วันที่ 28 มีนาคม 2567 สำนักข่าว Tai Freedom ของกองทัพรัฐฉานใต้ RCSS/SSA ได้เผยแพร่ภาพของ พล.อ.เจ้ายอดศึก ผู้นำของกองทัพรัฐฉานใต้ RCSS/SSA ลงพื้นที่ให้กำลังใจทหารที่กำลังเข้าร่วมการฝึกในเขตพื้นที่เมืองปั่น ทางใต้ของรัฐฉาน ส่วนอีกความเคลื่อนไหวหนึ่ง เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 67 ที่ผ่านมา กองทัพรัฐฉานเหนือ SSPP/SSA ได้ปะทะกันกองกำลังโกก้าง MNDAA ในเขตเมืองแสนหวี
สำนักข่าว Tai TV Online รายงานว่า กองทัพรัฐฉานเหนือ SSPP/SSA ได้ปะทะกับกองกำลังโกก้าง MNDAA ในพื้นที่ระหว่างเมืองกุ๋นโหลงและเมืองแสนหวี โดยสู้รบกันตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่เปิดเผยว่า ฝ่ายกองกำลังโกก้าง MNDAA เปิดฉากโดยใช้โดรนโจมตีทหารไทใหญ่ก่อน โดยทหารไทใหญ่ได้ตอบโต้กลับ ส่วนสาเหตุมาจากทหารไทใหญ่พยายามผ่านเข้าไปยังฐานทัพเก่าของทหารพม่า ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านนาตี แต่ถูกทหารโกก้างห้ามไม่ให้เข้าไปในเขตดังกล่าว
สำนักข่าว SHAN สื่อไทใหญ่ระบุว่า ยังไม่เป็นที่แน่ชัดเกี่ยวกับเหตุปะทะครั้งนี้ และยังไม่สามารถติดต่อกับโฆษกของทั้งสองกองทัพได้ รวมทั้งยังไม่มีรายงานความสูญเสียจากทั้งสองกองทัพ ขณะที่คนในพื้นที่เรียกร้องอย่าให้ทั้งสองกองทัพสู้รบกัน แนะใช้วิธีเจรจาแก้ปัญหา เนื่องจาก หากเกิดสงครามอีก ประชาชนจะตกเป็นเหยื่อและเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อน
นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2567 ที่ผ่านมา มีเยาวชนในเมืองกุ๋นเหง ทางใต้ของรัฐฉาน เดินทางหลบหนีเข้าประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เพื่อหลบเลี่ยงการถูกบังคับเกณฑ์ทหารจากกองทัพพม่า จนทำให้บรรยากาศทั่วไปในเมือง หรือตามงานปอยส่างลอง หรือเทศกาลบวชลูกแก้วในพื้นที่นั้นเงียบเหงากว่าทุกปี เนื่องจากไม่มีคนหนุ่มสาวช่วยงานบุญ และแทบไม่สามารถหาคนมาแบกส่างลอง (เด็กชายที่กำลังจะไปเป็นเณร) ได้
ชาวบ้านในพื้นที่ให้สัมภาษณ์ว่า คนหนุ่มสาวที่อายุระหว่าง 18 – 35 ปีนั้นเกือบทั้งหมดนั้น ได้เดินทางออกจากเมืองกุ๋นเหงแล้ว และส่วนใหญ่เดินทางไปยังประเทศไทย นอกจากในเมืองกุ๋งเหงแล้ว ยังมีเมืองกึ๋ง ทางใต้ของรัฐฉานเช่นเดียวกัน ที่ขณะนี้คนหนุ่มสาวในพื้นที่ก็เริ่มทยอยเดินทางหนีออกจากในพื้นที่ และส่วนใหญ่เดินทางไปยังประเทศไทยเช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกันในพื้นที่เมืองท่าขี้เหล็ก เมืองพยาก เชียงตุง ทางภาคตะวันออกของรัฐฉาน เริ่มมีการเก็บรวบรวมรายชื่อคนที่จะเข้าเกณฑ์เป็นทหารของกองทัพพม่าแล้ว โดยชาวบ้านเตรียมที่จะหาคนไปเป็นทหารแทน ซึ่งจะจ่ายให้กับคนที่จะไปเป็นทหารพม่าคนละ 100,000 – 150,000 บาทเป็นต้น ขณะที่บางเขตมีการจับฉลากเลือกคนไปเป็นทหาร