เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2567 ศูนย์สั่งการชายแดนไทย – เมียนมา จังหวัดตาก ได้รายงาน สถานการณ์ชายแดนพื้นที่ จังหวัดตาก ประจำวันที่ 20 เมษายน 2567 เวลา 18.00 น. ระบุว่า เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง วันที่ 20 เมษายน 2567 เวลา 00.25 น. เกิดการปะทะ ในพื้นที่ตอนในฝั่งเมียนมา ห่างจากแนวชายแดนไทย เป็นระยะทาง ประมาณ 2-3 กิโลเมตร ระหว่างทหารเมียนมา กับ กองกำลังกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา มีการปะทะกันอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) และเครื่องบินทหารเมียนมาไม่ทราบชนิด ทิ้งระเบิดพื้นที่สะพานมิตรภาพ ไทย – เมียนมา แห่งที่ 2 บริเวณ บ้านเยปู่ อำเภอเมียวดี จังหวัดเมียวดี ด้านตรงข้าม บ้านวังตะเคียนใต้ ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เวลา 04.25-07.30 น. มีการปะทะในพื้นที่ตอนในฝั่งเมียนมา ห่างจากแนวชายแดนไทย เป็นระยะทางประมาณ 2-3 กิโลเมตร มีการใช้ ปืนเล็กกล, ปืนกล, เครื่องยิงลูกระเบิดชนิด 40 มิลลิเมตร, อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) และ เครื่องบินทหารเมียนมาไม่ทราบชนิด ปะทะต่อเนื่อง เกินกว่า 3 ชั่วโมง พื้นที่สะพานมิตรภาพ ไทย – เมียนมาแห่งที่ 2
ศูนย์สั่งการระบุด้วยว่าการปะทะดังกล่าวส่งผลกระทบมีกระสุนปืนเล็กตกบริเวณบ้านประชาชน ใกล้แนวชายแดนฝั่งประเทศไทย ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพ ไทย – เมียนมา แห่งที่ 1 เปิดการข้ามแดนปกติ มีประชาชนเดินทางผ่าน เข้า – ออก ตามปกติ และด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพ ไทย – เมียนมา แห่งที่ 2 ปิดทำการชั่วคราว การปฏิบัติที่สำคัญของศูนย์สั่งการชายแดนไทย – เมียนมา จังหวัดตาก ปัจจุบัน ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ที่มีความกังวลจากสถานการณ์ในพื้นที่ ได้เดินทาง เข้ามายังฝั่งไทย ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว จังหวัดตาก จำนวน 5 พื้นที่ จำนวน 3,027 คน รายละเอียดดังนี้ 1.พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวท่าทรายรุจิรา จำนวน 1,726 คน 2.พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว สำนักสงฆ์วังข่า จำนวน 172 คน 3.พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านวังตะเคียนใต้ จำนวน 74 คน 4.พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวท่าข้ามสินค้า 35 จำนวน 197 คน 5.พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวท่าข้ามสินค้า 33 จำนวน 791 คน 5.พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวบ้านหนองหลวง อ.อุ้มผาง จ.ตาก จำนวน 77 คน กองกำลังนเรศวร ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มมาตรการเฝ้าตรวจตามแนวชายแดน และเตรียมความพร้อมในการรองรับสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบ ต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชนไทย หน่วยเฉพาะกิจราชมนูวางกำลังติดตามสถานการณ์ตามแนวชายแดน และลาดตระเวนเฝ้าตรวจ พร้อมทั้งนำอาวุธยิงสนับสนุนเข้าที่ตั้งเพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย ในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไทย หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 สนธิกำลังให้กับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ติดตามสถานการณ์ ตามแนวชายแดน และลาดตระเวนเฝ้าตรวจ ตามแนวชายแดน หน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 34 โดยกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 346 สนธิกำลัง กับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด และสถานีตำรวจภูธรอำเภอแม่สอด ให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมให้กับ ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา
ศูนย์สั่งการระบุอีกว่ากองทัพอากาศ เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมขึ้นบินลาดตระเวนรบ หากมีอากาศยานรุกล้ำน่านฟ้าไทย กิ่งกาชาดอำเภอแม่สอด เปิดรับบริจาคสิ่งของที่จำเป็น ให้กับ ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา เพื่อให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม ณ สำนักงานทำบัตรผ่านแดน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก หมายเลขติดต่อ 055-53235
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าสถานการณ์การสู้รบรุนแรงทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 20 คน ได้เข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแม่สอด ทั้งนี้ขณะนี้กลุ่มผู้อพยพที่กระจัดกระจายข้ามแม่น้ำเมยถูกตัวไว้ตามพื้นที่ต่างๆ โดยทางการมีแผนที่จะนำทั้งหมดมารวมกันที่ท่าทรายรุจิรา โดยมีทหารคอยคุ้มกันไม่ให้สื่อมวลชนและบุคคลภายนอกเข้าไป
