สำนักข่าว Newslaundry รายงานว่าชายชาวอินเดีย 2 รายถูกบริษัทจีนหลอกให้มาทำงานที่ไทย แต่พอมาถึงกรุงเทพฯ กลับหายตัวไป จนกระทั่งวันที่ 22 กรกฎาคม 2024 ครอบครัวที่อินเดียจึงได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าทั้งคู่ถูกลักพาตัวไปฝั่งเมียนมา และถูกเรียกค่าไถ่คนละ 200,000-250,000 รูปี (ราว 86,000-107,000 บาท) เพื่อแลกกับการปล่อยตัว พร้อมระบุว่าถ้าไม่จ่ายเงินค่าไถ่ การโทรศัพท์กลับบ้านครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้าย
ผู้ถูกลักพาตัวรายแรก คือ เซีย ปันจาทัน (Zia Panjatan) อดีตพนักงานธนาคาร วัย 31 ปี รายที่สอง คือ โมฮัมหมัด อะริฟ (Mohammad Arif) อดีตนักบัญชี วัย 29 ปี โดยทั้งคู่มีประวัติคล้ายกันคือเป็นชาวอินเดียที่เคยทำงานด้านการเงินอยู่ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) แต่ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเพิ่งตกงานและได้รับการเสนองานใหม่จากบริษัทจีนซึ่งกล่าวอ้างว่าเป็นธุรกิจด้านสารสนเทศและมีสำนักงานอยู่ในประเทศไทย
บริษัทดังกล่าวเป็นผู้จัดการซื้อตั๋วเครื่องบินและดำเนินการเรื่องหนังสือรับรองให้ทั้งคู่เดินทางมายังกรุงเทพฯ ในวันที่ 10- 11 กรกฎาคม 2024 ทว่าหลังจากนั้นทั้งคู่ก็ขาดการติดต่อกับครอบครัวไปนาน และโทรศัพท์มือถือไม่มีสัญญาณ จนกระทั่งวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา ครอบครัวทั้งคู่ได้คุยกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งอ้างว่าเป็นตัวแทนบริษัทผู้ว่าจ้าง แต่เป็นการโทรโดยใช้เบอร์โทรศัพท์ของเซียและโมฮัมหมัด ผู้หญิงคนดังกล่าวยืนยันว่าครอบครัวต้องจ่ายเงินแทนทั้งคู่คนละ 100,000 รูปีตามนโยบายของบริษัท แม้ทางครอบครัวจะบอกถึงสถานะทางการเงินที่มีข้อจำกัด ผู้หญิงที่คุยโทรศัพท์ก็ยังย้ำว่าต้องจ่ายเงินตามระเบียบ
หลังจากนั้นอีก 2 วัน เซียและโมฮัมหมัดโทรกลับไปคุยกับครอบครัวที่อินเดียอีกครั้ง โดยบอกว่าพวกเขาถูกกักตัวอยู่ในเมียนมา และถูกบังคับให้ทำงานแปลกๆ ผ่านวิดีโอคอล แต่ทั้งคู่บอกว่าถ้าครอบครัวจ่ายเงินค่าไถ่ ทางบริษัทจะปล่อยตัวพวกเขาพร้อมหนังสือเดินทาง และสัญญาว่าจะพาไปส่งที่สนามบิน แต่ถ้าไม่จ่ายเงินค่าไถ่ นี่อาจเป็นการพูดคุยกันครั้งสุดท้าย ทั้งยังเปลี่ยนจำนวนเงินที่ต้องโอนเป็น 200,000 และ 250,000 รูปี โดยกรณีของเซียมีการระบุให้ครอบครัวโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารในรัฐเกรละของอินเดีย ขณะที่ครอบครัวของโมฮัมหมัดได้รับแจ้งให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่อียิปต์
สื่ออินเดียรายงานอ้างอิงความเห็นของสถานทูตอินเดียในเมียนมา คาดว่าทั้งคู่ถูกนำตัวไปทำงานและถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวที่เมืองเมียวดีในรัฐกะเหรี่ยง ซึ่งอยู่ตรงข้ามชายแดนฝั่งไทยในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และอาจมีชาวอินเดียอีก 3 รายที่ตกเป็นเหยื่อนอกเหนือจากทั้งคู่ เพราะก่อนหน้านี้เคยมีกลุ่มวิศวกรไอทีชาวอินเดียถูกแก๊งอาชญากรรมไซเบอร์จีนหลอกไปทำงานที่เมียวดีมาก่อนแล้ว และเพิ่งจะได้รับความช่วยเหลือนำตัวกลับมายังฝั่งไทยเพื่อรอกระบวนการส่งตัวกลับประเทศเมื่อไม่นานมานี้
ขณะเดียวกัน ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Syed Aamir Hasni ซึ่งระบุว่าตนเองเป็นญาติของเซีย ปันจาทัน ได้โพสต์ภาพและข้อมูลในเฟซบุ๊กของกลุ่มชาวอินเดียในประเทศไทย (Indian in Thailand) เพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาและกระจายข่าวเกี่ยวกับการหายตัวไปครั้งนี้
สำนักข่าวชายขอบได้ติดต่อขอข้อมูลจากผู้ใช้รายนี้ และได้รับทราบเพิ่มเติมว่าเซียมาถึงไทยเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม โดยเขาสามารถเดินทางเข้าประเทศได้ตามปกติ และเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในย่านเอกมัย แต่หลังจากนั้นก็หายตัวไป ครอบครัวไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งได้รับโทรศัพท์เรียกค่าไถ่จากผู้ลักพาตัวไปกักขังหน่วงเหนี่ยว
อ้างอิง:
FB Group Indian in Thailand https://www.facebook.com/groups/thaindian