เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 น.ส.สดใส สร่างโศก ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนจับตาน้ำท่วมอุบล-เขื่อนแม่น้ำโขง เปิดเผยว่าสมาชิกของกลุ่มประมาณ 20 คนจะเดินทางจาก จ.อุบลราชธานี ไปยื่นหนังสือคัดค้านโครงการเขื่อนพูงอย ( Phu Ngoy dam ) ที่กระทรวงพลังงาน และกระทรวงต่างประเทศ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ หลังจากนั้นวันที่ 1 สิงหาคม จะไปยื่นหนังสือที่รัฐสภา สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และบริษัทซีพี
น.ส.สดใส กล่าวว่า ในวันที่ 31กรกฎาคม เวลา 10.00 น. ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร จะมีการจัดเวที “A Better world is Possible: ถกถามแผน PDP2024 เพื่อคนใช้ไฟและโลกที่ดีกว่าเดิม” เป็นเสียงจากประชาชน 5 ภูมิภาคต่อร่างแผน PDP2024 และต่อมาในเวลา 13.30 น. ตัวแทนประชาชน 5 ภูมิภาคเข้ายื่นหนังสือข้อเสนอต่อร่างแผน PDP 2024 ถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ณ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ทั้งนี้เป็นการรวมตัวของ JustPow และเครือข่ายจากภาคส่วนต่างๆ ได้แก่ สภาองค์กรของผู้บริโภค สื่อมวลชนส่วนภูมิภาค เช่น Epigram, Lanner, Louder ภาคประชาสังคม เช่น International Rivers, มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW), Greenpeace Thailand ภาควิชาการ Climate Finance Network Thailand (CFNT), SDG Move ผู้ประกอบการเพื่อสังคม: แสงสุรีย์ พาวเวอร์ ซึ่งได้ดำเนินการรวบรวมข้อเสนอแนะและความคิดเห็นของประชาชนจาก 5 ภูมิภาคทั่วประเทศเกี่ยวกับร่างแผน PDP2024
“ร่างแผน PDP เป็นหัวใจสำคัญของการวางแผนพลังงานของชาติ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ สิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนส่งผลต่อภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของประชาชนทุกคนในฐานะผู้ใช้ไฟ ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตด้านพลังงานของประเทศ ตัวแทนประชาชนจากทั้ง 5 ภูมิภาค กว่า 50 คน จึงจะเดินทางเข้ายื่นหนังสือรวบรวมข้อเสนอต่อร่างแผน PDP2024 ต่อท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน” น.ส.สดใส กล่าว
ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนจับตาน้ำท่วมอุบล กล่าวอีกว่า ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ทางกลุ่มจะไปรัฐสภา ยื่นหนังสือคัดค้านให้ คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ซึ่งมีนายรังสิมันต์ โรม เป็นประธาน แล้วคิดว่าจะยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน และขอพบกับ สว.พันธุ์ใหม่ส่วนช่วงบ่ายจะเดินทางไปยื่นหนังสือที่บริษัท ซีพี ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ฯ จากนั้นจะไปที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.)
