ภาพจากแฟ้มภาพ

ชาวพม่าในญี่ปุ่นรวมพลังยื่นจดหมายถึงสวนสัตว์ฟุกุโอกะคัดค้านแผนรับช้าง 4 เชือกจากเมียนมา หวั่นรัฐบาลทหารพม่าอ้างการรับช้างคือการแสดงความสนับสนุนของญี่ปุ่น แต่ผู้บริหารสวนสัตว์ยืนยันแผนรับช้างไม่เกี่ยวประเด็นทางการเมือง แต่มีเป้าหมายเพื่อศึกษาวิจัยและอนุรักษ์ ทั้งยังเป็นข้อตกลงซึ่งบรรลุในสมัยอดีตรัฐบาลพลเรือนพรรค NLD

สำนักข่าว NHK รายงานว่า โคเฮ คาวาโกเอะ ผู้อำนวยการสวนสัตว์แห่งเมืองฟุกุโอกะ (Fukuoka City Zoo) เตรียมตัวต้อนรับช้าง 4 เชือก อายุตั้งแต่ 3–22 ปีจากสวนสัตว์ย่างกุ้งในเมียนมาภายในเดือนกรกฎาคม 2024 และมีแผนเปิดให้คนเข้าชมช้างทั้ง 4 เชือกในเดือนตุลาคมที่จะถึง เพื่อให้ผู้สนใจได้เข้าชมและศึกษาชีวิตความเป็นอยู่ของช้างสายพันธุ์เอเชีย

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ไม่นาน ชาวพม่าในญี่ปุ่นได้รวมตัวกันยื่นจดหมายถึงสวนสัตว์ฟุกุโอกะ เรียกร้องให้ทางสวนสัตว์พิจารณาเลื่อนการต้อนรับช้างทั้ง 4 เชือกออกไปจนกว่าเมียนมาจะกลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตย เพราะเกรงรัฐบาลทหารพม่าจะแอบอ้างว่าการยอมรับช้างเชื่อมสัมพันธ์เท่ากับทางการญี่ปุ่นสนับสนุนรัฐบาลทหารพม่าซึ่งยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนในปี 2021 และก่อเหตุละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

สำนักข่าว NHK และ Asahi รายงานอ้างอิงคำให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมของผู้อำนวยการสวนสัตว์ฟุกุโอกะ ซึ่งยืนยันว่าเขาไม่สามารถทำตามข้อเรียกร้องของชาวพม่าในญี่ปุ่นได้ เพราะโครงการนี้ตกลงกันอย่างลุล่วงตั้งแต่ปี 2019 ซึ่งเป็นยุครัฐบาลพลเรือนเมียนมาของออง ซาน ซูจี และพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยพม่า (NLD) โดยทางสวนสัตว์ได้เตรียมโรงเลี้ยงช้างขนาดใหญ่ 3 เท่าของโรงเลี้ยงช้างที่เคยมีในญี่ปุ่น พร้อมจัดเตรียมสระน้ำที่เหมาะสมกับขนาดของช้างทั้ง 4 เชือก และย้ำว่าโครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อศึกษาวิจัยทางชีวภาพและส่งเสริมการอนุรักษ์พันธุ์ช้างเอเชีย ไม่เกี่ยวกับประเด็นการเมืองแต่อย่างใด

ด้วยเหตุนี้ เครือข่ายชาวพม่าในญี่ปุ่นจึงเสนอข้อเรียกร้องเพิ่มเติม โดยสำนักข่าว SCMP ระบุว่ามิน ส่วย ผู้นำการเคลื่อนไหวครั้งนี้ ขอให้สวนสัตว์ฟุกุโอกะติดตั้งป้ายและคำบรรยายเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งที่ยังดำเนินอยู่ในเมียนมา ควบคู่ไปกับคำบรรยายเกี่ยวกับช้างทั้ง 4 เชือก พร้อมย้ำว่าโศกนาฏกรรมที่เกิดจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลทหารพม่าปัจจุบันทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 5,000 คน และมีผู้พลัดถิ่นที่อยู่มากกว่า 3 ล้านคน เพื่อไม่ให้คนที่จะเข้าเยี่ยมชมช้างทั้ง 4 เชือกเข้าใจผิดเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมา

รายงานของ SCMP ระบุด้วยว่ารัฐบาลญี่ปุ่นไม่ได้ประกาศระงับสัมพันธ์กับรัฐบาลทหารพม่าเหมือนกับประเทศฝั่งตะวันตกอย่างสหรัฐอเมริกา แคนาดา และยุโรป ทั้งยังดำเนินความร่วมมือในด้านต่างๆ เรื่อยมา จนกระทั่งปี 2023 มีรายงานว่าเรือขนส่งและกู้ภัยที่รัฐบาลญี่ปุ่นมอบให้เมียนมาใช้รับส่งนักเรียนถูกนำไปใช้ลำเลียงกำลังพลทหารพม่าซึ่งอาจเกี่ยวพันการสังหารและละเมิดสิทธิมนุษยชนพลเรือน ทำให้ฟุมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ประกาศว่าจะทบทวนมาตรการความช่วยเหลือที่ญี่ปุ่นส่งมอบให้เมียนมาเสียใหม่

ขณะที่ปัจจุบันมีเหตุการณ์ที่อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและเมียนมาเพิ่มเติม โดยช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2024 สำนักข่าว Reuters รายงานว่าชาวญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้จัดการร้านค้าปลีก Aeon Orange กิจการร่วมทุนระหว่างญี่ปุ่นและเมียนมา เป็นหนึ่งในผู้ต้องหาหลายสิบคนซึ่งถูกจับกุมในนครย่างกุ้งของเมียนมา ด้วยข้อหาโก่งราคาขายข้าวเกินเกณฑ์ที่รัฐบาลทหารพม่ากำหนด โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นจึงเรียกร้องให้ตำรวจพม่าปล่อยตัวชาวญี่ปุ่นที่ถูกจับกุมโดยเร็ว แต่ย้ำว่าจะให้ความร่วมมือในการสอบสวนข้อเท็จจริงของข้อกล่าวหาโก่งราคาข้าวอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ มูลนิธิสัตว์ป่าโลก (WWF) ได้ออกมาแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ช้างป่าในพม่า โดยระบุว่านับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2560 เป็นต้นมา พบช้างป่า ในเขตประเทศเมียนมาร์ ไม่ต่ำกว่า 20 ตัว ถูกฆ่าและถลกหนังอย่างเหี้ยมโหด โดยมีสาเหตุหลักมาจากกระแสความต้องการ “หนังช้าง” ที่เพิ่มสูงมากขึ้นจนผิดปกติในช่วงปีที่ผ่านมา จากข้อมูลของ WWF International ระบุว่า ปัจจุบันมีช้างป่า สายพันธุ์เอเชียหลงเหลืออยู่ในป่าน้อยกว่า 50,000 ตัว ซึ่งในประเทศเมียนมาร์ คาดว่าเหลืออยู่ไม่ถึง 2,000 ตัวทั่วประเทศ และหากอัตราการล่ายังดำเนินต่อไป ช้างในประเทศเมียนมาร์อาจสูญพันธุ์ภายในไม่กี่ปีนี้
——-

อ้างอิง:

Asahi, Mainichi, NHK, Reuters, SCMP

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.