สำนักข่าว Irrawaddy รายงานเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2567 ว่า กองทัพพม่าออกคำสั่งให้บริษัทผู้ประกอบการรถโดยสารในย่างกุ้งห้ามขายตั๋วรถให้กับประชาชนที่มีเชื้อชาติยะไข่ หรือชาวอาระกันที่มีภูมิลำเนาในรัฐอาระกัน ที่ต้องการเดินทางออกจากเมืองย่างกุ้ง หลังกองทัพอาระกัน (Arakan Army) ทำสงครามรุกคืบพยายามยึดเมืองหลวงในรัฐอาระกัน และกองทัพพม่าเองกำลังพ่ายสงครามในรัฐอาระกัน โดยกองทัพพม่าขู่จะลงโทษหนักผู้ประกอบการหากฝ่าฝืน
ทางด้านผู้จัดการสถานประกอบการเดินรถแห่งหนึ่งยืนยันเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง แต่ไม่ทราบเหตุผลทำไมกองทัพพม่าถึงออกคำสั่งดังกล่าว
“เราไม่ได้รับอนุญาตให้ขายตั๋วรถให้กับคนที่ถือบัตรประชาชนเชื้อชาติยะไข่ ทางการไม่ได้อธิบายว่าเพราะอะไร ดังนั้นเราจึงขายตั๋วให้พวกเขาไม่ได้ เราจะถูกลงโทษหากฝ่าฝืน” เธอกล่าว
นอกจากประชาชนเชื้อชาติยะไข่แล้ว ประชาชนจากรัฐอื่นๆ ก็กำลังเผชิญกับการถูกจำกัดการเดินทางออกจากเมืองย่างกุ้ง โดยผู้ประกอบการรถโดยสารจะไม่ขายตั๋วรถให้จนกว่าผู้โดยสารจะแสดงเอกสารบัตรประจำตัว และจดหมายอนุญาตให้เดินทางออกนอกพื้นที่จากทางการท้องถิ่น หรือจากสถานีตำรวจ ขณะที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า กฎเกณฑ์ดังกล่าวมีขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เยาวชนหลบเลี่ยงจากการเป็นทหารหรือไม่
ทั้งนี้ เมื่อเดือนที่แล้วทางการพม่าประกาศบังคับใช้กฎหมายเกณฑ์ทหาร โดยกำหนดให้ชายอายุระหว่าง 18 – 35 ปี และหญิงอายุระหว่าง 18 – 27 ปีทุกคนต้องเป็นทหาร โดยหากชายที่มีความรู้ความสามารถในด้านวิศวกรรมหรือเป็นแพทย์เป็นต้น จะขยายเวลาการเป็นทหารไปจนถึงอายุ 45 ปี และหญิง 35 ปี
ขณะที่ตัวเลขชาวยะไข่ที่มาอาศัยและทำงานในย่างกุ้ง จากข้อมูลเมื่อปี 2564 พบว่า มีอยู่ราว 60,000 คน และชาวยะไข่หลายๆ คนก็มาตั้งถิ่นฐานที่เมืองหลวงเก่าแห่งนี้อย่างถาวร
ขณะที่ชาวยะไข่รายหนึ่งให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงที่ทางการจำกัดการเดินทางออกจากเมืองย่างกุ้งของชาวยะไข่
“แล้วถ้าหากเกิดสถานการณ์ความเป็นความตายขึ้นมา พวกเราจะทำอย่างไร นี่คือประเทศที่เรากำลังอาศัยอยู่ตอนนี้” ชาวยะไข่กล่าว
นอกจากการเดินทางทางรถโดยสารแล้ว มีรายงานเช่นเดียวกันว่า มีการจำกัดการเดินทางโดยเครื่องบินระหว่างรัฐยะไข่กับเมืองย่างกุ้ง หลังการออกมาประกาศใช้กฎหมายเกณฑ์ทหารได้เพียง 2 วัน ทางการพม่าให้ประชาชนในยะไข่สามารถเดินทางมาย่างกุ้ง ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพหรือการศึกษาเท่านั้น โดยจะต้องมีหนังสืออนุญาตให้เดินทางออกนอกพื้นที่จากทางการท้องถิ่นเพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ด้วยเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ชาวยะไข่หลายรายที่เดินทางไปยังรัฐยะไขถูกทางการพม่าสอบสวน และบางส่วนยังคงถูกคุมขังจนถึงขณะนี้
อีกด้านหนึ่ง Myanmar Now รายงานว่า นับตั้งแต่มีการประกาศใช้กฎหมายเกณฑ์ทหาร เจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่นในรัฐอาระกันได้ลาออกจากตำแหน่งจำนวน 30 คนแล้ว เนื่องจากห่วงด้านความปลอดภัย นอกจากนี้กองทัพพม่าได้บังคับให้ชาวโรฮิงญาในเมืองทางเหนือของรัฐอาระกันอย่างเมืองมงดอว์และเมืองบูทีดอง ถือป้ายประท้วงกองทัพอาระกัน (AA)