โดย Oh Ra Ra นักข่าวคะฉิ่น
เป็นเวลาเกือบ 25 วันแล้วที่กองกำลังร่วมที่นำโดยกองกำลังคะฉิ่น (Kachin Independent Army-KIA) โจมตีกองพันทหารราบสภาบริหารแห่งรัฐพม่า (SAC) ที่ 437 ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากทางเข้าเมืองบะเหม่า (Bhamo) รัฐคะฉิ่น โดยสภาทหาร SAC ได้ตัดสายสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตในรัฐคะฉิ่น จนขาดการติดต่อโดยสิ้นเชิง
เมืองโมมก (Momauk) เป็นสถานที่ที่การต่อสู้ดุเดือดที่สุด โดยจุดนี้อยู่ห่างจากเมืองบะเหม่า ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของรัฐคะฉิ่นประมาณ 11 กม. และห่างจากไลซา (Laiza) ซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานบัญชาการของกองกำลังคะฉิ่น KIA 81 กม. และอยู่ติดชายแดนจีน
เมืองโมมก มีประชากรราว 10,000 คน ตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 มีการสู้รบดุเดือด ส่งผลให้ประชาชนต้องหนีไปยังเมืองบะเหม่าและพื้นที่อื่นๆ
ฐานทหารของ SAC 437 เป็นฐานสุดท้ายในเมืองโมมก ถูกโจมตีโดยกองกำลังร่วมที่นำโดยกองกำลังคะฉิ่น KIA ตั้งแต่เดือนเมษายน และปะทุล่าสุดอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2567 ฐานดังกล่าวตั้งอยู่บนทางหลวงระหว่าเมืองมิตจีนา-บะเหม่า เป็นกองพันในสังกัดกองบัญชาการปฏิบัติการหมายเลข (21) ที่ตั้งอยู่ในเมืองบะเหม่า
นาย U Gyi Myint ทนายความ ซึ่งเคยสัมผัสฐานกองพันดังกล่าวในฐานะนักโทษการเมืองในปี 2521 ให้สัมภาษณ์ว่าฐานพม่า 437 เป็นฐานประวัติศาสตร์ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างดี มีระบบอุโมงค์ใต้ดินเพื่อป้องกันการโจมตีโดยพรรคคอมมิวนิสต์แห่งพม่า
“แน่นอนว่ามีอุโมงค์ใต้ดินและช่องทางการสื่อสาร อีกด้านหนึ่งเป็นภูเขา ซึ่งเป็นการตั้งค่ายทหารเชิงยุทธศาสตร์ พวกเขาได้สร้างอุโมงค์และสนามเพลาะ เพื่อที่ศัตรูจะไม่สามารถยิงปืนใหญ่มาโจมตีได้ง่ายๆ” อดีตนักโทษการเมืองกล่าว และว่าโครงสร้างที่แข็งแกร่งเช่นนี้ของฐานดังกล่าวถูกสร้างขึ้นเมื่อ 45 ปีที่แล้ว และตอนนี้อาจมีการติดตั้งระบบต่างๆ ที่มีความก้าวหน้ากว่านี้แล้ว
ฐานพม่า 437 เปรียบดังหน้าด่านที่กองทัพม่า SAC ต้องปกป้องอย่างสุดกำลัง
ทำไมการโจมตีฐานแห่งนี้จึงยากนัก?
