เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2567 นายพลบีทู (General Bee Htoo) ผู้นำกองทัพคะเรนนี (Karenni Army-KA) และที่ปรึกษาฝ่ายกลาโหม พรรคก้าวหน้าแห่งชาติคะเรนนี (Karenni National Progressive Party-KNPP) ให้สัมภาษณ์ “สำนักข่าวชายขอบ” ถึงสถานการณ์การสู้รบในรัฐคะเรนนีระหว่าง KA กับกองทัพพม่าของสภาบริหารแห่งรัฐพม่า (State Administration Council-SAC) ว่าในเมืองหลวงของรัฐคะเรนนี คือเมืองลอยก่อ ซึ่งกองกำลังร่วมฝ่ายปฏิวัติที่นำโดยกองทัพคะเรนนีสามารถยึดได้เป็นเวลาหลายเดือนแล้ว ขณะนี้ทหารพม่าเข้ามาเสริมกำลังเข้ามาหลายร้อยคน และใช้โดรนตัวใหม่ซึ่งมีประสิทธิภาพพอสมควร โดยส่งโดรนมาทิ้งระเบิดใส่ทหารคะเรนนี ทหารคะเรนนีเราจึงกระจายกำลัง เป็ดชุดกองโจร พม่าเข้ามาถึงย่านโรงงานในลอยก่อซึ่งเราเคยยึดได้นานแล้ว เขาก็กลับมายึดคืน ตอนนี้ที่ลอยก่อรบกันทุกวัน
ผู้นำทหารคะเรนนีกล่าวว่า กองทัพพม่าใช้วิธีเก็บตกกำลังทหารจากกองพันต่างๆ มารวมกัน และร่วมกับกองกำลังปะโอขาว (Pa-o National Organization-PNO) ซึ่งเป็นกองกำลังที่ตั้งขึ้นมาโดยไม่เคยสู้พม่าเลย รับเงินเดือนจากกองทัพพม่า “เป็น อส.ของพม่า” อย่างไรก็ตามในเมืองลอยก่อยีงคงเหลือฐานพม่าอยู่ 4-5 แห่ง แต่ฐานรอบๆ จำนวน 16 ฐาน เรายึดได้หมดแล้ว ราว 70% โดยกองกำลังฝ่ายปฏิวัติช่วยกันสู้รบแบบกองโจร
นายพลบีทูกล่าวว่า ในพื้นที่แม่แจ๊ะ เราสามารถเรายึดกระสุน และปืน ค.120 ได้จำนวนมาก ขณะเดียวกันแม้ช่วงนี้จะเป็นฤดูฝน ก็ยังสู้กันไม่ได้หยุด ส่วนที่ค่ายพม่าผาซอง พม่ามีกำลังสนับสนุนส่งมาเพิ่มสองรอบ โดยรอบแรกเขาเสียไป 16 ศพ รอบสองส่งมา 107 นาย “หมดเลย เรียบร้อย เราจับเป็นได้ 58 คน มีผบ.พัน 1 รองผบ. 2 คน ร้อยเอก 3 นาย”
ผู้สื่อข่าวถามว่าในเมืองลอยก่อ ขณะนี้ยังมีประชาชนอาศัยอยู่หรือไม่ นายพลบีทูกล่าวว่า ยังมีบางส่วน พม่าให้กลับมา แต่เราไม่รับผิดชอบความปลอดภัย เพราะพม่าวางระเบิดไว้เยอะมาก บางคนไปไร่ก็โดนระเบิด เช่นเดียวที่เมืองดีมอโส่ มีกับระเบิดเยอะมาก เราพยายามกู้โดยขณะนี้กู้ระเบิดได้อย่างน้อย 460 ลูก โดยในอดีตเมืองลอยก่อเคยมีประชาชนอาศัยอยู่เยอะมาก เมื่อเกิดเหตุการณ์ก็ต้องหนีกันออกไปหมด ไปหลบอยู่ทางเหนือ ตะวันออก ตะวันตก โดยความช่วยเหลือมนุษยธรรมข้างในก็พอมี แต่ไม่เพียงพอ สถานการณ์ขณะนี้คือการอทศัยอยู่รวมๆ เป็นกลุ่มจำนวนมากเป็นสิ่งที่อันตราย
