกับประเทศและภูมิภาคที่เกี่ยวข้อง ขจัดการฉ้อโกงอย่างเด็ดขาด จับกุมผู้ฉ้อโกง ลดอุบัติการณ์ของอาชญากรรมออนไลน์ และปกป้องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ

————-

On Key

Related Posts

ผวจ.เชียงรายยังไม่รู้เรื่องน้ำกกขุ่นข้น-เตรียมสั่งการทสจ.ตรวจคุณภาพน้ำ คนขับเรือเผยน้ำขุ่นต่อเนื่องตั้งแต่อุทกภัยใหญ่ 6 เดือนก่อน ผู้เชี่ยวชาญชี้ดินโคลนจากเหมืองทองเสี่ยงสารปรอทปนเปื้อน ระบุการตรวจสอบต้องทำให้ถูกวิธี เก็บตัวอย่างตะกอนดิน-ปลานักล่า

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่Read More →

กรมควบคุมมลพิษลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำกก-ตรวจสารไซยาไนด์เหมืองทอง คาดรู้ผลภายใน 1 เดือน นักวิชาการเผยทหารว้าจับมือจีนแผ่อิทธิพลถึงชายแดนไทยใช้กลยุทธ์คุมต้นน้ำ-สร้างเหมืองกระทบไทย

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 นายชัยวัฒน์ ปันสิน ผู้อRead More →

ผู้ตรวจการแผ่นดินหวั่นโครงการสร้างเขื่อนใหญ่กั้นโขงส่งผลกระทบเขตแดนไทย แนะสร้างกลไกหารือร่วมกับภาคประชาชน กรมสนธิสัญญาอ้างยังตรวจสอบไม่แล้วเสร็จ ภาคประชาชนจวก สนทช.งุบงิบข้อมูลจัดประชุมกรณีเขื่อนสานะคามแล้ว 4 ครั้ง

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมRead More →