เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2567 พ.อ.ณฑี ทิมเสน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก(ผบ.ฉก.ทัพเจ้าตาก)ในฐานะประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา (TBC) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คนไทย 148 คนถูกทางการพม่าจับกุมหลังจากเข้าทลายบ่อนออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังโรงแรม 1G1 ในเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงข้ามกับอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่าล่าสุดได้รับรายงานว่า มีคนไทยถูกจับในครั้งนี้ยอดเพิ่มเป็น 154 คน โดยตอนแรกตัวเลขคลาดเคลื่อน แต่เมื่อตรวจสอบรายละเอียดพบว่าเป็นผู้ชายไทย 76 คน ผู้หญิง 78 คน โดยทั้งหมดยังอยู่ที่เมืองท่าขี้เหล็กและยังไม่แน่ว่าต้องส่งตัวไปที่เมืองเชียงตุง
“ตอนนี้รอให้ทางการพม่าตรวจสอบให้เสร็จสิ้นก่อน แล้วเขาจะจัดส่งรายละเอียดมาให้เรา พร้อมทั้งรายงานผู้บังคับบัญชาของเขาในสิ่งที่ทาง TBC ได้ขออนุเคราะห์ให้ลดหย่อนผ่อนปรนจะได้มากน้อยแค่ไหน โดย 3 ข้อหาหลักคือ 1 .เข้ามาดำเนินการการฉ้อโกงหรือไม่ 2.หลบหนีเข้าเมืองหรือไม่ 3.ดำเนิการด้านอาชญากรรมหรือไม่”พ.อ.ณฑี กล่าว
ประธาน TBC ฝ่ายไทยกล่าวว่า หลังจากที่ได้มีการกวาดจับบ่อนพนันออนไลน์ครั้งใหญ่ ก็ยังมีการจับกุมอยู่เรื่อยๆ แต่เป็นคนจีน 5 คน ซึ่งไม่เกี่ยวกับไทยเพราะเป็นการสั่งการภายในเมียนมาที่ให้กวาดล้างจับกุมขบวนการคอลเซ็นเตอร์และพนันออนไลน์ให้หมดไปดังนั้นจึงมีช่วงเนินการตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงปลายเดือนมีนาคม

“เป็นคำสั่งการมาจากกรุงเนปิดอว์ที่ให้กวาดล้างบ่อนพนันออนไลน์และคอลเซ็นเตอร์ แต่คนที่ไปเที่ยวซื้อของและเข้าไปถูกต้องตามกฎหมายก็ไม่เป็นไร” พ.อ.ณฑี กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้สถานการณ์ยาเสพติดรุนแรงมากจะเกี่ยวพันกับการปราบปรามขบวนการพนันออนไลน์และคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ ประธาน TBC กล่าวว่า ไม่น่าจะเกี่ยวกัน เพราะยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่ากลุ่มคอลเซ็นเตอร์ต้องการเงินจากยาเสพติด แต่เขาได้เงินจากการหลอกลวงของพนันออนไลน์อยู่แล้ว แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าใช้เงินจากยาเสพติดเพื่อไปเป็นต้นทุนของเขา
“แต่เรามีข้อมูลว่าในสถานการณ์การต่อสู้ของกลุ่มติดอาวุธต่างๆในเมียนมา ซึ่งมีคนกลุ่มน้อยหลายกลุ่ม เขาต้องการเงินไปซื้ออาวุธ ซื้ออาหาร จึงต้องหาเงินด้วยวิธีการนี้” ผบ.ฉก.ทัพเจ้าตาก กล่าว
ชาวบ้านจากเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า รายหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่า การกวาดล้างจับกุมของตำรวจพม่าในเมืองท่าขี้เหล็กยังเป็นไปอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะกลุ่มจีนเทาที่เข้ามาประกอบธุรกิจสีดำ อย่างไรก็ตามเมื่อถูกจับกุมแล้ว ยังสามารถเจรจาต่อรองกับทางตำรวจพม่าได้โดยคนจีนเมื่อถูกจับ หากจ่าย 3 แสนบาท จะได้รับการปล่อยตัว ส่วนคนไทยราคาค่าหัวอยู่ที่ 1.5 แสนบาท ซึ่งแม้ดูเหมือนว่าจะต้องจ่ายในราคาที่สูง แต่เมื่อเทียบกับรายได้ที่หาได้จากการต้มตุ๋นหลอกลวงแล้ว ถือว่าไม่มาก
“ตอนนี้ร้านค้า ร้านอาหาร คลับ บาร์ต่างๆ ในท่าขี้เหล็กยังเปิดเป็นปกติ เพียงแต่ร้านหรูๆของพวกแขกวีไอหายไปเยอะ เพราะร้านแบบนี้ตกเป็นเป้า แต่เชื่อว่าเป็นเพียงระยะสั้นๆ คาดว่าภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ทุกอย่างจะกลับมาคึกคักเหมือนเดิม”ชาวบ้านรายนี้ กล่าว
ชาวบ้านท่าขี้เหล็กรายนี้กล่าวด้วยว่า นอกจากการพนัน ยาเสพติด และคอลเซ็นเตอร์ต่างๆแล้ว การค้าประเวณีในรูปแบบต่างๆเกิดขึ้นมากมาย เนื่องจากเหล่าคนสีเทาที่ทำงานกันมาทั้งวันมักต้องการพักผ่อนและจ่ายเงินให้ค่าบริการทีละมากๆเพราะต่างมีรายได้ดี โดยขณะนี้ผู้หญิงที่ขายบริการมีอายุต่ำลงเรื่อยๆ เนื่องจากเศรษฐกิจทั่วไปในประเทศพม่าไม่ดี ทำให้เด็กๆไม่ได้เรียนหนังสือต่อ และหันมาขายบริการซึ่งมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ
“ตอนนี้เด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปีมาขายบริการกันเยอะ หญิงขายบริการของแต่ละชาติก็ราคาไม่เท่ากัน หญิงพม่าราคาหนึ่ง หญิงไทยใหญ่ราคาหนึ่ง แต่ที่ราคาสูงกว่าคนอื่นคือหญิงไทยและหญิงญี่ปุ่น”แหล่งข่าว กล่าว
ชาวบ้านรายนี้กล่าวว่า แม้วันนี้ตำรวจพม่ายังควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อยในท่าขี้เหล็กอยู่ แต่สถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียด เนื่องจากทางทหารว้า และไทยใหญ่ต่างก็ไม่ต้องการให้ตำรวจพม่ามีอำนาจเกิดไป ดังนั้นจึงน่าเป็นห่วงว่าการเผชิญหน้ากันอาจกลายเป็นการสู้รบกันในอนาคต