
เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว SHAN รายงานว่ากองทัพปะหล่อง (Ta’ang National Liberation Army-TNLA) ได้บังคับให้ชาวบ้านใน 3 หมู่บ้าน คือหมู่บ้านนากิ่ว ป๋างลางและเมืองเต๋ม ในเขตเมืองสี่ป้อ ประเทศเมียนมาจัดเตรียมหุงหาอาหารให้กับทหารปะหล่อง TNLA จำนวน 10 กว่านายในทุกๆวัน เป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว โดยชาวบ้านร้องเรียนว่า พวกตนต้องใช้เงินส่วนตัวซื้ออาหารและต้องหมุนเวียนกันทำอาหารส่งให้กับทหารปะหล่อง นอกจากนี้ยังต้องนำอาหารไปส่งให้กับทหารปะหล่องในป่า ต้องออกค่าน้ำมันรถเอง เรื่องนี้กำลังส่งผลกระทบทำให้ไม่สามารถทำงานและกระทบค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ขณะที่ทางกองทัพรัฐฉานเหนือ SSPP/SSA ซึ่งเป็นอีกกลุ่มที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ อ้างว่า ได้แจ้งไปยังกองทัพปะหล่อง TNLA แล้ว แต่ไม่เป็นผล
ขณะที่สำนักข่าว Irrawaddy รายงานเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 ว่า กองทัพพม่าได้ทิ้งระเบิดโจมตีหมู่บ้านนาร์ไคท ในเมืองสี่แส่ง จนเป็นเหตุให้หญิงวัย 63 ปี เสียชีวิต นอกจากนี้ยังทำให้บ้านเรือนจำนวน 4 หลัง และอาคารโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านได้รับความเสียหาย ทั้งนี้กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติปะโอ PNLA ออกมาเปิดเผยว่า กองทัพพม่าตั้งใจที่จะโจมตีชุมชน ถึงแม้ไม่มีเหตุสงครามและเหตุสู้รบกันก็ตาม
ด้านมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ (Shan Human Rights Foundation – SHRF) ออกมารายงานเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 67 ที่ผ่านมาโดยมีเนื้อหาสำคัญระบุว่า นับตั้งวันที่ 1 มกราคม 67 – 2 กุมภาพันธ์ 67 กองทัพพม่าได้ใช้ปืนใหญ่ยิงใส่ชุมชน รวมถึงเผาบ้านเรือนชาวบ้านในเมืองมีด และสังหารชาวบ้านเสียชีวิต 27 ราย บาดเจ็บอีก 12 ราย เหตุการณ์ละเมิดสิทธิมนุษยชนเหล่านี้ ทำให้ประชาชนในเมืองมีดกว่า 6,000 คน ต้องอพยพถิ่นฐานออกจากพื้นที่
SHRF ยังรายงานว่า ชาย 2 ราย ถูกตัดคอสังหารอย่างเหี้ยมโหด ชาวบ้านบางรายถูกสังหารระหว่างที่อยู่ในบ้านหรือในป่า และถูกนำร่างไปเผา โดยหญิงในพื้นที่รายหนึ่งถูกทหารพม่ารุมโทรมก่อนสังหารซึ่งกองทัพพม่าที่ก่อเหตุละเมิดสิทธิมนุษยชนเหล่านี้เป็นกองทัพพม่าจากกองพันที่ 99 ซึ่งถูกสั่งการให้มาเสริมกำลังในพื้นที่ หลังเกิดเหตุสงครามกับกลุ่ม PDF กองทัพเอกราชคะฉิ่น KIA กองกำลังปะหล่อง TNLA และกลุ่มนักศึกษาพม่า ABSDF ซึ่งทั้งหมดร่วมกันรบกับกองทัพพม่าและยึดเมืองมีด
มีรายงานว่า ชาวบ้านที่อพยพออกจากเมืองมีดราว 4,000 คน ไปอาศัยอยู่ตามเขตชนบท ตามไร่นาและในป่า ขณะที่อีก 2,000 คนหนีไปยังเมืองมัณฑะเลย์ เมืองป๋างอู (ปวิ่นอูหลิ่น) และเมืองจ๊อกเมเป็นต้น ทั้งนี้ เมืองมีดเป็นเมืองแห่งเหมืองแร่ และเป็นที่ตั้งยุทธศาสตร์สำคัญเชื่อมไปยังภาคเหนือของรัฐฉานและเมืองมัณฑะเลย์
ทาง SHRF ระบุว่า ทางกองทัพพม่าไม่มีทีท่าที่จะยอมเสียเมืองนี้ และยังคงตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่ เช่นเดียวกับกองทัพพม่ากองพันที่ 99 ยังคงเคลื่อนไหว ทำให้ชาวบ้านยังไม่กล้ากลับบ้าน และทางภาคเหนือของเมืองมีด ยังเป็นพื้นที่ที่เตรียมจะมีการก่อสร้างโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำแม่น้ำมาว 3 ซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยว่า มีบริษัทหรือประเทศไหนร่วมลงทุน แต่บริษัท Électricité de France” หรือ EDF ของฝรั่งเศสได้ถอนตัวจากโครงการนี้ เมื่อปี 2565 หลังกองทัพพม่ายึดอำนาจ