สำนักข่าว DVB และ Tai TV Online รายงานเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2567 ว่า จีนได้ส่งจดหมายเตือนมายังกองทัพตะอางหรือปะหล่อง (Ta’ang National Liberation Army-TNLA)ให้ยุติการทำสงครามใกล้ชายแดนพม่า – จีน ทางเหนือของรัฐฉานทันที ไม่เช่นนั้นจีนจะใช้วิธีสั่งสอนและตอบโต้ โดยผู้นำของ TNLA ได้ออกมายอมรับกับสื่อ DVB ว่าได้รับจดหมายเตือนจากคณะกรรมการด้านความมั่นคงในเมืองฉ่วยหลี่ ฝั่งตรงข้ามชายแดนพม่าจริง
ขณะที่กองทัพจีนได้ฝึกซ้อมรบใกล้ชายแดนพม่า – จีน ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ซึ่งในจดหมายเตือนจากจีนระบุว่า ทางกองกำลังปะหล่อง TNLA จะต้องยุติสงครามก่อสงครามทันทีและหันมาร่วมมือกับจีนในการสร้างเสถียรภาพบริเวณชายแดนจีน – พม่า และทางเหนือของรัฐฉานทั้งหมด นอกจากนี้ยังกองกำลังปะหล่อง TNLA ยังต้องลบภาพการก่อสงครามให้หายไป และไม่แตะต้องทรัพย์สินและผลประโยชน์ของจีนและพลเมืองจีนที่อยู่ในพม่าให้ได้รับความเสียหาย แต่หากกองกำลังปะหล่อง TNLA ไม่เชื่อฟัง ทางจีนจะใช้มาตรการสั่งสอนจนทำให้ทางกลุ่มต้องพ่ายแพ้ และทาง TNLA ยังต้องรับผิดชอบกับผลที่ตามอีกด้วย
ในจดหมายยังระบุอีกว่า จีนจะช่วยเหลือให้เกิดเสถียรภาพในพม่าและจะสนับสนุนให้กองกำลังปะหล่อง TNLA สามารถบริหารและปกครอง และยังสัญญาจะช่วยเหลือในเรื่องความเป็นอยู่ และเรื่องสิทธิตามความเหมาะสมให้กับ TNLA
เมื่อเร็วๆนี้ ทางกองกำลังปะหล่อง TNLA และพันธมิตรสามารถยึดกองพันทหารปืนใหญ่อีก 2 แห่งของกองทัพพม่า ที่อยู่ทางภาคใต้ของเมืองหนองเขียว ซึ่งเหตุปะทะระหว่างทั้งสองฝ่ายยังคงดำเนินต่อไป
อีกด้านหนึ่ง สำนักข่าว SHAN รายงานว่า เครื่องบินรบของกองทัพพม่าได้ขึ้นลงจอดในสนามบินเมืองน้ำจ๋างเป็นจำนวนมาก และตลอดทั้งวัน หลังจากที่เมืองล่าเสี้ยวรวมถึงสนามบินในเมืองล่าเสี้ยวที่เคยถูกใช้เป็นสถานที่ขนส่งเสบียงอาหาร อาวุธและกำลังพลของกองทัพพม่าได้ถูกยึดโดยกองกำลัง MNDAA โดยประชาชนในเมืองน้ำจ๋างรู้สึกกังวลว่า สงครามทางเหนือของรัฐฉานจะลุกลามมายังทางใต้ของรัฐฉาน ซึ่งเครื่องบินส่วนใหญ่ที่ลงจอดในสยามบินเมืองน้ำจ๋างมุ่งหน้าและปฏิบัติภารกิจในสงครามทางเหนือของรัฐฉาน
อีกด้านนหนึ่งก็เกิดกระแสข่าวลือว่า กองกำลังติดอาวุธหลายพันคนมุ่งหน้าขึ้นมายังเมืองต้นตี (เมืองตองจี) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐฉาน รวมทั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีกระแสข่าวออกมาว่ากองทัพ PDF เรี่ยไรเงินเพื่อซื้อโดรนเข้าโจมตีเมืองตองจีซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐฉาน อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในเมืองหลวงของรัฐฉานยังคงปกติ แต่ในช่วงหลายปีมานี้ มีกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์หลายกลุ่มลงมาเคลื่อนไหวทางภาคใต้ของรัฐฉาน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงมากขึ้นเรื่อยๆ