เสนอนายกฯนั่งหัวโต๊ะจัดการจีนเทา-แหล่งอาชญากรรมริมน้ำเมย “รังสิมันต์”แนะงดวีซ่าคนจีนเข้าแม่สอด-สุดงงอนุญาตเปิดท่าข้ามส่งคนไปคาสิโน เผยจีนเทาขยายธุรกิจสีดำลงใต้เปิดแหล่งใหม่ตรงข้ามด่านเจดีย์สามองค์

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2567 นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล และประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้ถึงกรณีที่เหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ของกลุ่มจีนเทาจำนวนมากที่ยังถูกกักขังอยู่ในแหล่งอาชญากรรมริมแม่น้ำเมย เมืองเมียวดีตรงข้ามกับ อ.แม่สอดและ อ.พบพระ จ.ตาก โดยล่าสุดเหยื่อชาวลาว 14 คนได้รับการประสานงานด้วยวิธีใต้ดินและจ่ายค่าไถ่จนสู่ประเทศลาวได้ ว่า จริงๆแล้วต้องมีมาตรการระยะสั้น กลาง ยาว ในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยระยะสั้นต้องปฏิสัมพันธ์กับทุกฝ่าย เพราะบางครั้งข้อมูลเหยื่อไม่ชัดเจนว่าถูกกักตัวอยู่ตรงไหน เพราะเหยื่ออาจเข้าใจผิดคิดว่าอยู่ตรงนี้ แต่จริงๆ อยู่อีกแห่ง ดังนั้นรัฐอาจต้องตั้งกลไกอย่างเป็นทางการเพื่อทำเรื่องนี้โดยเฉพาะ

“ผมทราบจากหลายแหล่งรวมทั้งนักการทูตประเทศต่างๆ ว่า มีคนในประเทศเขาถูกเอาตัวไปกักขัง รวบรวมรายชื่อได้ 10-20 คน แต่จริงๆ อีกนับร้อยคน แต่ทุกวันนี้ช่วยกันได้เป็นรายกรณี เคสบายเคส แต่เหยื่อแก๊งอาชญากรรมมีมากกว่านี้ การแก้ปัญหานี้ต้องคิดกันได้แล้ว เพราะในแหล่งอาชญากรรมเหล่านี้มีคนอยู่เป็นหลักแสน”นายรังสิมันต์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาสื่อไทยและสื่อต่างประเทศต่างเจาะลึกประโคมข่าวและเหยื่อกำลังรอคอยความช่วยเหลือแต่ท่าทีของรัฐบาลไทยกับยังดูเพิกเฉย คิดว่าเพราะเหตุใด ประธาน กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯกล่าวว่า รัฐไทยอาจไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องสำคัญหรือเป็นเรื่องใหญ่จึงไม่คิดแก้ปัญหา อย่างไรก็ตามต้องทำหลายอย่าง เช่น เรื่องการเข้มงวดบริเวณชายแดน เรื่องท่าข้ามที่ปัจจุบันมีอยู่เยอะมาก เรายังไม่มีมาตรการจัดการจริงจัง

นายรังสิมันต์กล่าวว่า ในส่วนที่ต้องทำเพื่อให้แหล่งอาชญากรรมเหล่านี้อ่อนแอลงคือต้องมีมาตรการตัดน้ำ ไฟฟ้า อินเตอร์เน็ต ที่เป็นรูปธรรม โดยขณะนี้การตัดสัญญาณอินเน็ต ยังเห็นผลการดำเนินการ แต่ตัดไฟฟ้ายังไม่มี ซึ่งมีข้อแก้ตัวว่าถึงตัดไฟก็ยังสว่างไสว อย่างกรณีชเวก๊กโก่ แม้ถูกตัดไฟฟ้าแต่เขาก็เอาน้ำมันมาปั่นเครื่องไฟ แต่ก็ไม่สว่าง 24 ชั่วโมงซึ่งทำให้เขาอยู่ยากขึ้นและการดึงดูดการลงทุนน้อยลง

