Search

NUG ไม่หวั่น SAC ส่งทหารราบยึดคืนเมียวดีเชื่อทัพพม่าเปิดศึกหลายด้านกำลังไม่เพียงพอแถมขาดคำอธิบายรบไปเพื่ออะไร ขณะที่กองกำลังผสมฝ่ายต่อต้านยังเหนียวยันแนวรบไม่ให้เข้าเมียวดีไว้ได้

เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2567 นายเนย์โพนลัตต์ (Nay Phone Latt) โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติพม่า หรือรัฐบาลเงา (National Unity Government- NUG) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การสู้รบที่เมียวดี ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งกองกำลังประชาชน People’s Defense Force (PDF) ร่วมกับกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Liberation Army-KNLA) ของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union-KNU) ยึดเมืองเมียวดีจากสภาบริหารแห่งรัฐพม่า (SAC) ว่าปฏิบัติการครั้งนี้กองกำลัง PDF ภายใต้กระทรวงกลาโหมของ NUG ได้ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กับ KNLA และกองกำลังร่วมมาโดยตลอด

โฆษก NUG กล่าวว่ากองกำลังร่วมฝ่ายต่อต้านพยายามอย่างยิ่งที่จะยึดเมียวดีให้ได้เบ็ดเสร็จ โดยเมืองเมียวดีเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางการค้าของพม่าที่ไม่อาจสูญเสียได้ SAC จึงระดมสรรพกำลังในการเอาคืน แต่กองกำลังฝ่ายต่อต้านไม่ได้รู้สึกกลัวกำลังพลทหารราบแต่อย่างใดเพราะเชื่อว่าสามารถสกัดได้ แต่ที่แก้ไม่ได้คือการที่กองทัพพม่าส่งอากาศยานมาทิ้งระเบิดซึ่งส่งผลกระทบร้ายแรงต่อประชาชน ซึ่งหากเป็นการสู้รบระหว่างทหารต่อทหารนั้น กองกำลัง KNLA และPDF สามารถปฏิบัติการได้ แต่การส่งเครื่องบินมาทิ้งระเบิดนั้นเป็นการทำร้ายและเข่นฆ่าประชาชน เราคำนึงถึงสวัสดิภาพของประชาชนเป็นหลัก

นายเนย์โพนลัตต์กล่าวว่ากองทัพพม่าส่งกำลังพลและยุทโธปกรณ์มาเพิ่มและถูกกองกำลังผสมร่วมสกัดที่เมืองกอกาเร็ก แต่ขณะนี้ในพม่ามีการสู้รบหลายพื้นที่ทั่วประเทศ SAC กำลังเผชิญศึกหลายด้านพร้อมๆ กัน ตนไม่คิดว่าขณะนี้ทหารพม่าจะมีให้ส่งมาเพิ่มได้เพียงพอ เห็นได้ชัดเจนว่า SAC เน้นโจมตีโดยอากาศยานเป็นหลักเพราะพลทหารราบไม่เพียงพอ ขณะนี้ทหารพม่าหลายต่อหลายพื้นที่ต่างก็ยอมแพ้ วางอาวุธให้แก่กองกำลังปฏิวัติ ดังนั้นกำลังพลพม่าลดลงมากอย่างเห็นได้ชัด

“กองทัพพม่าสูญเสียคำอธิบายต่อกำลังพลของตนเองแล้วว่าสู้เพื่ออะไร รบไปทำไม เพราะกองทัพควรมีหน้าที่ปกป้องแผ่นดินและปกป้องประชาชน แต่นี่กลับกลายเป็นว่ากองกำลังพม่าของ SAC ที่เข่นฆ่าประชาชนของตนเอง ในเมื่อเป็นทหารแต่ทำร้ายประชาชนก็ตอบตัวเองไม่ได้ เราเห็นชัดว่าหลายพื้นที่ที่ทหารพม่ายอมแพ้ง่ายๆ เลยเพราะสูญเสียเหตุผลในการเป็นทหารแล้ว“ โฆษกรัฐบาลเงากล่าว

นายเนย์โพนลัตต์กล่าวว่า ประเทศของเราเป็นพื้นที่สงคราม War Zone ทั้งยะไข่ คะฉิ่น มะเกว สะกาย เชื่อว่าจะมีการส่งทหารราบมาที่เมียวดี เราจึงต้องการให้มีการแทรกแซง ยุติการขายน้ำมันให้เครื่องบินรบพม่าซึ่งน่าจะทำให้มีความหวังมากขึ้น เราต้องหาทางในการกดดันเรื่องนี้ ขณะเดียวกันในเมียวดี ที่เรามองเป็นรัฐบาลสหพันธรัฐประชาธิปไตย หากสำเร็จ KNU จะปกครองท้องถิ่นในเมืองเมียวดี โดยที่ NUG จะไม่ยุ่งการบริหารจัดการ อย่างไรก็ตามในเมียวดี ไม่ได้มีแค่กองกำลัง KNLA ยังมีกองกำลัง BGF (ซึ่งเป็นกองกำลังที่เคยถูกบังคับบัญชาโดยกองทัพพม่า) เราต้องทำงานกับทุกกลุ่มเพื่อปกครองเมียวดี และโน้มน้าว BGF มาร่วมกับกองกำลังปฏิวัติ

