ภาสกร จำลองราช
สนามการสู้รบในประเทศพม่าระหว่างกลุ่มกองกำลังชาติพันธุ์ซึ่งจับมือกับฝ่ายต่อต้านสภาบริหารแห่งรัฐพม่า (SAC-State Administration Council) ซึ่งในนั้นนำโดย PDF (People’s Defense Forces :กองกำลังพิทักษ์ประชาชน) กำลังดุเดือดและเข้มข้น
ศึกการแย่งพื้นที่เมืองเมียวดีในรัฐกะเหรี่ยงที่อยู่ตรงข้ามกับ อ.แม่สอด จ.ตาก ทำให้สังคมไทยได้รับรู้สถานการณ์สงครามในพม่ามากขึ้นเพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวและเชื่อมโยงกับประเทศไทย โดยปัจจัยหนึ่งที่กลายเป็นเงื่อนไขในสงครามคือ ทุนจีนเทา ที่เข้ามาดำเนินกิจการอยู่ตามริมแม่น้ำเมยฝั่งเมืองเมียวดี
แหล่งอาชญากรรมริมแม่น้ำเมย ที่มีแผ่นดินไทยเป็นระเบียงอยู่ภายใต้การดูแลของกลุ่มกองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง BGF (Karen Border Guard Force-Karen) ซึ่งมี พ.อ.ซอชิตู เป็นผู้นำแต่ได้หักหลังกองกำลังกะเหรี่ยงKNU(Karen National Union:สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงหรือเคเอ็นยู) เพื่อต้องการปกป้องแหล่งอาชญากรรมริมแม่น้ำเมยซึ่งเป็นผลประโยชน์มหาศาล จนทำให้เกมการรบเปลี่ยน
ขณะที่ภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงและดินแดนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้กลายเป็นพื้นที่ที่กลุ่มทุนจีนเทาต่างเข้ามาปักหลักจับจองและเคลื่อนย้ายถ่ายเทวนเวียนไปตามแหล่งต่างๆ จนกลายเป็น “โซนแห่งความอัปรีย์”
“โซนแห่งความอัปรีย์” เป็นการฉายภาพลักษณ์ที่สังคมโลกมองเข้ามาในพื้นที่ภูมิภาคนี้ผ่านบทสะท้อนจาก ศ.ยศ สันตสมบัติ นักวิชาการที่เชี่ยวชาญด้านจีนศึกษา ผู้เขียนหนังสือ “มังกรหลากสี” “ใต้เงามังกร” และอีกหลายๆ เล่มที่เจาะลึกแดนมังกร
“เรื่องของชายแดนที่เป็นที่ตั้งของพื้นที่ที่เรียกกันผิดๆ ว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษ มันใช้คำนี้จนเหมือน soft power ใช้แบบตามใจฉัน จนคำๆ นี้ถูกด้อยค่าไปหมด หากดูในจีน ต้องยอมรับว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษของเขาเติบโตได้เพราะ zoning technology
“การเติบโตของจีนไม่ฟลุค แต่เกิดจากวางแผนล่วงหน้าอย่างรอบคอบ และแก้ปัญหาไปเรื่อยๆ จนประสบความสำเร็จ” บทสัมภาษณ์พิเศษเริ่มต้นที่สำนักข่าวชายขอบตั้งคำถามแก่ ศ.ยศ ถึงยุทธศาสตร์ของกลุ่มทุนจีนเทาในภูมิภาคนี้
