Search

“กัณวีร์”แนะนายกฯตั้งหน่วยเฉพาะกิจปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ประเทศเพื่อนบ้าน จี้บัวแก้วสร้างกลไกช่วยเหลือคนไทย เชื่อนำเงินมาฟอกขาวในไทย

เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.พรรคเป็นธรรม ได้ขอหารือต่อที่ประชุมถึงกรณีที่ทางการพม่ากวาดล้างจับกุมบ่อนออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมืองท่าขี้เหล็กฝั่งตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยมีคนไทย 148 คนถูกจับกุม ว่าประเทศไทยอาจถูกข้อครหาว่าจะเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์และอาชญากรรมออนไลน์ จึงเสนอนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เร่งรัดทำ 3 อย่างคือ 1.นายกรัฐมนตรีต้องจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจติดตามสถานการณ์ในประเทศเพื่อนบ้านที่มีแหล่งคอลเซ็นเตอร์ทั้งในเมียนมา ลาว และกัมพูชา  2.กระทรวงการต่างประเทศต้องมีกลไกในการดูแลคนไทยในต่างแดนที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้

3.สำนักงานตำรวจแห่งชาติและ สำนักงานปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)ต้องปราบปรามธุรกิจจีนสีดำ-จีนเทาอย่างจริงจัง

“ยืนยันว่าผมไม่เห็นด้วยกับคนไทยที่ไปทำงานผิดกฎหมายในต่างประเทศ แต่ปัญหานี้กระทบต่อคนไทยด้วย รัฐบาลต้องแก้ไขครับ”ส.ส.พรรคเป็นธรรม กล่าว

นายกัณวีร์ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า หน่วยงานในพื้นที่รับรู้ดีว่ามีสถานการณ์เกิดขึ้นอย่างไร ดังนั้นรัฐบาลจึงควรตั้งหน่วยเฉพาะกิจที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานขึ้นมาดูแลเพราะเป็นวาระที่สำคัญของประเทศ และเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจัดตั้งกลไกในการติดตามคนไทยที่เข้าไปทำงานในเพื่อนบ้านเพราะหากเกิดปัญหาขึ้นมาก็จำเป็นต้องช่วยเหลือให้ทันท่วงที และเสนอให้ ปปง.ติดตามเรื่องการฟอกเงินจากธุรกิจสีดำและสีเทาเหล่านี้ที่ใช้ประเทศไทยเป็นฐาน

ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้แหล่งอาชญากรรมขนาดใหญ่มาตั้งอยู่ตามชายแดนประเทศไทย มองว่ารัฐบาลปราบปรามจริงจังหรือยัง นายกัณวีร์กล่าวว่า ยังมองไม่เห็นถึงความเอาจริงจากรัฐบาล ทำให้รู้สึกกังวลว่าประเทศไทยจะถูกครหาในเวทีระหว่างประเทศว่ามีส่วนร่วมหรือไม่ กับอาชญากรรมข้ามชาติ  เพราะเมื่อเกิดปัญหารัฐบาลก็ดำเนินการแบบงุบงิบโดยไม่ยอมเปิดเผยข้อเท็จจริงอย่างโปร่งใส

“ตอนนี้รัฐบาลกำลังให้ทางการจีนเข้ามาขนคนจีนจากฝั่งเมียวดีกลับไป เป็นการทำงานแบบวิน-วิน เพราะก่อนหน้านี้ทางจีนได้ช่วยเหลือคนไทยในเมืองเล่าก์ก่าย เราต้องทำให้เป็นความร่วมมือจากหลายๆฝ่าย แต่ตอนนี้รัฐบาลยังไม่ทำให้เป็นวาระแห่งชาติ เพราะถ้าไม่เป็นวาระแห่งชาติ คนไทยอีกนับหมื่นคนที่อยู่ในวงจรธุรกิจสีดำสีเทาในประเทศเพื่อนบ้านต่างเมื่อประสบปัญหาจะทำอย่างไร”ส.ส.พรรคเป็นธรรมกล่าว

เมื่อถามอีกว่า มีเสียงครหามาโดยตลอดว่ารัฐบาลไม่เอาจริงเอาจังกับการปราบปรามธุรกิจจีนเทาในเพื่อนบ้านเพราะจีนเทาเหล่านี้มีเงินมหาศาลและเชื่อมโยงถึงนักการเมืองระดับชาติ นายกัณวีร์กล่าวว่า เชื่อว่ามีการเอาเงินจากฝั่งประเทศเพื่อนมาประกอบธุรกิจในไทยเพื่อฟอกขาวโดยมีการเสียภาษีถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งหากประเทศไทยปิดตาข้างหนึ่ง และยอมให้เงินสีดำเข้ามาก็เป็นสิ่งที่น่าห่วง

“ผมเชื่อว่าทั้งตำรวจและ ปปง.ต่างรู้ช่องทางการเงินของกลุ่มชาวต่างชาติที่ทำผิดกฎหมายและเอาเงินเข้ามาดี เราเคยจับกุม 1 ใน 5 มาเฟียใหญ่ได้ แต่ยังเหลืออีก 4 คนหลัก ซึ่งมีข้อมูลว่าทั้ง 4 คนนี้หอบเงินเข้ามาทำธุรกิจที่ถูกกฎหมายในประเทศไทย ถ้าทำจริงก็สืบได้ เราควรเปิดหูทั้ง 2 หู เปิดตาทั้ง 2 ตา ไม่ใช่ปิดหูหรือปิดตาข้างหนึ่ง”นายกัณวีร์ กล่าว

On Key

Related Posts

บนบานขอสิ่งศักดิสิทธิช่วยทำให้น้ำกลับมาสดใส เกษตรกรริมแม่น้ำกกจัดพิธีเลี้ยงผีฝาย ชาวนาหวั่นสารพิษปนเปื้อนข้าวซ้ำเติมทุกข์อีกปีหลังข้าวราคาตก-คนหาปลาเผยอาการผิดปกติของสัตว์น้ำ-อ่อนแออย่างเห็นได้ชัด