สำนักข่าว Tai TV Online รายงานเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2567 โดยอ้างอิงจากสำนักข่าว Mekong News ว่า ขณะนี้ทางการพม่าได้สั่งห้ามผู้ประกอบการขายตั๋วรถให้กับประชาชนที่เป็นชาวว้า ปะหล่อง โกก้าง และชาวยะไข่ พร้อมสั่งห้ามประชาชนที่มีเชื้อสายชาติพันธุ์เหล่านี้ออกนอกพื้นที่ที่อาศัยอยู่ไปยังพื้นที่อื่นๆอย่างเมืองย่างกุ้ง เมืองมัณฑะเลย์และเมืองเชียงตุงโดยเรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยจากผู้ประกอบการรถในรัฐฉานซึ่งระบุว่าคำสั่งนี้ได้ออกมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยมุ่งเป้าไปที่ผู้ประกอบการรถโดยสารในเมืองน้ำจ๋าง โขหลำ เมืองกุ๋นเหง เมืองก่าลี่ เมืองเป็ง เมืองเชียงตุง และเมืองท่าขี้เหล็ก
สื่อไทใหญ่ยังรายงานว่า ชาติพันธุ์ที่กล่าวมาข้างต้น หากเดินทางมักถูกทางการพม่าเรียกตรวจสอบและสั่งห้ามไม่ให้เดินทางออกจากพื้นที่ ขณะที่ในพื้นที่ทางภาคเหนือพม่าก็มีการเข้มงวดเช่นเดียวกัน โดยหากต้องการเดินทางยังต้องมีใบรับรองและยืนยันว่าเป็นพลเมืองอยู่ในพื้นที่จริง อย่างไรก็ตามหากเป็นชาติพันธุ์อื่นอย่างไทใหญ่หรือพม่านั้น ไม่ได้เข้มงวดจากทางการแต่อย่างใด
หญิงชาวโกก้างรายหนึ่งซึ่งเดินทางมาจากเขตทางเหนือของรัฐฉานเพื่อมายังทางภาคใต้เปิดเผยว่า ระหว่างที่เธอเดินทางนั้นถูกตรวจค้นและสอบปากคำอย่างหนัก โดยเธอต้องการเดินทางไปยังเมืองท่าขี้เหล็ก แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากถูกคำสั่งห้ามดังกล่าวแม้คนขับรถโดยสารต้องการขายตั๋วรถให้กับเธอก็ตาม
ทั้งนี้สาเหตุที่ทางการพม่าออกคำสั่งนี้คาดว่าเป็นเพราะพ่ายสงครามและสูญเสียหลายเมืองให้กับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์อย่างกองกำลังโกก้าง MNDAA กองกำลังปะหล่อง TNLA กองทัพอาระกัน AA การที่ห้ามประชาชนว้าด้วยนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด
อีกสถานการณ์หนึ่งในเมืองน้ำลั่น ทางเหนือของรัฐฉานซึ่งสำนักข่าว SHAN รายงานว่า ประชาชนในพื้นที่กำลังประสบปัญหาไม่สามารถไปทำงานในไร่ในสวนได้ เนื่องจากกองทัพพม่าได้ยิงปืนใหญ่และทิ้งระเบิดในพื้นที่โดยไม่สนว่าเป็นเขตชุมชนหรือจะทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บหรือไม่ เรื่องนี้ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากเป็นฤดูทำนา
“เราไม่รู้ว่า กระสุนปืนจะตกลงมาเมื่อไหร่ จึงต้องอยู่อย่างระมัดระวัง” ชาวบ้านยังเผยอีกว่า หากปีนี้ไม่ได้ทำนา เชื่อว่าปีหน้าจะยิ่งทำให้ชาวบ้านประสบความยากลำบากเรื่องอาหารมากยิ่งขึ้นเท่านั้น และประชาชนยังประสบกับปัญหาไม่มีงานทำเพราะสงคราม โดยขณะนี้พบว่าประชาชนจำนวนมากได้เดินทางออกจากพื้นที่แล้ว เนื่องจากสถานการณ์ไม่ปลอดภัย โดยกองทัพพม่าได้เริ่มยิงปืนใหญ่ใส่ชุมชนเมืองน้ำลั่นตั้งแต่เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
อีกด้านหนึ่ง หน่วยบรรเทาทุกข์ท้องถิ่นเปิดเผยว่า มีประชาชนในเมืองล่าเสี้ยวเสียชีวิตจากสงครามมากกว่า 300 คน ในช่วงการสู้รบระหว่างกองทัพพม่าและกองกำลังโกก้าง MNDAA เป็นเวลา 1 เดือน โดยจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถเก็บกู้ร่างของผู้เสียชีวิตได้ทั้งหมด ทำให้บางศพนั้นเหลือแต่โครงกระดูก