“เมื่อภูมิภาคของเราเอาเขตเศรษฐกิจพิเศษมาใช้ตามที่จีนส่งออก ราว 10 ปีที่แล้ว เริ่มต้นที่กัมพูชาคือ สีหนุวิลล์ เริ่มแรกเป็นโรงงานที่คนจีนมาขอตั้งพื้นที่ ไม่ได้เป็นคอลเซ็นเตอร์ แต่ต่อมากลายเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษของ Union Development ที่เกาะกง ซึ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาค มีพื้นที่เป็นแสนๆ ไร่ ทำ entertainment complex ตอนนั้นมีนักข่าวกัมพูชาทำข่าวเจาะและโดนฆ่าตายด้วยเพราะไปพูดว่าทำไมป่าชุ่มน้ำและพื้นที่มรดกโลกถูกยกไปเป็นของจีน ตอนนี้สร้างสนามบินแล้วที่เกาะกง เชื่อมต่อกับไหหนาน พูดง่ายๆ คือ เขตเศรษฐกิจพิเศษที่เริ่มต้นจากกัมพูชา จนมาเป็นคำยอดฮิตในยุครัฐบาลทหารของไทย แต่วิธีการไม่ใช่แบบเดียวกับที่จีนเขาทำในประเทศ
“คำถาม ทำไมจึงกลายมาเป็นโซนแห่งความอัปรีย์ ในลุ่มน้ำโขง” ศ.ยศตั้งคำถาม และอธิบายคำตอบ
“เพราะเป็นที่แหล่งซ่องสุมของพวกนอกกฎหมาย พวกหนีความผิดจากจีน หรือทุนคาสิโนที่หลบออกมาจากพม่า 20 กว่าปีก่อน มารวมที่แห่งแรกคือคิงส์โรมันส์ในลาว ต่อมาก็ไปที่ชายแดนพม่ารัฐฉานเหนือ ที่เมืองเล่าก่าย แล้วมาที่ชเวก๊กโก่ และอีก 2-3 แห่ง”
โซนแห่งความอัปรีย์ ไม่ใช่สิ่งที่ อ.ยศเพิ่งพูดถึง แต่ในหนังสือซึ่งเป็นงานวิจัยในหลายๆ เล่มของ ศ.ยศ ได้รวบรวมข้อมูลต่างๆ ของกลุ่มทุนอาณาจักรจีนเทา การเคลื่อนตัวมายังพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงวิธีการที่ใช้จังหวะและช่องว่างที่เป็นจุดอ่อนของผู้ปกครองในภูมิภาคนี้ ซึ่ง อ.ยศ ได้เขียนให้เห็นภัยมานานนับ 10 ปี
“การปกครองแบบเผด็จการ ไม่มีการตรวจสอบ ใครจะทำอะไรก็เอากำลังไปยึดเอา ใช้เงินฟาดหัว” ศ.ยศ พูดถึงเงื่อนไขที่ทำให้กลุ่มจีนเทาเข้ามาสร้างแหล่งอาชญากรรมในพื้นที่ ซึ่งประเทศไทย พม่า กัมพูชา ลาว ต่างเป็นพื้นที่เป้าหมายเพราะมีเงื่อนไขตรงตามความต้องการ
“ที่บ้านเราเช่นกัน เขตเศรษฐกิจพิเศษที่ตั้งมา คนท้องถิ่นเขายินยอมมั้ย เขตเศรษฐกิจพิเศษที่แท้จริงคือต้องยกระดับคนในพื้นที่ก่อน แต่ของเราคือให้นายทุนเข้ามา ไม่ว่าชาติไหนเข้ามาตักตวงได้อย่างมักง่าย แต่ไม่ได้ยกระดับความรู้และคุณภาพชีวิตของคนท้องถิ่น
“เวลาที่คุณตกอยู่ในสภาวะที่ซื้อง่าย คอรัปชั่นเยอะ หากินง่าย กลุ่มคนเทาๆ ก็ชอบ เพราะสามารถเอาเงินฟาดหัวได้ ไม่แตกต่างจากคิงส์โรมันส์ของจ้าวเหว่ย
“ตอนนี้เมียวดีมีปัญหาเดี๋ยวมันก็ไปคิงส์โรมันส์ ซึ่งตอนนี้ขยายใหญ่มาก ขณะที่การท่องเที่ยวไม่มีคนมาเที่ยว แต่ตึกรามขยายออกเรื่อยๆ เขาเอาเงินที่ไหนมาฟอก”