นายรังสิมันต์กล่าวว่า ประการถัดมาคือ ทำอย่างไรให้คนจีนไม่สามารถข้ามแดนไปได้อีกโดยเฉพาะมาตรการผ่านแดนท่าข้ามช่องทางธรรมชาติ แต่อีกจุดหนึ่งที่ต้องคิดคือเราจำเป็นต้องให้วีซ่าแก่คนจีนที่สามารถเดินทางทั่วราชอาณาจักรจริงๆหรือไม่ เพราะบางประเทศ เช่น ญี่ปุ่นในบางเมืองต้องขอวีซ่าอนุญาตพิเศษถึงจะเข้าไปได้ ฉะนั้นบางเมืองที่มีปัญหาด้านความมั่นคง หรือบางพื้นที่ที่เราต้องเร่งปราบอาชญากรรม เราสามารถใช้มาตรการนี้ได้หรือไม่ ทุกวันนี้คนจีนไปแม่สอดโดยเครื่องบินสะดวกมาก เขาไปรถก็สะดวกมาก คนจีนที่เดินทางไปแม่สอดเรารู้อยู่แล้วว่าร้อยละ 90 หรือ ร้อยละร้อย มีแนวโน้มเป็นทุนจีนสีเทา เราจะดำเนินการด้านวีซ่าได้หรือไม่ เช่น หากจะเดินทางไปเมืองนี้คุณต้องได้รับการอนุญาตเป็นกรณีเฉพาะ หากเขาไปแม่สอดไม่ได้ แหล่งอาชญากรรมเมืองเมียวดีก็จบ

“บริเวณนี้เป็นพื้นที่ค่อนข้างแปลก การบังคับใช้กฎหมายมีปัญหาอยู่แล้ว มีท่าข้ามเยอะมาก เทียบกับจังหวัดอื่น ในภาคอีสานยังไม่เยอะขนาดนี้ ทำให้การบังคับใช้กฎหมายยิ่งยาก เป็นจุดอ่อนที่ทำให้คนข้ามไปมาง่าย เสรี ไม่มีมาตรการควบคุม ที่บริเวณแม่น้ำเมย ต.ช่องแคบ ผมเห็นส่งปูนข้ามไป ฝั่งตรงข้ามกำลังก่อสร้างศูนย์สแกมเมอร์และการค้ามนุษย์ ไทยเราเกี่ยวแน่นอนในการสร้างสิ่งเหล่านั้น”นายรังสิมันต์ กล่าว

เมื่อถามว่ากรณีท่าข้ามที่มีมากเกินไปและสามารถข้ามกันอย่างอิสระควรมีการแก้ไขปัญหาอย่างไร ประธาน กมธ.ความมั่นคงฯกล่าวว่า ต้องทบทวนว่าการอนุญาตท่าข้ามถูกกฎหมายถูกต้องจริงหรือไม่ หรือเป็นการใช้ดุลพินิจชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ รัฐบาลต้องกลับมาทบทวนว่าท่าข้ามที่จำเป็นมีกี่ท่า และท่าข้ามที่ไม่จำเป็นมีกี่ท่า บางจุดก็ไม่ได้ห่างกันเลย บางท่าข้ามมีจุดประสงค์ให้คนข้ามไปแหล่งคาสิโน ตนก็ไม่รู้ว่าได้อนุมัติไปได้อย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นที่ทราบกันดีถึงการที่ทุนจีนเทาติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐบางหน่วยงาน ควรมีการแก้ไขปัญหาอย่างไร นายรังสิมันต์กล่าวว่า จริงๆแล้วสามารถดำเนินการเชิงรุกได้ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ไปจนถึงแค่ดูลานจอดรถว่าใช้รถอะไรกันบ้าง หรือ กรณีบ้านหลังใหญ่แต่ไหน เช่น อดีตผู้กำกับการรายหนึ่งมีบ้านใหญ่โต ดูก็รู้ว่าการได้มาของเงินเป็นอย่างไร สิ่งเหล่านี้เป็นมาตรการที่ต้องทำ และที่ต้องทำไปด้วยกันคือการสร้างเครื่องมือที่โปร่งใส เช่น การผ่านแดน การจ่ายเงินต้องดูจ่ายตรงไหนบ้าง ตลอดจนถึงการลดเครื่องมือที่ใช้ดุลยพินิจมากๆ เช่น ให้อำนาจ ตม.ใช้ดุลยพินิจค่อนข้างเยอะ กรณีคนพม่าที่เข้า-ออก ต้องจ่ายเงิน เพราะเอกสารฝั่งเพื่อนบ้านไม่พร้อม ซึ่งไทยเราเองสามารถกำหนดเอกสารภายในได้ หาก (คนจากพม่า) เขาไม่มีพาสปอร์ต เราอาจกำหนดอัตลักษณ์ เพื่อให้มีฐานข้อมูลว่าคนคนนี้เข้ามาประเทศไทย

