Search

KNU เผยเชลยพม่าปลอดภัย ชี้ควบคุมพื้นที่เมียวดีได้ 90% ชี้กองทัพพม่าอาจทิ้งระเบิดปูพรมทำลายเมือง เตือนประชาชนตกอยู่ในอันตราย สื่อเผยเครื่องบินพม่าเที่ยวแรกขนทรัพย์สินกลับย่างกุ้ง-ไร้ทหารพ่ายรบ วิจารณ์แซดห่วงทรัพสินย์มากกว่าชีวิตคน

ขอบคุณรูป Khit Thit Media

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2567 นายพะโด่ซอตอนี (Padoh Saw Taw Nee) โฆษกสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union-KNU) ให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์ในเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ตรงข้ามกับ อ.แม่สอด จ.ตากขณะนี้ หลังกองกำลังผสม นำโดยกองทัพปลดปล่อยชาติกะเหรี่ยง (Karen National Liberation Army-KNLA)  ยึดฐานทหารพม่าได้ 3 ฐาน และในฐานบัญชาการมีการมอบตัวซึ่งกองกำลังผสมสามารถควบคุมเมืองเมียวดีได้ 90% แต่ยังมีที่ค้างอยู่ เช่น ฐาน 275 ฐาน 44 รวมทั้งฐานในเมือง ที่เรายังพยายามเข้ายึด 

 

ผู้สื่อข่าวถามคิดอย่างไรกรณีที่กองทัพพม่าพยายามใช้สนามบินแม่สอดในไทยเป็นทางผ่านในการส่งทหารกลับ นายพะโด่ซอตอนีกล่าวว่า นโยบายของเราชัดเจน โดยเราให้ KNLA จัดการควบคุมเชลยศึก และปฏิบัติตามกฎระเบียบมนุษยธรรมสากล POW เป็นมาตรฐานปฏิบัติของเรา ส่วนที่มีการให้ข่าวว่าเราปิดกั้นไม่ให้ทหารพม่าเดินทางกลับ ขอบอกว่าไม่ใช่ความจริง ผู้ที่ต้องการกลับเราก็ให้กลับไปหาครอบครัวได้ เป็นความรับผิดชอบของเรา เรารับผิดชอบความปลอดภัยของทุกคน เรามีมาตรฐานปฏิบัติ เราไม่มีการบังคับใดๆ และอยากให้สังคมนานาชาติทราบ 

“ใครบ้างที่ต้องการกลับก็สามารถกลับได้ เราไม่ได้ปิดกั้น แต่หากไม่ต้องการกลับเราก็ไม่บังคับ เพราะประสบการณ์จากทางชายแดนรัฐฉาน เมื่อทหารพม่าส่งกลับไปแล้วโดนอะไรก็รู้กันอยู่ เราต้องรับผิดชอบชีวิตของเชลยศึก เพราะทราบมาว่าทหารพม่าจำนวนมากถูกบังคับให้มาประจำการที่เมียวดี ต้องมารบโดยไม่ได้สมัครใจ 

เมื่อถามว่าที่อยู่ของเชลยศึกในเวลานี้ โฆษก KNUกล่าวว่า เป็นวิธีการทางทหารที่เราไม่สามารถเปิดเผยได้ บอกได้เพียงว่าขณะนี้เชลยศึกอยู่ในพื้นที่ที่เราควบคุม และ KNLA กำลังอยู่ระหว่างการลงทะเบียน ยืนยันตัวตน เราปฏิบัติตามมาตรฐานสากลอย่างระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย ขณะนี้กำลังดำเนินการ

เมื่อถามว่าการส่งกลับจะเป็นอันตรายสำหรับเชลยศึกหรือไม่ เขาตอบว่า เราปฏิบัติตามกฎสากล เราระมัดระวังในเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง เราปฏิบัติกับทุกคนในฐานะมนุษย์

เมื่อถามถึงอนาคตของเมืองเมียวดี นายพะโด่ซอตอนนีกล่าวว่า แน่นอนว่าก็คงเหมือนที่อื่นๆ คือ SAC จะมาทิ้งระเบิดปูพรมทำลายทั้งหมด ทำลายทั้งเมือง ไม่สนใจประชาชน ทุกคนกังวลว่าจะเป็นแบบนั้น หากส่งเชลยออกมาเรียบร้อยแล้วเขาก็จะมาถล่มเมือง เราจึงหลีกเลี่ยงไม่อยู่ในเมือง 

“เราขอแจ้งเตือนทุกคนว่าให้ระมัดระวัง เพราะ SAC ไม่สนใจว่าจะคนจะเป็นอย่างไร ให้คอยฟังคำเตือนติดตามข่าวสาร เพราะพม่าต้องการทำลายเมือง ไม่ต้องการให้เราสามารถบริหารบ้านเมืองได้” โฆษก KNU กล่าว 