นักวิชาการผู้นี้ยังได้ฉายภาพสถานการณ์ในประเทศจีนปัจจุบันว่า เมื่อประธานาธิบดีสีจิ้นผิงเข้ามา จีนมีปัญหาโดยตลอดตั้งแต่ พ.ศ.2551 นโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative- BRI) เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจของตนเอง เขามีปัญหามาเรื่อยๆ 3-4 ปีที่ผ่านมา แล้วมาเจอโควิดอีก จีนกำหนดนโยบายผิด โดยใช้มาตรการ lockdown เข้มข้นที่นานและแรง ทำให้เศรษฐกิจจีนยิ่งเกิดปัญหาหนัก
“ตอนนี้อุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐาน infrastructure มีปัญหา บริษัทใหญ่ๆ ล้มกันไป 3-4 แห่ง infrastructure สำคัญเพราะคนจีนชอบลงทุนอสังหาริมทรัพย์ บ้านไม่ได้ซื้อไว้อยู่ แต่ซื้อไว้ลงทุนหรือเก็งกำไร เมื่อมีวิกฤต ดอกเบี้ยผ่อนไม่ทัน บริษัทล้ม จึงทำให้คนเดือดร้อน
“ทำให้คนจีนเริ่มไม่อยากใช้เงิน พูดง่ายๆ คือไม่มั่นใจในเศรษฐกิจของประเทศ การผลิตรวนเมื่อคนไม่ใช้เงิน ปัญหาเศรษฐกิจก็ยิ่งหนัก ส่งผลให้เด็กจบใหม่ว่างงานกันเยอะ กลายเป็นลูกโซ่ของปัญหาเศรษฐกิจที่สืบทอดมาสิบกว่าปี
“หลังโควิด คนจีนหลั่งไหลออกนอกประเทศอย่างมากเป็นประวัติการณ์ เราอาจไม่ค่อยเห็นภาพชัดในไทย แต่ในยุโรปและอเมริกา มีคนจีนคนลักลอบเข้ามากมาย เพิ่มขึ้นกว่าในอดีตหลายเท่า มีทุกสี ทั้งจีนขาว จีนเทา”
ศ.ยศกล่าวว่า เมื่อหันกลับมามองภูมิภาคบ้านเรา ต้องยอมรับว่าเป็นสังคมที่ไม่มีกฎหมาย ไม่มีความยุติธรรม และเต็มไปด้วยปัญหาคอรัปชั่นซึ่งทั้งจีนเก่าและใหม่ที่เข้ามาเขาชอบมาก เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้จะเห็นคนจีนไหลเข้ามากขึ้นเพราะพื้นที่แถบนี้หากินง่าย
“เราไปลอกรูปแบบของคนอื่นเขามา เหมือนตอนเอาทุนนิยมตะวันตกเข้ามา แต่เอามาแบบครึ่งๆกลางๆ ไม่ได้เอาการแข่งขันเสรีเข้ามาด้วย ทำให้ทุนนิยมของเรากลายเป็นทุนผูกขาด เช่นเดียวกับเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษของจีน เราเอาเข้ามา แต่เราไม่ได้เอาการยกระดับการทรัพยากรมนุษย์ ไม่ได้เอาการพัฒนาเทคโนโลยีเข้ามาด้วย เราลอกแบบมักง่าย จึงสร้างปัญหา
“คำว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษที่เราใช้แถวลุ่มน้ำโขงเป็นคำที่ถูกบิดเบือน ไม่เว้นแม้ EEC ในบ้านเรา ที่เห็นๆ คือบริษัทจีนมาทิ้งกากสารพิษ เขตเศรษฐกิจที่เอื้อให้อุตสาหกรรมแบบนี้เต็มไปด้วยความฉ้อฉล ไม่ต่างไปจาก call center หรือบ่อนการพนัน อาจจะเสียหายยิ่งกว่าด้วยซ้ำ
“คุณจะใช้เงินเท่าไรแก้ปัญหาระยอง คุณจะใช้เงินเท่าไหร่แก้ปัญหาแคดเมียม ซึ่งเกิดจากความฉ้อฉลของนักลงทุนจีน พวกนี้โยงกันหมด มันไม่ใช่เป็นอะไรที่มองแยกส่วนได้ หากจะพูดให้ถูก จะโทษจีนฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ เพราะเป็นความฉ้อฉลคนของเรา ที่ไปออกใบอนุญาตที่ไม่ควรจะออก”
