เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2567 ที่ฐานปฎิบัติการทางทหารแห่งหนึ่งริมแม่น้ำสาละวินของกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Liberation Army- KNLA) แห่งสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union- KNU) ได้มีการจัดงานวันรำลึกวีรชนรัฐกะเหรี่ยง ปีที่ 74 (74st Karen Martyrs’ day) โดยมีทหาร KNU และชาวบ้านราว 500 คนเข้าร่วมงาน
พลเอกบอจ่อแฮ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) KNLA กล่าวสุนทรพจน์ในงานว่า วันนี้เราต่างทราบกันดีว่า เป็นปีที่ 74 ของวันวีรชนกะเหรี่ยง กว่า 70 ปีของการปฏิวัติเพื่อประเทศชาติของเรามีประชาชน และทหารจำนวนมากที่ต้องสละชีวิต จึงต้องการบอกว่า วันนี้เป็นวันสำคัญของพวกเราชาวกะเหรี่ยง เพราะชีวิตเป็นสิ่งมีค่า และคนหนึ่งคนได้สละชีวิตเพื่อประเทศ เพื่อประชาชน เพื่ออิสรภาพของประชาชน ไม่มีอะไรที่มีคุณค่ามากกว่านี้แล้วบนโลกใบนี้
รอง ผบ.สส.KNLA กล่าวว่าสำหรับชาวกะเหรี่ยง วันนี้จึงเป็นวันสำคัญและมีคุณค่าที่สุดสำหรับพวกเรา จึงจัดงานรำลึกถึงวีรชนผู้กล้า ที่สละชีวิตเพื่อประเทศชาติ เพื่ออิสรภาพของประชาชน เราระลึกถึงพวกเขา ให้คุณค่าพวกเขา ถึงแม้เราจะได้อิสระภาพแล้วก็ต้องระลึกถึงพวกเขา เป็นสิ่งที่จะอยู่กับพวกเราตลอดไป วีรชนของเราได้สละชีวิตของพวกเขาในหนทางที่แตกต่างกัน ขณะเดียวกันเราก็ระลึกถึงลูกเมีย ครอบครัวของพวกเขา
“พ่อเฒ่า แม่เฒ่าบางคนต้องทนอยู่อย่างเจ็บปวด แม่ม่ายบางคนต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ลูกๆบางคนน่าสงสาร พ่อของพวกเขาได้สละชีวิตเพื่อประชาชนของพวกเขา เราทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการระลึกถึงพวกเขา ยกย่องถึงคุณค่าของชีวิตที่พวกเขาได้สละให้กับประเทศชาติ ประชาชน ขออวยพรพวกเขา และต้องการให้พวกเขาจงภูมิใจว่าคนในครอบครัว ได้เสียสละชีวิตเพื่อคนหมู่มาก เพื่ออิสรภาพของประเทศชาติ เขาตายเพื่อคนหมู่มากมีคุณค่าเหนือสิ่งอื่นใด คนที่จะมอบความรักให้เพื่อนฝูงมากกว่านี้ไม่มีแล้ว วีรชนของเรา พวกเขาไม่ได้ทำเพื่อตนเอง ไม่ใช่ทำเพื่อครอบครัวอย่างเดียว แต่พวกเขาทำเพื่อประชาชนของพวกเขา”พล.อ.บอจ่อแฮ กล่าว
พล.อ.บอจ่อแฮ กล่าวว่า พวกเขาตัดสินใจที่จะทำเพื่อประชาชนของเขา พวกเขายินดีที่จะสละชีวิตเพื่อประชาชนดังนั้นเราต้องยินดีกับพวกเขาที่เขาทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แล้ว แต่พวกเราที่ยังมีชีวิตอยู่ หน้าที่ของเรายังไม่สมบูรณ์ หากเราไม่ทำภารกิจของเราให้บรรลุตามเป้าหมาย เหมือนกับเราได้ละเมิดคุณค่าชีวิต พวกเขาที่ได้สละไป เรามีหนี้ มีภาระที่ต้องทำให้สำเร็จ ประเทศชาติ อิสรภาพต้องซื้อมาด้วยเลือดเนื้อ ทุกชนชาติไม่สามารถขอประเทศมาได้เปล่าๆ หรือซื้อมา ดังนั้นเราต้องรบเพื่อประชาชนและต้องรบอยู่ตลอดเวลา รบกับความไม่ถูกต้อง รบกับความยากลำบาก แม้กระทั่งในใจเราเรายังต้องรบกับตัวเอง จิตใจที่ดีของพวกเรายังต้องรบกับจิตใจไม่ดีในตัวเรา ดังนั้นความไม่ถูกต้องที่จะส่งผลกับประชาชน เราต้องสกัดกั้น รบกับมันตลอด
