เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2567 สำนักข่าว BBC และสำนักข่าว SHAN รายงานว่า สถานการณ์ทั่วไปในเมืองล่าเสี้ยวและเมืองสี่ป้อ ทางตอนเหนือของรัฐฉานเริ่มตึงเครียดอีกครั้ง โดยกองทัพพม่าได้เพิ่มกำลังทหารและอาวุธเตรียมพร้อม รวมทั้งเฝ้าประจำตามจุดต่างๆในเมืองล่าเสี้ยว อีกทั้งมีการเตรียมพร้อมโดรนติดอาวุธด้วย นอกจากนี้ ขณะที่กำลังพลทหารพม่า 200 นาย ที่เคยพ่ายสงครามจากเมืองเล่าก์ก่าย ได้ถูกส่งไปรับการฝึกทหารที่เมืองต้างยาน และถูกส่งมาประจำในเมืองล่าเสี้ยวด้วย ส่วนทหารปะหล่อง TNLA ก็ประจำอยู่รอบๆเมืองล่าเสี้ยว
สถานการณ์ทั่วไปในตัวเมืองล่าเสี้ยว มีการตรวจเข้มประชาชนที่สัญจรไปมาอย่างหนัก ทั้งการตรวจโทรศัพท์การใช้ VPN และการห้ามออกจากบ้านตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 06.00 น. นอกจากนี้ ยังสั่งให้รถยนต์ รถจักรยานยนต์ในเมืองล่าเสี้ยวต้องลงทะเบียน โดยเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กองทัพพม่ายังได้ขุดดินปิดเส้นทางที่เชื่อมไปยังเมืองล่าเสี้ยวเกือบทั้งหมด เช่น เส้นทางเชื่อมไปยังเมืองหมู่เจ้ เส้นทางเชื่อมไปยังเมืองน้ำตู้ เป็นต้น ยกเว้นเส้นทางเมืองล่าเสี้ยว – เมืองต้างยาน – เมืองใหย
ส่วนเส้นทางเชื่อมไปยังเมืองมัณฑะเลย์ ถึงแม้จะยังคงเปิดใช้งาน แต่การเดินทางยังคงเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากจะต้องเดินทางไปยังเมืองสี่ป้อ และต้องใช้สะพานที่สร้างขึ้นมาชั่วคราวแทน แต่การเดินทางในช่วงหน้าฝน มีน้ำป่าไหลหลาก และเมื่อเร็วๆนี้ยังมีรถยนต์ที่ถูกพัดไปกับกระแสน้ำ จึงทำให้การเดินทางในเส้นทางนี้เป็นไปอย่างยากลำบาก และทำให้สินค้าตกค้างเป็นจำนวนมากด้วยเช่นเดียวกัน
การปิดเส้นทางเชื่อมเมืองล่าเสี้ยว เนื่องจากทางกองทัพพม่าหวั่นว่า ฝ่ายต่อต้านจะใช้เส้นทางเข้ามาโจมตีกองทัพพม่า นอกจากถนนจะถูกทำลายแล้ว ยังมีการทำลายสะพานเชื่อมเมืองล่าเสี้ยวเกือบทั้งหมดด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากนี้เส้นทางเชื่อมเมืองจ็อกเมไปยังเมืองน้ำสั่น ซึ่งเมืองน้ำสั่นได้ถูกกองทัพปะหล่อง TNLA ควบคุมไว้แล้วก็ถูกทำลายแล้วเช่นเดียวกัน ขณะที่ประชาชนในพื้นที่เริ่มเดินทางออกจาเมืองล่าเสี้ยว ไปอาศัยอยู่กับญาติในเมืองต่างๆ ทั้งในเมืองมัณฑะเลย์ เนื่องจากเกรงว่า หากเกิดสงครามขึ้นจริง จะติดค้างอยู่ในเมืองล่าเสี้ยว เนื่องจากเส้นทางถนนถูกปิดไว้เกือบหมดแล้ว และชาวบ้านต่างแสดงความกังวลใจว่า จะเกิดสงครามขึ้นใหม่ระหว่างกองทัพพม่าและกองทัพสามพี่น้อง ซึ่งประกอบด้วยกองทัพอาระกัน (AA) กองทัพปะหล่อง TNLA และกองทัพโกก้าง (MNDAA)
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่16 มิถุนายนที่ผ่านมา ครบรอบ 26 ปี การสังหารหมู่ชาวไทใหญ่ที่เมืองกุ๋งเหง และการใช้นโยบายตัด 4 ในรัฐฉาน และยังถือเป็นวันสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ การใช้นโยบายตัด 4 ในรัฐฉานนั้น ส่งผลให้ระหว่างปี 2539 – 2540 มีประชาชนในรัฐฉาน 400,000 คน จาก 15 เมืองในรัฐฉานต้องถูกบังคับย้ายถิ่นฐาน และส่วนมากอพยพหนีเข้ามายังชายแดนทางภาคเหนือของไทย โดยนโยบายตัด 4 นั้น คือการตัดเงินช่วยเหลือ ตัดเส้นทางลำเลียงอาหาร ตัดการติดต่อสื่อสารและตัดกำลังพล มุ่งเน้นใช้กับกลุ่มติดอาวุธและหวังให้ประชาชนอ่อนแอ เพื่อไม่ให้สามารถลุกขึ้นมาต่อสู้กับกองทัพพม่าหรือสนับสนุนแก่กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์