เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 สำนักข่าว Irrawaddy รายงานว่า กองกำลังโกก้าง MNDAA( Myanmar National Democratic Alliance Army)ประกาศว่าสามารถยึดกองบัญชาการกองทัพภาคตะวันออกเฉียงเหนือของกองทัพพม่า ซึ่งอยู่ในเมืองล่าเสี้ยวได้แล้วเบ็ดเสร็จ เมื่อเวลา 04.00 น.ของเช้าวันเดียวกันนี้ ซึ่งหมายความว่าสามารถยึดล่าเสี้ยวซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของรัฐฉานได้สำเร็จ หลังจากที่ใช้เวลาโจมตีเป็นเวลา 23 วัน โดยทางกองกำลังโกก้างประกาศว่า เป็นชัยชนะในหน้าประวัติศาสตร์การต่อสู้กับกองทัพพม่า
ทั้งนี้กองทัพพม่าได้ตอบโต้กองกำลังโกก้างด้วยการโจมตีทางอากาศอย่างรุนแรงในเมืองเล่าก์ก่าย เป็นเหตุให้ตึกอาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหายอย่างหนัก และมีประชาชนได้รับบาดเจ็บ
ขณะที่ในเมืองกุดซึ่งอยู่ในเขตมัณฑะเลย์ กองทัพเพื่อประชาชน ( People’s Defence Force: PDF) ภายใต้รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (National Unity Government:NUG) และกองกำลังปะหล่อง (Ta’ang National Liberation Army-TNLA) สามารถยึดเมืองกุดได้สำเร็จแล้วเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีประชาชนในเมืองออกมาต้อนรับทหารฝ่ายต่อต้านด้วยความยินดี
ทั้งนี้มีการประเมินกันว่า น่าจะมีตัวเลขผู้พลัดถิ่นภายใน (IDP) ประมาณ 150,000 คนได้หลบหนีไปยังเมืองมัณฑะเลย์ ทั้งจากทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐฉานและเขตมัณฑะเลย์ทางตอนเหนือ นับตั้งแต่ปฏิบัติการ 1027 กลับมาอีกครั้งเมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยอาสาสมัครที่ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในเมืองมัณฑะเลย์เผยว่า สิ่งที่ยากลำบากสำหรับผู้ลี้ภัยที่เดินทางมาจากพื้นที่อื่นคือ ประชาชนเหล่านี้ที่ไม่มีคนรู้จัก หรือเครือญาติในเมืองใหญ่อันดับสองของพม่าจึงต้องเผชิญกับปัญหาการไม่มีที่อยู่อาศัย และไม่สามารถเช่าบ้านในราคาที่สูงเกินไป นอกจากนี้ยังต้องเผชิญกับสถานการณ์อาหารแพง ไร้งานทำและความเสี่ยงจะถูกกรรโชกจากเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นสถานการณ์ที่สิ้นหวังที่ผู้ลี้ภัยต้องเผชิญต่อไป
สำนักข่าว Irrawaddy รายงานด้วยว่า เมืองมัณฑะเลย์นั้น ต้องรองรับผู้ลี้ภัยจำนวนกว่า 1.7 ล้านตลอดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยผู้ลี้ภัยกลุ่มแรกมาจากเขตพื้นที่สู้รบในเขตสะกาย และกลุ่มที่สองมาจากผู้ลี้ภัยในภาคเหนือของรัฐฉาน หลังฝ่ายต่อต้านใช้ปฏิบัติการ 1027 เมื่อปีที่แล้ว
ขณะที่ยูเอ็นได้ออกมารายงานว่า มีผู้ลี้ภัยทางภาคเหนือของพม่าราว 41,000 คน ได้อพยพไปยังเมืองมัณฑะเลย์และเมืองทางใต้ของรัฐฉาน