เมื่อถามว่า การแก้ปัญหาเกี่ยวพันกับหลายหน่วยงาน ควรมีการตั้งคณะกรรมการระดับชาติขึ้นมาดูแลหรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า เรื่องนี้ควรจะต้องบูรณาการกันทั้งหมดเป็นคณะกรรมการระดับชาติเพราะเกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย ทั้งมหาดไทย กองทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงการคลัง ทั้งหมดนี้คนเดียวที่นั่งหัวโต๊ะได้คือนายกรัฐมนตรี จริงๆถ้าไม่ใช้คณะกรรมการระดับชาติที่ตั้งขึ้นมาใหม่ก็มีกลไกเดิมอยู่แล้วคือสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) แต่ยังไม่เห็น สมช.ทำงานเชิงรุก

“ผมคิดว่าสิ่งที่คุณเศรษฐา (ทวีสิน นายกรัฐมนตรี)ควรรีบทำคือการกระตุ้นให้ สมช.ทำงานเชิงรุกและจริงจัง ถ้า เรื่องไหนยังไม่รู้เรามีนักวิชการและภาคประชาสังคมซึ่งรู้เรื่องพวกนี้ดีอยู่ ขอเพียงท่านมีเจตจำนงทางการเมืองที่แน่วแน่”นายรังสิมันต์ กล่าว

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเหยื่อชาวต่างชาติหลายประเทศที่ได้รับความช่วยเหลือออกจากแหล่งอาชญากรรมริมแม่น้ำเมยโดยสถานทูตประเทศต้นทางได้ประสานไปยังหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ของไทย และหน่วยงานด้านความมั่นคงของไทยได้ติดต่อไปยังผู้นำกลุ่มกองกำลังที่ควบคุมดูแลแหล่งอาชญากรรม โดยผู้นำกลุ่มกองกำลังเหล่านี้ต่างเกรงใจหน่วยงานของทางการไทยในพื้นที่เพราะต้องเข้า-ออกประเทศไทยอย่างสม่ำเสมอ และบรรดาครอบครัวของผู้นำเหล่านี้ต่างก็อาศัยอยู่ในประเทศไทย

“ที่ผ่านมาพอออกมาแล้วก็รีบส่งตัวเหยื่อเหล่านี้กลับประเทศต้นทางทันทีและพยายามปกปิดไม่ให้เป็นข่าวเพราะเขาอ้างว่ากลัวในเรื่องผลกระทบของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ลึกๆแล้วมีเหตุผลอื่นมากกว่านั้น คนในพื้นที่ต่างรู้ดีว่าใครบ้างที่ได้ประโยชน์จากแก๊งจีนเทา”แหล่งข่าว กล่าว

แหล่งข่าวกล่าวว่า ในส่วนของแหล่งอาชญากรรมของโกไซบริเวณตรงข้ามกับบ้านช่องแคบ อ.พระพบ ซึ่งล่าสุดได้มีการช่วยเหลือคนลาว 14 คนออกมาได้นั้น เชื่อว่าเป็นกลุ่มทุนจีนเทากลุ่มนี้ที่ย้ายมาจากชายแดนเขตปกครองพิเศษโกก้างและว้า ภายหลังจากที่แหล่งอาชญากรรมเมืองเล่าก์ก่ายในรัฐฉานเหนือ ประเทศพม่าถูกตีแตกและถูกกวาดล้าง ทำให้ต้องย้ายฐานมาบริเวณชายแดนไทย โดยนอกจากแหล่งอาชญากรรมของโกไซแล้ว ขณะนี้กลุ่มจีนเทายังได้ขยายธุรกิจสีดำไปยังแนวตะเข็บชายแดนทางตอนใต้ เช่น บริเวณตรงข้ามกับด่านเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี และด้านจังหวัดระนอง โดยแหล่งอาชญากรรมตรงข้ามด่านเจดีย์สามองค์ได้เปิดดำเนินการแล้ว

————