เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2567 เฟสบุ๊กเพจ Ngao Leng Mun Mai รายงานว่ากองทัพพม่าได้ใช้เครื่องบินโจมตีเมืองเล่าก์ก่าย ในเขตพื้นที่ของกองทัพโกก้าง ทางเหนือรัฐฉาน โดยเมื่อเวลา 02.00 ของเช้าวันนี้ ระหว่างที่ประชาชนกำลังหลับไหลต่างก็ต้องตื่นและวิ่งหนีกันโกลาหลทั่วตัวเมืองในยามวิกาล เนื่องจากกองทัพพม่าใช้ปืนและระเบิดโจมตีในตัวเมืองเล่าก์ก่ายอย่างรุนแรง โดยเหตุโจมตีครั้งนี้ น่าจะเป็นการตอบโต้หลังจากที่กองทัพโกก้าง MNDAA และพันธมิตรบุกยืดหลายเมืองทางเหนือของรัฐฉาน และมัณฑะเลย์ จนเป็นเหตุให้ทหารพม่าสูญเสียกำลังพลและพื้นที่ในการควบคุมเพิ่มอีกหลายเมือง
สำนักข่าว Irrawaddy รายงานเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า กองทัพฝ่ายต่อต้านได้รุกคืบจนสามารถยึดฐานทัพพม่าตอนเหนือของรัฐฉานและตอนเหนือของมัณฑะเลย์ได้ทั้งหมด 80 แห่ง รวมถึงกองบัญชาการใหญ่อีก 10 แห่ง นอกจากนี้ฝ่ายต่อต้านยังสามารถจับกุมทหารพม่าทั้งยศพันโทและพันตรี นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตหลายสิบคนในปฏิบัติการ 1027 ในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะที่สื่อไทใหญ่หลายสำนักได้รายงานว่า กองทัพว้า UWSA ได้ส่งกำลังพลเข้าไปในเมืองต้างยานทางตอนเหนือของรัฐฉาน โดยทางกองทัพว้าได้อ้างว่า การส่งกำลังพลเข้าไปในเมืองครั้งนี้ เนื่องจากได้รับการร้องขอจากประชาชนให้เข้าไปปกป้อง เพื่อไม่ให้สงครามลุกลามไปยังเมืองต้างยาน โดยได้เจรจาและตกลงกับทางฝ่ายกองทัพพม่าก่อนที่จะส่งกำลังพลเข้าไปเมืองต้างยานแล้ว โดยเมืองต้างยานนั้นอยู่ในเขตควบคุมของทางการพม่า
ด้านโฆษกของกองทัพว้ากล่าวว่า “นี่เป็นมาตรการป้องกันที่จะหยุดยั้งความขัดแย้งทางตอนเหนือของรัฐฉานไม่ให้ลุกลามไปยังเมืองต้างยาน เรารักษาความเป็นกลางและปฏิเสธความขัดแย้ง เราต้องการความสงบสุขและความมั่นคงในเมืองต้างยาน และเชื่อว่าการวางกำลังทหารของเราจะสร้างสรรค์ในทุกด้าน”
อีกด้านหนึ่งกองทัพรัฐฉานเหนือ SSPP/SSA ได้ส่งทหารเข้ายึดเมืองใหย๋ ซึ่งเป็นอีกเมืองหนึ่งของรัฐฉาน โดยโฆษกของกองทัพรัฐฉานเหนือ SSPP/SSA ระบุว่า การเข้ามายึดเมืองใหย๋ในครั้งนี้เพื่อปกป้องประชาชนในพื้นที่และปกป้องพื้นที่ควบคุมของตน ซึ่งทางกลุ่มได้เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่นี้มานานแล้ว การเข้ามายึดเมืองใหย๋ก็เพื่อไม่ให้กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์อื่นเข้ามาปกครองโดยก่อนจะเข้ามายึดเมืองได้แจ้งให้กับทางกองทัพโกก้างรับทราบแล้ว
ขณะที่ประชาชนชาวไทใหญ่บางส่วนยังแคลงใจว่า กองทัพรัฐฉานเหนือนั้นอาจยึดเมืองใหย๋ให้กับกองทัพว้าหรือไม่ เพราะเมืองใหย๋นั้นตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สามารถเชื่อมไปยังเมืองอื่นๆทางเหนือรัฐฉาน
“เฮินก๋ายาง” นักวิเคราะห์ชาวไทใหญ่ มองว่า การเข้ายึดเมืองต้างยานของกองทัพว้านั้น ทำให้สถานการณ์การเมืองในรัฐฉานยากที่จะคาดเดาได้ และกองทัพว้าจะยึดเมืองต้างยานเหมือนที่ยึดเมืองโหป่างหรือไม่นั้น ยังคงเป็นเรื่องที่ยังไม่อาจวางใจได้ แม้ทางว้าจะบอกว่า เป็นการทำตามคำขอร้องของประชาชนในพื้นที่ก็ตาม เช่นเดียวกันไม่อาจวางใจได้ว่ากองทัพว้าจะยึดเมืองล่าเสี้ยวด้วยหรือไม่ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า กองทัพสามพี่น้อง อย่างกองทัพปะหล่อง TNLA กองกำลังโกก้าง MNDAA และกองทัพอาระกันนั้นก็ไม่ต่างจากลูกสมุนของกองทัพว้า
นักวิเคราะห์ชาวไทใหญ่ยังเชื่อว่า จีนไม่ยอมรับหากกองทัพพม่านั้นถึงขั้นล่มสลาย เพราะจีนเองก็ยังไม่มั่นใจว่า ฝ่ายต้อต้านจะสามารถรวบรวมอำนาจจัดตั้งประเทศได้ หากโค่นกองทัพพม่าได้สำเร็จ แต่อย่างไรก็ตาม เส้นทางการค้าจากย่างกุ้ง -มัณฑะเลย์ – ล่าเสี้ยว – เมืองหมู่เจ้ ไปจนถึงชายแดนจีนนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า กำลังทำให้จีนได้รับผลกระทบอย่างหนักทางการค้าและการทำธุรกิจ และจีนไม่อาจนิ่งนอนใจได้ เพราะไม่รู้ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพม่านั้นจะยืดเยื้อไปอีกนานแค่ไหน
นักวิเคราะห์ไทใหญ่ตั้งข้อสังเกตว่า การที่กองทัพว้าข้ามแม่น้ำสาละวินเพื่อมายึดเมืองต้างยานนั้น อาจมีจุดประสงค์เปิดเส้นทางการค้าเส้นทางใหม่ให้พี่ใหญ่อย่างจีนหรือไม่ โดยเฉพาะเส้นทางมัณฑะเลย์ – หนองเขียว – สี่ป้อ – แสงแก้ว – โหยะ – ต้างยาน – ป๋างซาง เป็นเรื่องที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง
———-