การทุจริตคอรัปชั่นเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศในภูมิภาคนี้ ซึ่งกลุ่มจีนเทาต่างเห็นช่องทาง พวกเขาเข้าถึงขั้วอำนาจที่ปกครองประเทศต่างๆในย่านนี้ และสามารถดำเนินกิจการแหล่งอาชญกรรมได้เจริญรุ่งเรือง โดยในประเทศไทยเห็นภาพชัดเจนได้ในพื้นที่อ.แม่สอด ที่กลุ่มจีนเทาสามารถพา “เหยื่อ” เดินทางมาและข้ามฟากจากแผ่นดินไทยไป “เชือด” ยังแหล่งอาชญากรรมฝั่งพม่าได้อย่างเสรี ขณะที่ข้าราชการไทยในหลายระดับได้รับผลประโยชน์จากกลุ่มจีนเทาโดยที่รัฐบาลไทยไม่ได้คิดจะปราบปรามอย่างจริงจัง
“คำถามง่ายๆ ที่แม่สอด ทำไมถึงมีเสาสัญญาณโทรศัพท์เรียงตลอดชายแดนแนวชายแดน แล้ว กสทช.(คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) ทำอะไรอยู่ คุณก็น่ารู้ว่านี่คือเครื่องมือที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ล่อลวงคนอื่น ไม่ใช่เฉพาะคนไทย แต่หลอกไปทั่วโลก คุณยอมให้เกิดขึ้นโดยไม่ทำหน้าที่ตรวจสอบ(ก่อนหน้านั้น) แบบนี้คุณต้องรับผิดชอบด้วยมั้ย ไม่ต้องพูดถึงตำรวจซึ่งตอนนี้แทบจะเอาตัวไม่รอด” ศ.ยศ ยกตัวอย่างรูปธรรมให้เห็นถึงเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มจีนเทาในฝั่งเมียวดีและหน่วยงานของไทย
เมื่อถามรัฐบาลจีนมองอย่างไรกับทุนจีนเทาที่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนทั่วโลก ศ.ยศกล่าวว่า “ผมตอบไม่ได้ ผมเองก็เคยตั้งคำถามนี้อยู่บ่อยๆ รัฐบาลจีนบอกว่าเขาไม่สนับสนุน entertainment complex แบบที่มี casino ก่อนหน้านี้รัฐบาลจีนบีบให้รัฐบาลลาวปิดบ่อนที่บ่อเต็น (ชายแดนลาว)
“ประเด็นที่ผมแน่ใจคือหากคนจีนไม่ได้รับผลกระทบ รัฐบาลจีนจะไม่ทำอะไร กรณีเล่าก์ก่าย คนจีนถูกหลอกรัฐบาลจีนถึงเทคแอ็คชั่น เขาไม่ได้สนใจคนพม่า คนลาว คนไทยหรือคนในภูมิภาคเดือดร้อน แต่เมื่อไรคนจีนเดือดร้อน เขาจะเทคแอ็คชั่นทันทีซึ่งเป็นลักษณะปกติของรัฐบาลจีน
“กรณีจ้าวเหว่ย ชัดเจนว่าเขาไม่ใช่ของรัฐบาลจีน แต่ตอนจ้าวเหว่ยไปขอสัมปทานพื้นที่จากรัฐบาลลาว ก็มีเจ้าหน้าที่จีนมาช่วย มีคอนเน็คชั่น การจะบอกว่าอันไหนเป็นของรัฐบาลจีนหรือไม่ เป็นเรื่องที่ตอบยากเพราะมีอะไรซ่อนๆ อยู่ เป็นประเด็นที่เราต้องแสวงหาเอง”
อาณาจักรคิงส์โรมันส์ของจ้าวเหว่ยเป็นตัวอย่างของความพยายามในการฟอกขาวของทุนสีเทา คิงส์โรมันส์สำพยายามประกาศให้คนทั้งโลกเข้าใจว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่คนจำนวนไม่น้อยต่างก็รู้ว่าภายในอาณาจักรแห่งนี้มีทั้งการค้ามนุษย์ การต้มตุ๋นออนไลน์ต่างๆ