“การปฏิวัติไม่ใช่เรื่องสนุก เต็มไปด้วยน้ำตา ความเศร้า ความเจ็บปวด ดังนั้นเราต้องจบภาระกิจนี้โดยเร็ว ชีวิตเรา เราอย่าเสียดายเลย หากเราทบทวนดูดีๆ เราตายได้เสมอ เรานอนอยู่เฉยๆ ถึงเวลาเราก็ตายได้ การตายอย่างมีค่า เราลองคิดว่า เราจะรวมตัวกับประชาชนของเรา ช่วยกันได้อย่างไร ช่วยในมุมไหน และจะตายที่ไหนก็ตาม แต่การตายนั้นจะเป็นการตายอย่างมีคุณค่า” ผู้นำกองทัพ KNU กล่าว
พล.อ.บอจ่อแฮ กล่าวว่า เรายังไปไม่ถึงเป้าหมายเพราะยังทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ที่ไม่เหมาะสมกับเป้าหมาย เราไม่ควรจะโทษใคร ไม่ควรโทษโอกาสและเวลา เพราะโอกาสดีเสมอ เวลาดีเสมอ ทุกเช้าเป็นโอกาสที่ดีเสมอ ขึ้นอยู่กับจุดยืนของเรา ความคิด ความเข้าใจของเรา และอุปสรรคมีตลอดเวลา แต่อุปสรรคก็ไปเคียงคู่กับความสุขสงบตลอดเวลา ดังนั้นไม่ต้องเสียใจหรือน้อยใจ
“ผมต้องการบอกผู้กล้าทุกท่านว่า เราจะทำดีที่สุดเพื่อประชาชนของเรา และประชาชนของเราสิ่งดีๆที่พวกท่านได้ทำไว้ จงทำต่อไป ชีวิตที่ได้สละไปแล้วแต่เป้าหมายเรายังไม่สมบูรณ์ เรายังต้องสละชีวิตอีกไหม เราจะยังทำต่อไป เราตายเพื่อคนรุ่นหลังจะได้สุขสบาย เราได้ทนทุกข์ยากเพื่อชนรุ่นหลัง ความทุกข์ยากที่เราต้องเผชิญมีหลายรูปแบบ ที่เราเห็นได้ก็มี ไม่เห็นก็มี เรารู้ก็มี ไม่รู้ก็มี สุดท้ายสิ่งที่เราต้องทำคือ ทบทวน พิจารณาตนเอง ว่าความไม่ดี ไม่ถูกต้องอยู่ที่ไหน อยู่ในตัวเราหรือเปล่า แล้วเราต้องรบกับมัน รบเพื่อประชาชนของเรา รบเพื่อครอบครัวของเรา หรือ รบเพื่อตัวเอง เพราะ เราต้องรบกับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ผมจึงต้องการให้กำลังใจทุกคน” รองผบ.สส.KNLA กล่าว
พล.อ.บอจ่อแฮกล่าวว่า เราจะจบภาระกิจการปฏิวัติโดยเร็วโดยต้องการความร่วมมือจากคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ ความเข้าใจ รวมตัวกันตามที่ทำได้ นี่จะทำให้เรามีพลังมากขึ้น “ถ้าคุณทำ ฉันดู ถ้าคุณดู ฉันไม่ทำ แน่นอนว่าไม่มีวันสำเร็จแน่นอน สถานการณ์การปฏิวัติที่ยังไปไม่ถึงเป้าหมายเพราะสิ่งเหล่านี้”
“เยาชนคนรุ่นใหม่ของเราที่มีความรู้ เข้าใจสถานการณ์ ประชาชนและทหารของผม เราจะให้คุณค่าในตนเอง และเปิดใจให้กว้างเพื่อร่วมมือกัน ถ้าผมพึ่งคุณ ถ้าคุณพึ่งผม ถ้าเราพึ่งกัน เราจะมีพลัง เราต่างมีข้อบกพร่อง และมองข้ามมันไป ไม่ต้องลืมสิ่งเหล่านั้น แต่จำไว้เป็นบทเรียน แก้ไขมันเพื่อก้าวต่อไป การจะไปให้ถึงเป้าหมายที่ประชาชนต้องการเป็นหน้าที่ของทุกคน เราจะใช้ชีวิตอย่างเห็นคุณค่าของกันและกัน สิ่งศักดิ์สิทธิจะคุ้มครอง เพราะเราใช้ชีวิตบนความถูกต้อง ความกล้าหาญจะพาไปถึงเส้นชัยของพวกเรา”พล.อ.บอจ่อแฮ กล่าว
———–