“โดยความพร้อมเขาทำการศึกษาอีไอเอสำหรับโครงการเขื่อนภูงอย โดยบริษัทของคนไทยไปทำมาเรียบร้อย แผน PDP ก็ระบุว่าจะรับซื้อไฟฟ้าเพิ่มเติมจากลาว 3,500 เมกะวัตต์ แสดงว่าเขามีความพร้อมมากขึ้น แล้วในแผนนั้นเขียนไว้ชัดเจนว่า 3,500 เมกะวัตต์จะถูกใช้ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเขื่อนที่มีความพร้อมในการสร้างคือเขื่อนพูงอย เขื่อนสานะคาม และเขื่อนเซกอง เพราะฉะนั้นตอนที่ไปยื่นหนังสือเราก็จะยื่นหนังสือในนามของเขื่อนที่จะสร้างในอีสาน 2 แห่ง และจะมีพี่น้องตัวแทนนอกจากในอุบลราชธานี ยังมีพี่น้องจากน้ำโขง ถ้ามาแบบนี้แสดงว่าโครงการเขื่อนบ้านกุ่มก็อาจจะถูกปลุกขึ้นมาก็ได้ คนที่อยู่ใน สนทช.ก็บอกว่าเตรียมปัดฝุ่นเขื่อนบ้านกุ่มขึ้นมาอีก ถ้ารัฐบาลประกาศชัดเจนแบบนี้เราก็บวกจำนวนพลังงานจากเขื่อนบ้านกุ่ม พูงอย สานะคาม ก็จะประมาณ 3,500 เมกะวัตต์” นางสดใส กล่าว
เครือข่ายประชาชนจับตาน้ำท่วมอุบล กล่าวอีกว่า การไปยื่นหนังสือให้หน่วยงานต่างๆครั้งนี้เพื่อ 1.เรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนแผน PDP ที่จะซื้อไฟฟ้าล้นเกิน และ 2. หยุดสนับสนุนการสร้างเขื่อนบนแม่น้ำโขง
“ปฏิกิริยาของหน่วยงานราชการทุกหน่วยเราก็เพิ่งเคยเห็นว่าไม่มีใครอยากจะให้เขื่อนพูงอยเกิดขึ้น แต่เขาพูดไม่ได้ มันจะสร้างปิดกั้นแม่น้ำโขงตอนล่าง ซึ่งระบบนิเวศของปลาก็มาจากทะเลสาบเขมรและมาจากหลี่ผีมหานที 4 พันดอน ตรงนั้นก็มีเขื่อนดอนสะโฮงแล้ว ปิดกั้นทางปลาแน่นอน”น.ส.สดใสกล่าว
น.ส.สดใสกล่าวว่า อีสานเมื่อถึงฤดูน้ำหลากตอนนี้มีน้ำท่วมทุกปี น้ำจากน้ำมูล น้ำโขง น้ำชี จะไหลลงมารวมกันที่อุบลแต่หากมีการสร้างเขื่อนภูงอย น้ำสาขาจะไหลออกไปสู่แม่น้ำโขงไม่ได้เพราะเขื่อนพูงอยปิดกั้นอยู่ ด่านแรกที่น้ำจะท่วมก็คืออุบล แม่น้ำโขงจะกลายเป็นอ่างเก็บน้ำเป็นระยะทาง 80 กิโลเมตร เขื่อนภูงอยจะสร้างอยู่ที่บ้านขอนแก่น แขวงจำปาสัก ห่างจากเมืองปากเซ 18 กิโลเมตร แสดงว่ามันก็ต้องไหลย้อนเข้ามาในแม่น้ำมูลอีก 20 กิโลเมตร แล้วไหลย้อนขึ้นไปข้างบน
“ถ้ามีโครงการเขื่อนบ้านกุ่มก็อีก 7 กิโลเมตร จะทำให้แก่งตะนะที่แม่น้ำมูนจมอยู่ใต้น้ำไปเลย จากรายงานจะเห็นว่าเขื่อนปากมูนได้รับผลกระทบ 40 เปอร์เซ็นต์ นี่คือผลกระทบที่เกิดขึ้น ขนาดว่าการศึกษาไม่ได้มีละเอียดมาก เรายังไม่ได้พูดถึงพรมแดนถ้าน้ำท่วมพรมแดนก็เปลี่ยนด้วยเพราะว่าตามข้อตกลงของฝรั่งเศส กำหนดพรมแดนไทยลาวอยู่ที่ร่องน้ำลึกเป็นเขต ถ้าน้ำท่วมแล้วตรงไหนจะเป็นของลาวของไทย เราจึงได้ไปร้องคณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ เพราะจะกระทบต่อความมั่นคงของประเทศด้วย” นส.สดใส กล่าว