กองพัน 437 ไม่เหมือนกับกองพันอื่น ข้อมูลจากแหล่งข่าวทางทหารคะฉิ่น KIA ที่ได้เข้าร่วมการรบภาคพื้นดิน ระบุว่าค่ายพม่าดังกล่าวมีกำลังพลจากค่ายอื่นใกล้เคียงเข้ามาเสริม และสามารถรับมือการโจมตีของโดรน ปืนใหญ่และอาวุธหนักได้ตลอดเวลา
“ฐานนี้อยู่ใกล้กับเมืองบะเหม่าด้วย ทำให้สามารถขอความช่วยเหลือเรื่องอาวุธหนักได้ตลอดเวลา และได้เพิ่มกำลังพลอยู่เสมอ” แหล่งข่าวทหารคะฉิ่นกล่าว และว่าพื้นที่ค่ายดังกล่าวมีขนาดกว้างใหญ่ นอกจากจะตั้งอยู่บนที่ราบ และมีโดรนของสภาทหาร SAC และเครื่องบินรบโจมตีทางอากาศทุกวัน
หากดูตามแผนที่ Google ฐานทัพทหารพม่า 437 เทียบกับปีก่อนหน้านี้คือ 2564 และ 2566 เห็นได้ว่ามีการสร้างป้อมยามและสนามเพลาะ ฐานนี้เป็นกองพันแนวหน้า อย่างไรก็ตามไม่ทราบชื่อผู้บังคับบัญชากองพันในปัจจุบัน เนื่องจากมีการหมุนเวียนและสับเปลี่ยนกำลังพลจำนวนมาก
เมื่อกองกำลังผสมที่นำโดยกองกำลังคะฉิ่น KIA เริ่มโจมตี ประมาณการว่ามีทหารพม่าในฐานดังกล่าวประมาณ 500 คน อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวจากแนวหน้าที่ร่วมปฏิบัติการโจมตีระบุว่าอาจมีเพียง 200 กว่าคนเท่านั้น
กองกำลังของ SAC ประจำการอยู่ในอาคาร 3 ชั้น จำนวน 3 หลัง ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีดับเพลิงฝั่งตรงข้ามถนน และต่อต้านอย่างไม่ลดละ แหล่งข่าวแนวหน้ากล่าวว่ามีปัญหาในการยึดค่ายดังกล่าว เนื่องจากสภาทหารทำการโจมตีทางอากาศหลายครั้ง
“ตั้งแต่เราเริ่มรุก พวกเขาไม่ยอมรับเลย พอฝั่งพม่ากำลังพลาดพลั้งก็จะมีเครื่องบินมาทิ้งระเบิดใส่ทหารฝั่งเรา ซึ่งเป็นเรื่องยากมาก พวกเขาเตรียมพร้อมอย่างดีที่จะป้องกันตัวเองด้วยเครื่องบินและรถถัง ดังนั้นเมื่อพวกเขาใกล้จะยึดฐานนี้ได้ ระเบิดลง ก็ต้องล่าถอย” แหล่งข่าวกล่าว
ในระหว่างการสู้รบที่กินเวลานานกว่า 20 วัน ทั้ง 2 ฝ่ายยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิต แต่ไม่มีฝ่ายใดได้เปิดเผยข้อมูลใดๆ ซึ่งปฏิบัติการครั้งนี้เป็นกองกำลังผสมของกองกำลังคะฉิ่น KIA ร่วมกับกองกำลังอาระกัน (Arakan Army-AA) และกองกำลังประชาชน KPDF
แหล่งข่าวจากแนวหน้าระบุว่าระหว่างการโจมตีฐานพม่า SAC 437 ด่านหน้าของ SAC บางแห่งรอบๆ ค่ายถูกยึดได้โดยกองกำลังฝ่ายต่อต้าน จนเหลือเพียงค่ายหลักเพียงค่ายเดียวเท่านั้น
เจ้าหน้าที่ทหารคะฉิ่น KIA ที่เข้าร่วมในการรบกล่าวว่ากองกำลังผสมยังคงปฏิบัติการโจมตีค่ายหลักดังกล่าวต่อไป และสามารถยึดพื้นที่โดยรอบได้แล้ว
“ป้อมยามของพม่าที่ตั้งอยู่รอบๆ ค่ายได้ถูกยึดไว้ทั้งหมดแล้ว และตอนนี้กำลังทุ่มเทความพยายามทั้งหมดเข้าไปในค่าย ไม่มีด้านอื่น” เขากล่าว
ภาพวิดีโอการรบเพื่อยึดค่าย SAC 437 ยังเผยให้เห็นรถหุ้มเกราะคันหนึ่งที่เชื่อว่าถูกทำลายไปแล้ว
เจ้าหน้าที่ทหารคะฉิ่น KIA ระบุว่าค่ายทหารพม่าราวร้อยละ 80 ถูกยึดได้ได้ และสามารถจับกุมทหารพม่าได้แล้วจำนวนหนึ่ง
ค่ายทหารพม่า SAC ฐาน 437 เปรียบเสมือนกำแพงรักษาความปลอดภัยขนาดใหญ่ของเมืองบะเหม่า ดังนั้นกองทัพทหาร SAC จึงปกป้องอย่างดุเดือด
หากกองกำลังร่วมที่นำโดยกองกำลังคะฉิ่น KIA ไม่โจมตีฐานพม่า 437 ซึ่งเป็นฐานสำคัญ ทางกองกำลังคะฉิ่น KIA จะต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของฐานทัพทหารที่ KIA ยึดครองในพื้นที่ดังกล่าว รวมทั้งฐานบัญชาการของ KIA ในเมืองไลซา
“แม้จะมีโดรน ปืนใหญ่ และเครื่องบินรบมาสนับสนุนฝั่งพม่า แต่เราก็ยังมั่นใจว่าจะสามารถยึดฐาน 437 แห่งนี้ได้ เราตัดสินใจแล้วที่จะต่อสู้เพื่อที่เราจะได้ยึดมันมาไว้ได้” แหล่งข่าวทหารคะฉิ่นกล่าว
———-