ผู้สื่อข่าวถามว่า คาดว่าประชาชนนับแสนที่อยู่ใน KK Park หรือ ชเวก๊กโก่ จะได้รับผลกระทบด้วยหรือไม่ โฆษก KNU กล่าวว่า สำหรับพื้นที่นอกเมืองเมียวดี ไม่ทราบว่าควรจะเป็นอย่างไร เพราะขณะนี้สถานการณ์เกิดในเมือง

ขอบคุณรูป Khit Thit Media

เมื่อถามว่า KNU ต้องการบอกอะไรแก่สังคมนานาชาติหรือไม่ นายพะโด่ซอตอนี กล่าวว่า เรามีนโยบายยืนเคียงข้างประชาชน ปฏิเสธการรัฐประหาร และต้องการเอากองทัพพม่า SAC ออกไป อยากให้ทราบว่าสิ่งที่ SAC ทำนั้นยอมรับไม่ได้ จะวางตัวเป็นกลางได้อย่างไร ทางการเมืองเขาไม่สนใจความถูกต้องใดๆ หรือกฎหมายใดๆ มีแต่ก่ออาชญกรรม แต่เราจะทำงานกับกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ จะสู้เคียงข้างประชาชน จนกว่าจะได้ประเทศใหม่ที่มีประชาธิปไตยและเป็นสหพันธรัฐ โปรดทำงานกับเรา และกดดันเผด็จการทหารพม่า

ในวันเดียวกันสำนักข่าวพม่า Khit Thit Media รายงานข่าวจากย่างกุ้ง เป็นภาษาพม่าโดยพาดหัวข่าวว่า เงินจากธนาคารเมียนมาในเมืองเมียวดี ถูกใส่กล่องและนำไปโดยเครื่องบินของสภาทหาร SAC จากสนามบินแม่สอดไปยังย่างกุ้ง ส่วนข้าราชการจากเมียวดีจะเดินทางด้วยเครื่องบินหรือไม่ มีความไม่แน่นอน 

สำนักข่าว Khit Thit Media รายงานข่าวอ้างอิงแหล่งข่าวทางทหารในกรุงเนปีดอว์ เนื้อหาสำคัญระบุว่า เครื่องบิน ATR 72-600 สายการบินแห่งชาติเมียนมาของสภาบริหารแห่งรัฐพม่า (SAC) ส่งไปรับกล่องบรรจุธนบัตรจากธนาคารจากเมียวดีผ่านสนามบินแม่สอด โดยเครื่องบินดังกล่าวเดินทางถึงสนามบินนานาชาติแม่สอด เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย วันที่ 7 เมษายน ธนาคารเอกชนบางแห่งนำเงินใส่กล่องแล้วนำไปที่สนาม อย่างไรก็ตามไม่ชัดเจนว่ามีเจ้าหน้าที่สภาทหารพม่าเดินทางกับเครื่องบินลำดังกล่าวหรือไม่ 

แหล่งข่าวทหารจากเนปีดอว์กล่าวว่า เป็นที่รู้กันว่าเครื่องบินและกล่องเต็มไปด้วยเงิน ธนาคารในเมียวดีบรรจุเงินลงในกล่องและข้ามสะพานหมายเลข 2 ยังไม่ชัดเจนว่ามีข้าราชการเมียวดีไปด้วยหรือไม่ แต่ก็ยืนยันได้ว่าเงินทั้งหมดถูกย้ายไปแล้ว เรียกได้ว่าสถานการณ์ซับซ้อนมากไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินเหล่านี้จะนำเชลยศึกที่ถูกจับกุมกลับหรือย้ายข้าราชการไปยังเมืองที่ติดกัน มันไม่ชัดเจน ไม่มีเลย” 

สื่อพม่ารายงานอีกว่าตั้งแต่วันที่ 7 เมษายนถึง 10 เมษายน สภาทหารพม่า SAC จะให้มีเที่ยวบินไปยังแม่สอดจากย่างกุ้ง เพื่อรับกรณีพิเศษฉุกเฉิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการจากเมืองเมียวดี

โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวพม่าอย่างกว้างขวาง โดยหลังจากโพสข่าวเพียง 1 ชั่วโมงก็มีการแชร์ไปกว่า 1,200 ครั้ง และมีการแสดงความคิดเห็นอย่างดุเดือด อาทิ กองทัพพม่าเห็นเงินสำคัญกว่าชีวิตมนุษย์, ห่วงเมืองเมียวดี ขอให้ประชาชนปลอดภัย, อย่างไรก็ตามรัฐบาลนี้คือเผด็จการทหาร, เขาไม่สนใจที่จะช่วยชีวิตผู้คนที่อยู่เบื้องล่าง คนที่ยังไม่เข้าใจก็สละชีวิตให้ผู้มีอำนาจ, ประเทศพม่าของเราสงบสุขเมื่อไหร่?

หลังจากได้รับเอกราชจนถึงทุกวันนี้ พื้นที่ชายแดนและดินแดนที่กลุ่มชาติพันธุ์อาศัยอยู่ก็ถูกเหยียบย่ำด้วยความหวาดกลัวและทำลายชีวิตของประชาชน