เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2567 นายสะท้าน ชีววิชัยพงศ์ ผู้ประสานงานสมาคมฟื้นฟูและพัฒนาลุ่มน้ำสาละวิน จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยถึงการจัดส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมภาคประชาชนไปยังพื้นที่ลุ่มน้ำสาละวิน พรมแดนไทยพม่า เขต จ.มือตรอ รัฐกะเหรี่ยง ตรงข้าม อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ว่าเมื่อวานนี้ทีมงานได้เข้าไปยังพื้นที่ โดยสถานการณ์ขณะนี้วิกฤติเป็นอย่างยิ่ง โดยประชาชนอย่างน้อย 10 หมู่บ้าน มากกว่า 1,000 คน ใกล้เมืองผาปูน (Papun) กำลังอยู่ในพื้นที่ซึ่งตกเป็นเป้าของการโจมตีของกองทัพพม่า ต้องพากันหนีออกนอกหมู่บ้านและหลบซ่อนกระจัดกระจายอยู่ตามลำห้วยต่างๆในป่าเขา เพราะทหารพม่าเล็งเป้าหมายที่อาคารบ้านเรือน

นายสะท้อนกล่าวว่า กองทัพพม่ามีทั้งยิงปืนใหญ่ และส่งเครื่องบินมาทิ้งระเบิดอย่างต่อเนื่องและบ่อยครั้ง ซึ่งชาวบ้านผู้พลัดถิ่นต้องแยกกันอยู่เป็นกลุ่มละไม่เกิน 10 ครอบครัว เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นเป้าของทหารพม่า ขณะนี้มีเด็กแรกเกิดหลายคน เพิ่งเกิดในป่า 2 รายในสัปดาห์นี้ และทำคลอดกันไปตามยถากรรม เด็กอ่อนเด็กเล็กบางส่วนอยู่ในป่าเป็นไข้หวัดและยังไม่มีการรักษาใดๆ

“แต่ละกลุ่มแยกกันอยู่ในป่าตามลำห้วยต่างๆ ที่พอหลบซ่อนได้ กลุ่มที่เราได้ไปให้ความช่วยเหลือมี 98 ครัวเรือน ประมาณ 500 คน หนีกันมาแบบไม่มีเสื้อผ้าสิ่งของใดๆ อยู่กันเป็นกลุ่ม 4-5 ครอบครัวมีหม้อแค่ใบเดียว ต้องใช้หุงข้าว สุกแล้วตักข้าวออก ใช้หม้อนั้นต้มอาหารให้เด็ก แล้วก็ใช้หม้อใบเดิมทำอาหารของผู้ใหญ่ จานช้อนก็ไม่มีลำบากน่าสงสารมาก ทุลักทุเล”นายสะท้านกล่าว

นายสะท้อนกล่าวว่า ครั้งนี้ชัดเจนว่าทหารพม่ามุ่งโจมตีพลเรือน ชาวบ้านต้องกระจายกันอยู่ในป่า จะกางผ้าใบกันแดดกันน้ำค้างก็ต้องเอาใบไม้มาปกไว้ไม่ให้เครื่องบินเห็น ทีมงานเข้าไปส่งของมีเครื่องบินมา 2 ลำ ทิ้งระเบิดดังตูม มีเครื่องบินมาตลอด

“ทหารกะเหรี่ยง KNU และผู้นำชุมชนฝั่งกะเหรี่ยงดูแลกันดีตามอัตภาพ ที่เร่งด่วนเวลานี้จำเป็นมาก คือหม้อ จานช้อน ผ้าใบกางกันแดดกันฝน สำหรับข้าวสารทาง KNU ยังพอมีให้น่าจะอยู่ได้ 1 สัปดาห์” ผู้ประสานงานสาละวินกล่าว

นายสะท้านกล่าวอีกว่าการทิ้งระเบิดแบบปูพรมของกองทัพพม่าในเวลานี้ ประชาชนเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ถึงเวลาที่ต้องแก้ปัญหาพม่าโดยดึงอาเซียนเข้ามามีบทบาท เพราะจะปล่อยให้กองทัพพม่าทิ้งระเบิดในพื้นที่ของพลเรือนแบบนี้ไม่ได้ เราเป็นเพื่อนบ้านเป็นญาติพี่น้อง พรมแดนติดกัน เห็นความทุกข์ยากจำเป็นต้องช่วย

วันเดียวกันสำนักข่าวกะเหรี่ยง (Karen Information Center-KIC) รายงานสถานการณ์เมื่อเย็นวันที่ 3 เมษายนว่า มีพลเรือน 6 ราย รวมทั้งเด็ก 1 ราย ได้รับบาดเจ็บจากการยิงอาวุธหนักของสภาบริหารแห่งรัฐพม่า (SAC) โดยในเขตกองพล 1 ของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union-KNU) เขตตะโถ่ง หรือท่าตอน SAC ได้ยิงใส่หมู่บ้านในอำเภอธาตุทอง ส่งผลให้พลเรือนได้รับบาดเจ็บ 6 ราย เป็นเด็ก 1 ราย กองพันทหารราบที่ 9 (9) ทหารพม่า ยิงอาวุธหนักประมาณ 14 นัดเข้าไปในหมู่บ้านทำให้พลเรือนได้รับบาดเจ็บ รวมถึงเด็ก และทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหายอย่างหนัก

หนึ่งในสตรีผู้ได้รับผลกระทบจากการโจมตีดังกล่าวให้สัมภาษณ์ว่า ตนไม่รู้ว่าจะย้ายครอบครัวไปที่ไหน ตอนนี้บ้านเรือนในหมู่บ้านร้างไปหมด ไม่มีคนกล้าอยู่อาศัยอีกแล้ว

สำนักข่าว KIC อ้างอิงคำแถลงของ KNU ในวันนี้ที่ระบุว่าชาวบ้านในพื้นที่ต่างกำลังหลบหนีไปยังที่ปลอดภัยเนื่องจากระเบิดและอาวุธหนักที่โจมตีหมู่บ้าน นอกจากนี้ยังมีการโจมตีจากอากาศยานที่พุ่งเป้าไปยังอาคารของพลเรือน

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.