เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 “นางนาง” ชาวบ้านในเมืองตองจี รัฐฉาน ประเทศพม่าให้สัมภาษณ์ “สำนักข่าวชายขอบ” ว่า หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เธอต้องต่อแถวซื้อน้ำมันโดยใช้เวลากว่าครึ่งวัน ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน เนื่องจากไม่สามารถทำงานหารายได้หรือทำอย่างอื่นได้ เพราะต้องมาต่อแถวซื้อน้ำมัน โดยขณะนี้ราคาน้ำมันในเมืองตองจีอยู่ที่ราคาลิตรละ 2,885-3,095 จั้ต (ประมาณ 16- 19 บาท ตามอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดมืด วันที่ 20 สิงหาคม 2567)
ก่อนหน้านี้สื่อท้องถิ่นในพม่าหลายสำนักรายงานว่า ปริมาณน้ำมันในเมืองตองจีขาดแคลน ทำให้บางพื้นที่ราคาพุ่งถึงลิตรละ 7,000 จั้ต ประชาชนต้องต่อแถวซื้อน้ำมันทั้งวันนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีหลายสาเหตุที่ทำให้น้ำมันขาดแคลน ทั้งจากสภาพเศรษฐกิจที่หยุดชะงักตั้งแต่รัฐประหารซึ่งเริ่มต้นวิกฤติการเมืองและสงครามในประเทศที่ลากยาวมาตั้งแต่ปี 2564
ขอบคุณภาพจาก Nang Nang
“เมื่อวันก่อนฉันมาต่อแถวซื้อน้ำมันตั้งแต่ 6 โมงเช้า และได้มาเติมน้ำมันเอาตอน 9 โมง แต่ก็ถูกจำกัดให้ซื้อน้ำมันได้แค่ละ 30,000 จั้ตเท่านั้น” นางนางกล่าวและว่า สถานการณ์ทั่วไปในวันที่ 20 สิงหาคม ปั๊มต่างๆ เริ่มเปิดขายน้ำมันมากขึ้น แต่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับความต้องการของประชาชนในพื้นที่
นางนางยังกล่าวว่า ขณะนี้เอง เมืองตองจีต้องรองรับประชาชนที่หนีภัยสงครามจากทางเหนือของรัฐฉานจำนวนมาก แม้แต่ธุรกิจเหมืองแร่จากภาคเหนือของรัฐฉานก็มาตั้งการผลิตหรือขนส่งผ่านเส้นทางในพื้นที่ เพราะเส้นทางขนส่งสินค้าทางเหนือของรัฐฉานถูกปิดเนื่องจากสงคราม
“ฉันเชื่อว่าหลายๆ ปัจจัยที่ทำให้เราขาดแคลนน้ำมันในวันนี้ ปัญหาการเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ หลังเกิดสงครามในภาคเหนือของรัฐฉาน ทำให้ธนาคารในหลายเมืองไม่สามารถถอนเงินได้ ประชาชนต้องไปถอนเงินในพื้นที่อื่นๆ ทำให้ขาดแคลนเงินสด ไม่สามารถถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มได้ แถมต่อมาธนาคารยังจำกัดการถอนเงิน ฉันไม่ค่อยได้ติดตามข่าวสารนัก แต่ฉันก็ได้ยินมาว่า ประเทศเรากำลังขาดแคลนเงินดอลลาร์” เธอกล่าว
ขอบคุณภาพจาก Nang Nang
นางนางกล่าวว่า ครอบครัวของเธอที่ทำธุรกิจส่วนตัวได้รับผลกระทบหลายด้าน ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ รวมไปถึงสงครามทางภาคเหนือของรัฐฉานทำให้สินค้าขายไม่ได้ รวมถึงการขาดแคลนไฟฟ้าก็ส่งผลต่อกระบวนการผลิต อัตราแลกเปลี่ยนและค่าเงินจั้ตที่ร่วงลงอย่างหนัก ทำให้ราคาต้นทุนขยับสูงขึ้นตามไปด้วย ประกอบไฟฟ้าที่ขาดแคลน จึงทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจจำเป็นต้องซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องปั่นไฟ ส่งผลให้ราคาสินค้าที่ผลิตออกมาแพงขึ้น
“ฉันแทบไม่อยากติดตามข่าวสารในบ้านเมือง เพราะมันยิ่งทำให้ฉันเครียด ก็ต้องอดทนสู้ต่อไปในภาวะเช่นนี้” เธอกล่าว
ขณะที่สำนักข่าว Irrawaddy รายงานว่าธนาคารกลาง (Central Bank of Myanmar-CBM) ของพม่า เตรียมอัดฉีดเงินอีก 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจนำเข้าน้ำมันเพื่อหวังแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำมันในประเทศ นอกจากเมืองตองจีแล้ว ในหลายๆ เมืองใหญ่ของพม่า เช่น เมืองย่างกุ้ง ต่างประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมัน และปั๊มบางแห่งต้องปิดให้บริการเพราะไม่มีน้ำมัน
คนขับรถรายหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่า เขาต้องคิวนานถึง 4 คืน เพื่อให้ได้เติมน้ำมันในย่างกุ้ง และมีการจำกัดการซื้อน้ำมัน โดยเหตุขาดแคลนน้ำมันทำให้โรงเรียนและธุรกิจบางแห่งต้องปิดชั่วคราว