“เขาเอาโดรนมาทิ้งระเบิด โรงพยาบาลถูกถล่มไป 2 แห่ง เขาไม่สนใจเลยว่าเป็นสถานพยาบาล ที่ใกล้ฐานหย่าโหม่ ค่ายผู้พลัดถิ่นโดหน่อกู เขาตั้งใจมาทิ้งระเบิดและโจมตีประชาชน ครั้งนั้นเราดักฟังวิทยุ ได้ข่าวก่อนแป๊บนึง จึงหนีทัน แค่ 15 นาที เด็กนักเรียนหนีออกไปได้จากหอพักก่อนลูกระเบิดลง แต่มีคนดูแลหอพักตายไป” นายพลบีทู กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าปัจจุบันฝ่ายปฎิวัติสามารถยึดด่านชายแดนที่ติดประเทศไทยไว้ได้ทั้งหมด จะบริหารจัดการอย่างไร นายพลบีทูกล่าวว่า ขณะนี้การค้าขายยังไม่สะดวก แต่เราก็วางระบบการปกครองชั่วคราวไว้แล้ว โดยสภาบริหารชั่วคราวรัฐคะเรนนี (IEC) ทำหน้าที่ดูแลตามด่านชายแดน ทำหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)
“ในคะเรนนีมีกลุ่มถืออาวุธหลายกลุ่ม อาทิ ดาวแดง ดาวขาว PDF KNDF และพวกเรา (KA) หากปล่อยให้ต่างคนต่างคุมพื้นที่คงไม่ดี ดังนั้นเราจึงเกิดสภาบริหารฯ IEC ก็สามารถดูแลได้ทั้งหมด ตอนนี้ตำรวจเราก็มีแล้ว เริ่มที่จัดกำลังได้ 400-500 คน ผ่านการฝึกฝนเรียบร้อยแล้ว” ผู้นำ KA กล่าว
เมื่อถามว่าการสู้รบที่ยืดเยื้อจะส่งผลกระทบต่อแผนการปกครองของ IEC หรือไม่ นายพลบีทูกล่าวว่า ไม่เพราะ
การสู้รบส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเมือง แต่เราปกครองได้เพราะประชาชนอยู่รอบนอก และส่วนมากยังคงต้องหนีภัยการสู้รบ ซ่อนตัวอยู่ในป่านับแสนคน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ชายแดนคะเรนนีอยู่ใกล้กรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงของพม่า เป็นไปได้หรือไม่ที่เปิดเกมรุกขยับเข้าไปใกล้ นายพลบีทูกล่าวว่า กองทัพพม่าเกิดความหวั่นไหวในเรื่องนี้มาก เพราะเส้นทางจากชายแดนรัฐคะเรนนีไปแค่ 4 ชั่วโมงก็ถึงเนปิดอว์ ดังนั้นเขาจึงถล่มเมืองลอยก่อและพยายามยึดกลับไปให้ได้
“ระหว่างชายแดนคะเรนนีไปเนปิดอว์ มีกองกำลังอีกหลายกลุ่ม รวมทั้ง KNU กองพล 2 ซึ่งเราร่วมมือกันอยู่ และมีจุดยุทธศาสตร์ คือเขื่อนลอปิตา Lawpita dam สำคัญมาก เขื่อนนี้อยู่ติดเมืองลอยก่อ แต่ประชาชนของเรากลับไม่ได้ใช้ไฟ ส่งไฟไปทั่ว ส่งไปย่างกุ้ง จนเราเรียกร้องอยู่นานมาก ไฟฟ้าก็ส่งมาถึงแม่เจ๊ะ แต่ทุกวันนี้ไฟดับแล้ว เขื่อนลอปิตาญี่ปุ่นสร้างไว้” นายพลบีทู กล่าว
เมื่อถามย้ำว่ากองกำลังปฏิวัติจะรุกคืบไปถึงเนปิดอว์หรือไม่ นายพลบีทูกล่าวว่า ต้องค่อยๆ ทำไป ตอนนี้มีกองกำลัง KNU รุกได้ถึงพะโคแล้ว โดยมีการปะทะอยู่ในหลายพื้นที่ซึ่งรุกคืบเข้าไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) อีก เราก็รุกเข้าไป
“เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้รับรายงานทหารพม่าเอายาบ้ามาปล่อยในคะเรนนี เอาเข้ามาทางรัฐฉาน เอามาแจกชาวบ้าน เอาเข้ามาพร้อมกับสินค้า มีพ่อค้าจากข้างนอกเข้ามา วันก่อนเราจับได้คนหนึ่งเป็นคนจีนอายุ 52 ปี ขนยาบ้า 8,000 เม็ด ปนมากับสินค้า เราพยายามปราบและไล่จับ แต่ก็จับไม่หมด ผมคิดว่าเป็นยุทธศาสตร์ของเขาที่ใช้ยาบ้ามาทำลาย เรากำชับทหารอย่างเข้มงวดไม่ให้ยุ่งกับยาบ้า ใครฝ่าฝืนมีโทษรุนแรง” นายพลบีทู กล่าว
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.