“ตอนแรกที่ตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษคิงส์โรมันส์ จ้าวเหว่ยบอกว่าจะมาช่วยชาวบ้านเพราะเป็นเขตยาเสพติดและชาวบ้านยากจน เขาจะมาสร้างงานให้คนลาวทำ แต่ตอนนี้ทำหรือไม่
“ประเด็นที่ผมมองตลอดคือเวลาทำอะไรควรให้คนท้องถิ่นได้ประโยชน์ก่อน แต่ทำอะไรแล้วคนท้องถิ่นต้องหนีหัวซุกหัวซุนมาพึ่งไทย หน่วยงานรัฐเป็นเพียงแค่สมุนทุนเทา นานวันเข้าเราก็เห็นหน่วยงานรัฐไทยกลายสมุนจีนเทาเหมือนกัน ไม่เช่นนั้นเราจะอธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในกระทรวงอุตสาหกรรมได้อย่างไร เขาปล่อยให้ทุนจีนเทามาร้ายสังคมไทย
“ถ้าไม่ใช่สมุนจีนเทาคุณอธิบายได้อย่างไร (กรณีแคดเมียม) ออกใบอนุญาตได้อย่างไร ละเมิดกฏหมาย รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม EIA ได้อย่างไร ตอนนี้ยังไม่มีใครพูดว่าจะตรวจสอบอย่างไร อธิบดีกรมโรงงานก็ชิงลาออก ผมไม่คิดว่าเป็นการสำนึกผิด”
เมื่อถามว่าคิดอย่างไรถึงกรณีที่ทุนจีนเทาใช้ประเทศไทยเป็นเครื่องฟอกขาว เห็นได้จากมีเม็ดเงินมหาศาลที่เป็นรายได้จากแหล่งอาชญากรรมจากชเวก๊กโก่และเคเคปาร์คในฝั่งเมียวดี หรือแม้แต่คิงส์โรมันส์ ที่ไหลเข้ามาประกอบกิจการในไทย ศ.ยศ บอกว่า “อยากร้องไห้”
“สังเกตหรือไม่ ช่วงที่ผ่านมามีการพูดเรื่องบ่อนเสรี เพราะมีโครงการสร้างบ่อน 8 แห่งในบ้านเรา ใครจะทำได้เพราะคนไทยฝีมือไม่ถึง ก็ต้องทุนจีนนั่นแหละ มีคนไปคุยกับนายใหญ่แล้วว่าจะเป็นรายได้เข้ารัฐ ทำไมถึงไม่ทำ สิงคโปร์ก็ทำแล้ว
“อีกหน่อยไม่ต้องฟอกเงินที่ชเวก๊กโก่หรอก ฟอกในเมืองไทยนี่แหละใกล้ตัวดี ถ้ารัฐบาลยังเป็นแบบนี้ คาสิโนเกิดแน่ แต่ประเด็นนี้ ถ้าคุณไปโวยวายเขาก็ออกมา ‘แอ่นแอ๊น’ เพราะการเมืองเป็นระบบบ้านใหญ่
มันหากินด้วยความฉ้อฉล พรรคนำของรัฐบาลตอนนี้ก็เป็นการเมืองบ้านใหญ่ โยงกับเศรษฐกิจทุนนิยมผูกขาดของบ้านเรา โยงกับรัฐที่มี ข้าราชการ- ทหาร-กลุ่มอนุรักษนิยมเป็นใหญ่
“กลุ่มคนเหล่านี้เป็นตัวกีดขวางไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง สภาวะแบบนี้จีนเขาก็รู้ จีนเทามันก็รู้ว่าประเทศนี้ยังหากินได้ แล้วคนที่ทนไม่ได้ไปโวยวายก็ไม่มีใครฟัง เพราะว่ากลไกรัฐอยู่ในมือคนกลุ่มนี้หมด
ศ.ยศได้ยกตัวอย่างประเทศสิงคโปร์ซึ่งตอนนี้ปวดหัวมากกับจีนเทา เพราะสิงคโปร์เชื่อมั่นในระบบของตัวเองมากเกินไป และบอกว่าตัวเองว่าไม่มีปัญหาทุจริตคอรัปชั่น จึงไปรับจีนเข้าไปอยู่นับล้านคน จากจำนวนประชากรสิงคโปร์ที่มีอยู่เพียง 3 ล้านคน ตอนนี้เลยปวดหัวว่าจะจัดการอย่างไร เพราะจีนเทาเข้าไปเก็งกำไรการลงทุน เข้าไปร่วมทุนกับคนสิงคโปร์ เข้าไปฟอกเงิน ต่อไปหากไม่ระวังทุนสิงคโปร์จะขาดความน่าเชื่อถืออย่างรวดเร็ว
