Search

เสียงอ้อนวอนเล็กๆ ของครูชายแดน

ณฐาภพ สังเกตุ

แคทเธอริน รูธ ไรลี่ ไบรอัน  (Catherine Ruth Riley-Bryan) ชาวนิวซีแลนด์ ผู้ก่อตั้งโรงเรียน “Bamboo School” เรียกร้องทางการไทยไม่ผลักดันผู้ลี้ภัยกลับไปเผชิญอันตรายที่ประเทศต้นทาง หลังช่วงที่ผ่านมามีผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยงจำนวนมากลี้ภัยเข้ามาฝั่งไทย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสงครามกลางเมืองเมียนมา

เธอระบุว่า ตลอดช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยงจำนวนมากหนีภัยสงคราม เพื่อเข้ามาแสวงหาและพักพิงที่ปลอดภัยใน ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จำนวนมาก

ทั้งนี้จากข้อมูลของภาคีที่ทำงานด้านผู้ลี้ภัยตามแนวชายแดนระบุว่า สถานการณ์ความไม่สงบในประเทศเมียนมาเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาทำให้มีผู้หนีภัยเข้ามาในประเทศไทยในพื้นที่บ้านบ้องตี้บน ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ประมาณ 2,300 คน โดยกระจายกันอยู่กับเครือญาติในชุมชนฝั่งไทย ต่อมาผู้หนีสู้รบได้ถูกผลักดันกลับไปแล้วมากกว่า 1,000 คน แต่เนื่องจากที่พักอาศัยของพวกเขาถูกเผาทำลาย ทำให้ผู้หนีภัยที่ถูกผลักดันกลับเหล่านี้ต้องหลบซ่อนอยู่ตามแนวชายแดนฝั่งเมียนม่า ซึ่งมีจำนวนประมาณ 500 คน เป็นกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก ผู้หญิง คนท้อง และผู้ป่วย ที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงจากความไม่สงบ

“ในพื้นที่ชายแดนกาญจนบุรีมีค่ายผู้ลี้ภัยขนาดเล็กประมาณ 10 แห่ง แต่เมื่อวันที่ 6-7 พ.ค.ที่ผ่านมา ทราบมาว่ามีการกวาดต้อนผู้ลี้ภัยกลับไปฝั่งเมียนมา ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกกังวลใจ เพราะช่วงที่ผ่านมาได้เข้าช่วยรักษาผู้ป่วย พบว่ามีเด็ก คนชรา และคนป่วย จำนวนมากที่กำลังถูกผลักดันกลับประเทศเมียนมา และต้องเผชิญกับภัยสงครามที่ยังไม่สงบ 

“คนไข้หญิงคนหนึ่งบอกฉันว่า ทหารพม่าดักรออยู่บนถนนอีกฟากหนึ่งของเนินเขา เราได้ยินเสียงปืน เสียงระเบิด และเครื่องบินอยู่รอบตัวเราตลอด” แคทเธอริน กล่าว 

แคทเธอรินระบุว่าสถานการณ์ผู้ลี้ภัยขณะนี้ประสบปัญหาโรคระบาด โดยเฉพาะวัณโรค และโรคมาลาเรีย โดยเธอพยายามจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ และมุ้ง สำหรับผู้ลี้ภัย 

“เด็กชายคนหนึ่งที่เขาเคยอาศัยอยู่กับเรา และภรรยาของเขา ถูกเจ้าหน้าที่บอกว่าเขาไม่สามารถอาศัยอยู่ในพื้นที่ต่อไปได้ เพราะไม่มีสถานะยืนยันทางทะเบียน หากเป็นเด็กกำพร้า เด็กที่เกิดในประเทศไทยหรือรับเข้าเรียนในโรงเรียนไทย หรืออยู่ระหว่างการรักษาพยาบาล หรือผู้สูงอายุ ขออย่าได้ผลักดันพวกเขากลับประเทศเมียนมา” แคทเธอริน ส่งข้อเรียกร้องถึงรัฐบาลไทย

สำหรับโรงเรียน Bamboo school มีนักเรียนอยู่ในความดูแลของแคทเธอริน ประมาณ 80 คน ส่วนใหญ่ เป็นเด็กกำพร้า ไร้สัญชาติ และพิการ 

“เราไม่ได้รับความชัดเจนจากนโยบายของรัฐเพราะระบุไม่ตรงกัน บางพื้นที่ก็มีการอนุโลมให้ผู้ลี้ภัยสามารถอาศัยอยู่ได้ชั่วคราว แต่ในขณะที่บางพื้นที่มีความเข้มงวด และผลักดันผู้ลี้ภัยกลับไปยังประเทศเมียนมา”ผู้ก่อตั้งโรงเรียน Bamboo School รู้สึกสับสนเช่นเดียวกับครูอาสาต่างๆตลอดแนวชายแดน

เมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 หน่วยงานราชการไทยร่วมกันผลักดันเด็กไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎร 126 คน จากโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 6 จ.อ่างทอง กลับประเทศเมียนมาด้านอ.แม่สาย จ.เชียงราย หลังจากนั้นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เด็กไร้สัญชาติ 19 คนที่กำลังบวชเณรเพื่อรับการศึกษาในจังหวัดลพบุรี ถูกจับสึกและหน่วยงานราชการไทยได้ส่งตัวกลับมาที่ จ.เชียงราย ซึ่งทั้ง 2 กรณีที่ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากคนทำงานด้านการศึกษาและด้านเด็ก เนื่องจากนโยบายที่ไม่ชัดเจนของรัฐบาล

สถิติตลอดระยะเวลา 3 ปี ระหว่าง 1 ก.พ. 2564 จนถึง 1 ม.ค. 2567 กองทัพพม่ามีการใช้เครื่องบินโจมตีรวมกว่า 1,717 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 940 คน และได้รับบาดเจ็บ 900 คน และหลังทำรัฐประหารปี 2564 เป็นต้นมา มีรายงานว่าชาวพม่ากลายเป็นผู้พลัดถิ่นภายใน หรือ IDP แล้ว จำนวนกว่า 2,280,900 คน

สำหรับกรณีที่รัฐไทยผลักดันผู้ลี้ภัยจากเมียนมากลับไปเผชิญอันตรายประเทศต้นทางไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก แต่ถูกวิจารณ์อย่างรุนแรงขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่สงครามกลางเมืองเมียนมาปะทุหนักหน่วงหลังรัฐประหารปี 2564  

ภาคประชาสังคมเคยมีข้อเรียกร้องให้ไทยเข้มงวดกับหลักการ Non-Refoulement หรือไม่ผลักดันบุคคลใดก็ตามกลับไปเผชิญอันตรายหรือการประหัตประหารที่ประเทศต้นทาง เพราะประเทศไทยมีข้อผูกพันจากการเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศ เช่น กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ข้อ 7 อนุสัญญาต่อต้านการทรมาน การปฏิบัติ หรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำายีศักดิ์ศรี (CAT) ข้อ 3 และยังมีกฎหมายในประเทศอย่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย มาตรา 13 โดยทั้งหมดนี้ระบุว่ารัฐไทยต้องไม่ผลักดันประชาชน หรือใครก็ตาม กลับไปเผชิญอันตราย หรือการประหัตประหารที่ประเทศต้นทาง 

 ตูซาเว ชาวกะเหรี่ยง วัย 26 ปี ที่เป็นหนึ่งในนักเรียนของ Bamboo school และเป็นบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน เล่าว่านักเรียนในโรงเรียนต่างเป็นกังวลที่จะถูกผลักดันกลับประเทศเมียนมา เพราะบางคนก็อพยพมาพร้อมกับพ่อแม่ และพ่อแม่ของพวกเขาก็ถูกผลักดันกลับไปที่ประเทศเมียนมาแล้ว 

อย่างไรก็ดีทางแคทเธอรินได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่รัฐแล้วว่า เด็กๆ ทุกคนในโรงเรียน Bamboo school จะปลอดภัย และไม่ถูกผลักดันกลับไปยังประเทศเมียนมา

————

On Key

Related Posts

เหยื่อ 20 ชาติ 261 คนพ้นขุมนรก กะเหรี่ยง DKBA ส่งตัวให้ไทย ญาติสุดปลื้มขอบคุณประเทศไทย แต่อีกนับหมื่นยังถูกกักขัง ผบ.ราชมนู ชี้เป็นผลจากมาตรการ 3 ตัดบริษัทเล็กย้ายหนี-บริษัทใหญ่ลดระดับลง 50%

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 ที่บริเวณท่าข้าม 28Read More →

ผู้นำกะเหรี่ยง DKBA แจงไม่รู้ไม่เห็นมาก่อนมีเหยื่อต่างชาติถูกบังคับเป็นสแกมเมอร์ระบุพร้อมทำตามความต้องการของรัฐบาลไทย ประสาน“กัณวีร์”ช่วยเหยื่อต่างชาติอีกนับร้อย

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้นำกองกำลังกะเหรีRead More →

ชาวบ้านริมโขงโวย เวทีรับฟังเขื่อนสานะคามกีดกันผู้ได้รับผลกระทบ จวก สทนช.ไม่เปิดโอกาสแสดงความเห็นตรงไปตรงมา “หาญณรงค์”จี้หยุดสร้างเขื่อน-สร้างภาระให้ประชาชน

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 ที่สวนอาหารบ่อปลา วRead More →