เมื่อถามถึงจุดยืนของ NUG กับแหล่งอาชญากรรมริมแม่น้ำเมย นายเนย์โพนลัตต์กล่าวว่าธุรกิจสีเทาเหล่านี้ผิดกฎหมาย เราไม่ยอมรับ ธุรกิจแบบนี้เกิดในยุคเผด็จการทหารเมียนมา ธุรกิจพวกนี้ต้องไม่มีอีกต่อไป

สำหรับความคืบหน้ากรณีที่กองทัพพม่าส่งกองกำลังจาก 3 กองพลเพื่อบุกยึดคืนเมืองเมียวดี ซึ่งขณะนี้ทหารพม่าได้เคลื่อนพลเลยเขตเมืองกอกาเร็ก โดยล่าสุดยังมีการสู้รบกันอย่างดุเดือดซึ่งกองกำลังผสมฝ่ายต่อต้าน ยังคงป้องกันแนวไม่ให้ทหารพม่าเข้ามายังเมืองเมียวดีไว้ได้ ขณะที่กองทัพพม่าได้ส่งอากาศยานทิ้งระเบิดเพื่อเปิดทางให้ทหารพม่าบุกเข้ามาตามถนนสายเอเชีย แต่ยังไม่สามารถทำได้

ในค่ำวันเดียวกันศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก ได้ออกแถลงการณ์ประจำวันโดยระบุว่า เมื่อเวลา 01.30 น.ปรากกการปะทะในพื้นที่ตอนในฝั่งเมียนมา ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 12 กิโลเมตร ระหว่างกองกำลังกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมาและทหารเมียนมา และมีการปะทะกันอย่างต่อเนื่องพร้อมทั้งอากาศยานไม่ทราบชนิดทิ้งระเบิดบริเวณบ้านปางกาน เมืองเมียวดี ตรงข้ามบ้านริมเมย อ.แม่สอด

ศูนย์สั่งการฯ ระบุว่าตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.ปรากฏข่าวสารการปะทะในพื้นที่ตอนในฝั่งเมียนมาห่างจฟากชายแดนไทย 4-10 กิโลเมตร มีการใช้อาวุธหนักบริเวณบ้านผาลู เมืองเมียวดีตรงข้ามบ้านหมื่นฤาชัย ต.พบพระ อ.พบพระ  ไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนบริเวณชายแดน ขณะที่ด่านชายแดนฝั่งไทยแห่งที่ 1 เปิดตามปกติ ส่วนฝั่งเมียนมาปิดทำการชั่วคราวเนื่องจากระบบขัดข้อง เช่นเดียวกับด่านแห่งที่ 2 ปิดทำการชั่วคราว

ศูนย์สั่งการฯระบุว่า ขณะนี้มีผู้หนีภัยการสู้รบพักอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง จำนวน 983 คน โดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขพร้อมด้วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้ตรวจราชการฯได้ลงพื้นที่แม่สอดเพื่อติดตามสถานการณ์ตลอดจนให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์

————

On Key

Related Posts

ผู้เชี่ยวชาญเตือนฤดูฝนหน้าลุ่มน้ำกก-ลุ่มน้ำสายเสี่ยงสึนามิโคลนอีก เหตุทำเหมืองต้นน้ำ แนะเร่งทำจุดตรวจวัดชายแดน เผยยังไม่มีหน่วยราชการตรวจสอบระบบนิเวศ ชาวบ้านท่าตอนยังกังวลน้ำกกขุ่น

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2568 ดร.ธนพล พิมาน หัวหน้าฝ่Read More →

ชุมชนในป่าเครียดหนักเหตุรัฐแก้ปัญหาเหมารวม-ห้ามเผาแบบไม่แยกแยะ ไฟป่า-ไฟเกษตร หวั่นวิกฤตอาหารบนดอย สส.ปชน.ชี้รัฐผูกขาดจัดการทรัพยากรนำสังคมสู่วิกฤต

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 ที่ห้องประชุมคณะสังคมศาRead More →

เผยเปิดหน้าดินนับพันไร่ทำเหมืองทองต้นน้ำกก สส.ปชน.ยื่น กมธ.ที่ดินสอบ หวั่นคนปลายน้ำตายผ่อนส่งจี้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาผลกระทบข้ามแดน ผวจ.เชียงรายสั่งตรวจคุณภาพน้ำ 24 มี.ค.

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 นายสมดุลย์ อุตเจริญ สส.Read More →

ลาวดำเนินคดีอดีตรองผู้ว่าการไฟฟ้าลาว-ผู้รับเหมาฐานฉ้อโกงเหตุสร้างเขื่อนไม่แล้วเสร็จ-เกินเวลานาน เผยโครงการได้รับสินเชื่อจากธนาคารกรุงไทย

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 สำนักข่าวลาว Laotian TiRead More →