ปัจจุบันสถานการณ์ในพม่า อิทธิพลของจีนได้สยายปีกโดยผ่านกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ซึ่งเห็นชัดเจนกรณีที่ทางการจีนสนับสนุนให้กองกำลังกลุ่มพันธมิตรทางเหนือของพม่า ที่เรียกตัวเองว่า The Brotherhood Alliance ประกอบด้วย กองทัพโกก้าง (Myanmar National Democratic Alliance Army-MNDAA) กองทัพตะอางหรือปะหล่อง (Ta’ang National Liberation Army-TNLA) และกองทัพอาระกัน (Arakan Army-AA) ได้ปฏิบัติการโจมตีในชื่อ Operation 1027 บุกทลายแหล่งอาชญากรรมในเมืองเล่าก์ก่าย และขยายวงกว้างไปในหลายพื้นที่ ขณะที่กองทัพว้าซึ่งมีความใกล้ชิดจีนได้ขยายอิทธิพลมาจนถึงชายแดนไทย ขณะเดียวกันจีนก็ยังรักษาสัมพันธภาพที่ดีกับรัฐบาลทหารพม่าไว้อย่างเหนียวแน่น
“โดยปกติจีนรักษาผลประโยชน์ตนเองมาก เขามีชายแดนติดกับพม่ายาว และพม่าก็ติดอินเดียที่จีนไม่ไว้วางใจ ทางการเมืองระหว่างประเทศอย่างไรเสีย จีนก็ต้องสร้างมีอิทธิพลเหนือพม่าให้ได้ พม่าเป็นธงของจีน แต่รูปแบบใดเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
“พม่าเป็นพื้นที่ที่จีนละเมิดกติกาของโจวเอินไหล(อดีตผู้นำคำสำคัญและอดีตนายกรัฐมนตรีคนแรกของจีน)ที่ตั้งไว้เมื่อ 30-40 ปีก่อน ที่กำหนดไว้ว่าไม่แทรกแซงกิจการภายในประเทศใด แต่พม่าเป็นประเทศเดียวที่จีนทำแบบนี้ ตอนนี้ก็เริ่มไปแทรกแซงบางประเทศในแอฟริกา อะไรที่เป็นผลประโยชน์ซับซ้อน จีนไม่ปล่อย ดังนั้นจีนจึงไม่ปล่อยพม่าหรือชาติพันธุ์
“ทหารพม่าตอนนี้อยู่ในภาวะเสียเปรียบ จีนอ่านออก ทหารพม่าไม่ได้มีอำนาจเหมือนเดิม จีนเองก็รู้ จึงง่ายมากที่จีนจะแทงกั๊ก เอาทุกฝ่าย เขาพยายามกันไม่ให้รัสเซียเข้ามา เพราะทหารพม่าวิ่งหารัสเซียแต่รัสเซียเองมีสงครามจึงไม่อยากผิดใจกับจีน”
ศ.ยศทิ้งท้ายถึงรัฐบาลไทยว่า ทำไมถึงยังโอ๋เอาใจกองทัพพม่าหรือตั๊ดมะดอว์จนเกินไป แทนที่จะสานสัมพันธ์กับกลุ่มชาติพันธ์หลากหลายกลุ่ม ทำให้เห็นได้ชัดว่านโยบายของรัฐไทยยังคงไม่ปรับตัว
———-
หมายเหตุ- ศ.ยศให้สัมภาษณ์สำนักข่าวชายขอบก่อนวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งกสทช.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการต่างๆ ได้ร่วมกันทำการตรวจสอบ และตัดสายเคเบิลใยแก้ว ที่น่าเชื่อว่าจะเป็นสายส่งสัญญาณไปยังฝั่งเมียวดี
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.